ข่าวต่างประเทศ - ตั้งแต่ถูกขายทิ้งออกจากเครือฟอร์ด ดูเหมือนว่าแอสตัน มาร์ตินจะเนื้อหอม เมื่อมีข่าวว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์วางแผนที่จะซื้อหุ้นของแบรนด์รถสปอร์ตชื่อดังรายนี้ โดยในช่วงแรกจะจับมือกันก่อนโดยให้การสนับสนุนเครื่องยนต์สำหรับวางในรถสปอร์ต ก่อนที่จะขยายความร่วมมือในด้านอื่นๆ ตามมาในภายหลัง
แหล่งข่าวของเมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดเผยผ่านทางหนังสือพิมพ์ในอังกฤษว่า ในตอนนี้ค่ายดาว 3 แฉกมีความสนใจในแอสตัน มาร์ตินอย่างมาก โดยหวังพึ่งเทคโนโลยีของผู้ผลิตรถสปอร์ตรายนี้เป็นพื้นฐานในการต่อยอดลุยตลาดซูเปอร์คาร์ และในขณะเดียวกันเบนซ์ก็จะสนับสนุนเครื่องยนต์ให้กับแอสตัน มาร์ตินด้วย
นอกจากนั้นข่าวยืนยันว่าในตอนนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเจรจากับกลุ่มนายทุนชาวคูเวต Kuwaiti Investment Authority ที่ถือหุ้นอยู่ในแอสตัน มาร์ติน ไม่มีการเปิดเผยจำนวนหุ้นที่ค่ายดาว 3 แฉกจะได้รับ แต่ข่าวระบุว่า เดมเลอร์ เอจี บริษัทแม่ของเบนซ์จะนำหุ้นจำนวน 7% ของบริษัทมาแลกกับหุ้นของแอสตัน มาร์ตินในครั้งนี้
แอสตัน มาร์ตินถูกกลุ่มนายทุนอังกฤษที่นำโดยนายเดวิด ริชาร์ดส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทโปรไดร์ฟร่วมกับกลุ่มนายทุนคูเวต 2 รายเข้าซื้อหุ้นจำนวน 80% เมื่อกลางปีที่แล้วด้วยวงเงิน 848 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 24,000 ล้านบาท
ขณะที่ทางเบนซ์แม้ว่าจะมีพันธมิตรอย่างแม็กลาเรนในการช่วยพัฒนารถสปอร์ต แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ทันต่อการรุกตลาดอย่างเต็มตัว
อีกทั้งในปลายปี 2008 ซูเปอร์คาร์หนึ่งเดียวที่อยู่ในตลาดอย่างเอสแอลอาร์ก็จะเลิกผลิตรุ่นคูเป้ ก่อนที่จะเลิกผลิตรุ่นเปิดประทุนในปี 2009 ตามกำหนดการที่วางเอาไว้ ทำให้ค่ายดาว 3 แฉกขาดรถสปอร์ตระดับหรูในการทำตลาด
แหล่งข่าวของเมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดเผยผ่านทางหนังสือพิมพ์ในอังกฤษว่า ในตอนนี้ค่ายดาว 3 แฉกมีความสนใจในแอสตัน มาร์ตินอย่างมาก โดยหวังพึ่งเทคโนโลยีของผู้ผลิตรถสปอร์ตรายนี้เป็นพื้นฐานในการต่อยอดลุยตลาดซูเปอร์คาร์ และในขณะเดียวกันเบนซ์ก็จะสนับสนุนเครื่องยนต์ให้กับแอสตัน มาร์ตินด้วย
นอกจากนั้นข่าวยืนยันว่าในตอนนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์กำลังเจรจากับกลุ่มนายทุนชาวคูเวต Kuwaiti Investment Authority ที่ถือหุ้นอยู่ในแอสตัน มาร์ติน ไม่มีการเปิดเผยจำนวนหุ้นที่ค่ายดาว 3 แฉกจะได้รับ แต่ข่าวระบุว่า เดมเลอร์ เอจี บริษัทแม่ของเบนซ์จะนำหุ้นจำนวน 7% ของบริษัทมาแลกกับหุ้นของแอสตัน มาร์ตินในครั้งนี้
แอสตัน มาร์ตินถูกกลุ่มนายทุนอังกฤษที่นำโดยนายเดวิด ริชาร์ดส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทโปรไดร์ฟร่วมกับกลุ่มนายทุนคูเวต 2 รายเข้าซื้อหุ้นจำนวน 80% เมื่อกลางปีที่แล้วด้วยวงเงิน 848 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 24,000 ล้านบาท
ขณะที่ทางเบนซ์แม้ว่าจะมีพันธมิตรอย่างแม็กลาเรนในการช่วยพัฒนารถสปอร์ต แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ทันต่อการรุกตลาดอย่างเต็มตัว
อีกทั้งในปลายปี 2008 ซูเปอร์คาร์หนึ่งเดียวที่อยู่ในตลาดอย่างเอสแอลอาร์ก็จะเลิกผลิตรุ่นคูเป้ ก่อนที่จะเลิกผลิตรุ่นเปิดประทุนในปี 2009 ตามกำหนดการที่วางเอาไว้ ทำให้ค่ายดาว 3 แฉกขาดรถสปอร์ตระดับหรูในการทำตลาด
