xs
xsm
sm
md
lg

ซีดานเอเชียลุยชิคาโก้ มอเตอร์โชว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้จะเป็นงานโชว์ที่จัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา แต่ชิคาโก้ มอเตอร์โชว์ 2008 ซึ่งมีขึ้นในระหว่างวันที่ 8-17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็ถือว่ามีความน่าสนใจ และไม่ได้มีเฉพาะรถยนต์ใหม่สัญชาติอเมริกันมาเปิดตัวเท่านั้น แต่รถยนต์แบรนด์เอเชียก็ยังมาเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่งและแต่ละค่ายก็มีของใหม่มาประชันโฉมกัน โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ตัวถังซีดานทั้งระดับครอบครัวและระดับหรู ซึ่งมีเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาถึง 3 รุ่น

1.Acura RL : ถ้าบอกชื่ออาร์แอลออกมา คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในแถบอเมริกาเหนืออาจจะส่ายหัวเพราะไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกชื่อฮอนด้า ลีเจนด์แล้ว คนที่ร้อง ‘อ๋อ’ คงมีมากขึ้น เพราะนี่คือ การนำฮอนด้า ลีเจนด์มารีแบรนด์ในชื่ออาคูรา อาร์แอลเพื่อขายให้กับลูกค้าในแถบนี้ และในขณะที่ญี่ปุ่น ลีเจนด์ตัวถังปัจจุบันยังไม่มีการปรับโฉม แต่ทางด้านอาคูรากลับแซงหน้าด้วยการเผยโฉมรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมาแล้ว

ตัวถังนี้รู้จักกันในรหัส KB1 และเป็นเจนเนอเรชันที่ 3 ของลีเจนด์ซึ่งเปิดตัวขายมาตั้งแต่ปี 2005 ส่วนในรุ่นปรับโฉมนี้เพิ่มความสวยสดรอบคันด้วยรูปลักษณ์ที่มีการปรับปรุงให้สวยและสปอร์ตขึ้น โดยเฉพาะด้านหน้ามีการออกแบบกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมและกันทรงใหม่เพื่อให้สอดรับกับสไตล์ของรถยนต์ยุคปัจจุบันของค่ายนี้

สำหรับคนที่ชอบความเปลี่ยนแปลงภายในห้องโดยสารอาจจะต้องผิดหวังสักเล็กน้อย เพราะว่าสิ่งที่ต่างจากเดิมแบบสัมผัสได้มีแค่พวงมาลัยลายใหม่ที่ออกแบบให้กระชับมือขึ้น และคันเกียร์แบบร่องเพื่อให้ดูสมกับที่เป็นรถยนต์สำหรับผู้บริหาร
แน่นอนว่าอาร์แอลใหม่ยังอัดแน่นด้วยความไฮเทคเช่นเคย ทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ SH-AWD ซึ่งล้อซ้าย-ขวาบนเพลาชับหลังและสามารถแยกการกระจายแรงบิดอย่างเป็นอิสระจากกันเพื่อประโยชน์สูงสุดในเรื่องของการทรงตัวโดยเฉพาะในขณะเข้าโค้ง หรือเมื่อขับบนถนนเปียกลื่น หรือระบบพรีเซฟตี้ที่ฮอนด้าเรียกว่า CMBS รวมถึงความสะดวกของระบบนำร่องผ่านดาวเทียมพร้อม
อีกสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมสำหรับในรุ่นปรับโฉม คือ การเปลี่ยนเครื่องยนต์ ซึ่งแต่เดิมเป็นวี6 SOHC VTEC 3,500 ซีซี 290 แรงม้า
ส่วนในรุ่นปรับโฉมยกขุมพลังวี6 รุ่นใหม่ที่มีความจุ 3,700 ซีซี VTEC 300 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 37.4 กก.-ม. ที่ 5,000 รอบ/นาที ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับเอสยูวีรุ่นใหญ่อย่างอาคูรา เอ็มดีเอ็กซ์ โดยการส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะที่มีโหมด Sequential Sport Shift ให้ผู้บริหารที่ชอบความเร้าใจในการขับได้เปลี่ยนเกียร์เล่นตามความต้องการ
ในด้านมิติตัวถังไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนปรับโฉมมากนัก บนตัวถัง 4 ประตูมีความยาว 4,970 มิลลิเมตร กว้าง 1,847 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร และระบบกันสะเทือนเป็นแบบด้านหน้าปีกนก 2 ชั้น และด้านหลังแบบมัลติลิงก์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเปิดตัวแล้ว แต่กว่าจะเริ่มส่งมอบและทำตลาดในอเมริกาเหนือต้องรอกันนานถึงเกือบค่อนไปทางปลายปีเพราะว่านี่เป็นรถยนต์โมเดลปี 2009 ดังนั้นอาจกลายเป็นเรื่องที่ว่าคนอเมริกันได้เห็นก่อน แต่สุดท้ายคนที่มีสิทธิ์ซื้อมาขับก่อนก็ยังเป็นลูกค้าในญี่ปุ่นเหมือนเดิม เพราะแว่วข่าวว่าฮอนด้าจะวางขายไมเนอร์เชนจ์ของลีเจนด์ในญี่ปุ่นช่วงเดือนเมษายนนี้

2.Hyundai Sonata : ขอแสดงความเสียใจสำหรับแฟนๆ ของฮุนไดในบ้านเราที่เพิ่งถอยโซนาโตออกมาใช้งาน เพราะในตอนนี้ไมเนอร์เชนจ์ หรือรุ่นปรับโฉมของโซนาตาตัวถังนี้ถูกเปิดตัวออกมาแล้ว พร้อมกับชูจุดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าทางด้านราคากับอุปกรณ์มาตรฐานเหมือนเดิมเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์ครอบครัวของที่นี่ ซึ่งในปัจจุบันมีการแข่งขันที่ดุเดือดเอาเรื่อง

โซนาตารุ่นปัจจุบัน ถือเป็นรถยนต์ครอบครัวเพียงรุ่นเดียวในตลาดสหรัฐอเมริกาที่มีราคาต่ำกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 660,000 บาท แต่มีอุปกรณ์ไฮเทคอย่างระบบควบคุมการทรงตัวหรือ ESC ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่รุ่นย่อยที่สูงขึ้นไปก็ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครันชนิดล้ำหน้าคู่ปรับทั้งนิสสัน อัลติมา, ฮอนด้า แอคคอร์ด, โตโยต้า คัมรี่ หรือเชฟโรเลต มาลิบูที่เพิ่งพ่วงตำแหน่งรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งอเมริกาเหนือประจำปี 2008 จากงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ในรุ่นปรับโฉมที่เป็นการอัพเกรดความสดของรูปลักษณ์ภายนอกจากเวอร์ชันดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 2005 นั้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,400 ซีซี VVT รหัส Theta II ที่ได้รับการรีดกำลังเพิ่มขึ้นจาก 163 มาเป็น 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 23.2 กก.-ม. จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือรุ่นใหม่อย่างอัตโนมัติ 5 จังหวะพร้อมโหมด SHIFTRONIC สำหรับเลือกเล่นเกียร์เอง ซึ่งในรุ่น 4 สูบทางฮุนไดมั่นใจถึงขนาดระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า คัมรี่ และฮอนด้า แอคคอร์ดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเกียร์แบบไหนก็ตาม โซนาตา ไมเนอร์เชนจ์ประหยัดน้ำมันกว่าทั้งการขับในเมืองและการขับบนไฮเวย์

ส่วนในรุ่นวี6 ทวินแคม 16 วาล์ว VVT รหัส Lamda ถือเป็นไฮไลต์เด่นเพราะมีการเพิ่มม้าถึง 15 ตัว โดยที่ความจุยังคงเดิมที่ 3,300 ซีซี แต่มีกำลังสูงสุด 249 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 31.6 กก.-ม. และจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะเพียงแบบเดียวเท่านั้น

ทั้งรุ่น 4 สูบและ 6 สูบแม้ระบบกันสะเทือนจะยังใช้เลย์เอาท์เดิม คือ ด้านหน้าแบบปีกนก 2 ชั้น และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ แต่ทางฮุนไดบอกว่ามีการปรับแต่งเพื่อความหนึบและความนุ่มนวล และมีการเพิ่มขนาดเหล็กกันโคลงด้านหน้าเป็น 26 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังเพิ่มขนาดจาก 15 มาเป็น 16 มิลลิเมตร แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันตกแต่งแบบสปอร์ตแล้วจะมีการเปลี่ยนค่า K ของสปริงด้านหน้าให้แข็งขึ้น 15% และ 10% สำหรับด้านหลัง ส่วนเหล็กกันโคลงเพิ่มเป็น 27 และ 17 มิลลิเมตรตามลำดับ

หลังเปิดตัวแล้วจะเริ่มทำตลาดในสหรัฐอเมริกาเลย โดยราคายังไม่มีการเคาะออกมาอย่างเป็นทางการในตอนนี้ แต่คาดว่าคงเริ่มต้นในระดับต่ำกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 660,000 บาทเช่นเคยเพื่อเป็นอีกทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับลูกค้าที่ไม่ยึดติดกับยี่ห้อและภาพลักษณ์

3.Mitsubishi Galant : อย่าว่าแต่เมืองไทยเลย แม้แต่ในตลาดบ้านเกิดอย่างญี่ปุ่น ชื่อของกาแลนท์ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว (ไม่นับแลนเซอร์ใหม่ที่ขายในชื่อกาแลนท์ ฟอร์ติส) เหลือทำตลาดอยู่แค่ไม่กี่ประเทศ โดยที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ของรถยนต์รุ่นนี้ และในตอนนี้ กาแลนท์มีการปรับโฉมแล้วเพื่อรับมือกับความสดใหม่ของคู่แข่งในตลาดรถยนต์ครอบครัว

จะว่าไปแล้วเป็นการขยับตัวที่ช้าเอาเรื่องเหมือนกัน เพราะกาแลนท์ตัวถังนี้ซึ่งเป็นโมเดลที่ 9 ถูกเปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2004 หรือตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วโน่น ซึ่งถ้าเป็นรถยนต์บางโมเดลในตอนนี้คงเป็นการเปลี่ยนโฉมแล้ว คงไม่ใช่แค่ปรับโฉม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสาเหตุของความล่าช้านอกจากจะเป็นเรื่องของปัญหาภายใน โดยเฉพาะเรื่องการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในตลาดรถยนต์และการแยกทางกับเดมเลอร์ไครสเลอร์ (ในตอนนั้น) จึงทำให้โปรเจ็กต์ของกาแลนท์ใหม่ที่จะต้องแชร์พื้นฐานกับรถยนต์ของไครสเลอร์รุ่นเซบริงต้องสะดุด และเป็นหมันไปโดยปริยาย สุดท้ายมิตซูบิชิก็เลยต้องส่งไมเนอร์เชนจ์ออกมาขัดตาทัพไปก่อน

นอกจากหน้าตาที่ใหม่ขึ้น (อีกเล็กน้อย) ภายในที่อัพเกรดเพิ่มความสปอร์ตด้วยพวงมาลัยลายใหม่ และการตกแต่งบริเวณฐานคันเกียร์แล้ว สิ่งสำคัญของกาแลนท์ใหม่คือ เครื่องยนต์ซึ่งมีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นและมีขายทั้งหมด 3 เวอร์ชันด้วยกัน โดยรุ่น 4 สูบ 2,400 ซีซี 160 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 21.7 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที แต่ถ้าเป็นสเปกสำหรับขายในมลรัฐแคลิฟอร์เนียที่คุมเข้มเรื่องมลพิษ กำลังก็จะถูกลดลงมาอยู่ที่ 155 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ

รุ่นวี6 SOHC 24 วาล์ว บล็อกใหม่ 3,800 ซีซีที่ใช้ร่วมกับสปอร์ตรุ่นอีคลิปส์ ถ้าเป็นรุ่นธรรมดามีกำลังสูงสุด 230 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันแรลลี่อาร์ตตัวแรงจะอัพเป็น 258 แรงม้า ที่ 5,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 25.6 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ

ราคาเริ่มต้นของกาแลนท์รุ่นปรับโฉมในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 21,099 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 696,000 บาท
















กำลังโหลดความคิดเห็น