ข่าวในประเทศ – ฮอนด้า มองมุมบวกคาดตลาดรวมรถยนต์ปี 51 แตะยอด 7 แสนคัน ชี้ปัจจัยการเมืองนิ่งมีรัฐบาล แต่หวั่นพิษซับไพร์มทำฝันค้างลามกระทบชิ่งฉุดเศรษฐกิจไทย พร้อมตั้งเป้าขอแชร์ 10% หรือ 7 หมื่นคัน เผยเตรียมเปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่นรวดและไมเนอร์เชนจ์อีก 1 รุ่นในปีเดียว ลั่นกำลังการผลิตพร้อม หลังโรงงานแห่งที่สองเดินสายการผลิตได้เดือนตุลาคมนี้
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปี 2551 น่าจะมียอดจำหน่ายถึง 7 แสนคัน จากปัจจัยบวกหลังมีการตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อย อย่างไรก็ตามต้องรอดูสถานการณ์ของเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งได้รับผลกระทบจากพิษซับไพร์ม ที่อาจจะเป็นปัจจัยลบฉุดภาวะเศรษฐกิจของไทยให้ร่วงตามได้
“แม้ว่าจะตั้งรัฐบาลได้แต่หากเศรษฐกิจมีปัญหา ย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับในปีนี้เราตั้งเป้าจำหน่ายประมาณ 7 หมื่นคันหรือครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10% โดยจะมีการเปิดตัวรถใหม่จำนวน 2 รุ่นและไมเนอร์เชนจ์อีก 1 รุ่น”
ส่วนปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมีผลกระทบต่อยอดจำหน่ายพอสมควร แต่ทางฮอนด้าได้ปรับให้รถทุกรุ่นสามารถใช้เชื้อเพลิงชนิด 20 ได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ยอดจำหน่ายของฮอนด้าเติบโตต่อไป แม้ว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมาจะทำให้ยอดขายชะลอตัวอยู่บ้าง โดยฮอนด้า แอคคอร์ด มียอดจองและจำหน่ายไปแล้วถึงกว่า 3 พันคันนับตั้งแต่เปิดตัว
นายพิทักษ์ กล่าวต่อว่า กำลังการผลิตของโรงงานฮอนด้าปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 130,000 คัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 240,000 คันในเดือนตุลาคมนี้ หลังโรงงานแห่งที่สองของฮอนด้าก่อสร้างเสร็จและเริ่มเดินสายการผลิต โดยคาดว่าจะผลิตออกจำหน่ายจริงประมาณ 160,000 คัน แบ่งเป็นส่งออกประมาณ 55% และจำหน่ายในประเทศประมาณ 45%
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดปีนี้ ฮอนด้ายังคงเน้นกิจกรรมด้าน ซีอาร์เอ็ม คือเชื่อสัมพันธ์กับลูกค้าอาทิ ฮอนด้า เรซซิง เฟส 2008 และกิจกรรมด้าน ซีเอสอาร์ คือการตอบแทนสังคมเช่น การปลูกป่า เป็นต้น ในส่วนของศูนย์บริการจะคงรักษาระดับ 150 แห่งไว้ แต่จะเพิ่มความเข้มข้นด้านการให้บริการแทนการขยายจำนวนสาขา
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปี 2551 น่าจะมียอดจำหน่ายถึง 7 แสนคัน จากปัจจัยบวกหลังมีการตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อย อย่างไรก็ตามต้องรอดูสถานการณ์ของเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งได้รับผลกระทบจากพิษซับไพร์ม ที่อาจจะเป็นปัจจัยลบฉุดภาวะเศรษฐกิจของไทยให้ร่วงตามได้
“แม้ว่าจะตั้งรัฐบาลได้แต่หากเศรษฐกิจมีปัญหา ย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับในปีนี้เราตั้งเป้าจำหน่ายประมาณ 7 หมื่นคันหรือครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10% โดยจะมีการเปิดตัวรถใหม่จำนวน 2 รุ่นและไมเนอร์เชนจ์อีก 1 รุ่น”
ส่วนปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมีผลกระทบต่อยอดจำหน่ายพอสมควร แต่ทางฮอนด้าได้ปรับให้รถทุกรุ่นสามารถใช้เชื้อเพลิงชนิด 20 ได้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ยอดจำหน่ายของฮอนด้าเติบโตต่อไป แม้ว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมาจะทำให้ยอดขายชะลอตัวอยู่บ้าง โดยฮอนด้า แอคคอร์ด มียอดจองและจำหน่ายไปแล้วถึงกว่า 3 พันคันนับตั้งแต่เปิดตัว
นายพิทักษ์ กล่าวต่อว่า กำลังการผลิตของโรงงานฮอนด้าปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 130,000 คัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 240,000 คันในเดือนตุลาคมนี้ หลังโรงงานแห่งที่สองของฮอนด้าก่อสร้างเสร็จและเริ่มเดินสายการผลิต โดยคาดว่าจะผลิตออกจำหน่ายจริงประมาณ 160,000 คัน แบ่งเป็นส่งออกประมาณ 55% และจำหน่ายในประเทศประมาณ 45%
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดปีนี้ ฮอนด้ายังคงเน้นกิจกรรมด้าน ซีอาร์เอ็ม คือเชื่อสัมพันธ์กับลูกค้าอาทิ ฮอนด้า เรซซิง เฟส 2008 และกิจกรรมด้าน ซีเอสอาร์ คือการตอบแทนสังคมเช่น การปลูกป่า เป็นต้น ในส่วนของศูนย์บริการจะคงรักษาระดับ 150 แห่งไว้ แต่จะเพิ่มความเข้มข้นด้านการให้บริการแทนการขยายจำนวนสาขา
