ข่าวในประเทศ - นิชคาร์ ขยายฐานลูกค้าออกต่างจังหวัด อัดงบการตลาด 40ล้านบาท สร้างการรับรู้ผ่านการโรดโชว์ และเตรียมตั้งดีลเลอร์ใหม่ พร้อมโชว์รูมศูนย์บริการครบวงในจังหวัดภูเก็ต และนครราชสีมา ล่าสุดเปิดตัวสปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ โลตัส อีลิส เอส ราคา 3.9 ล้านบาท คาดยอดขายรวมทุกแบรนด์ในเครือปีนี้ทะลุ 150 คัน
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000000980301.JPEG)
นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิชคาร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์พรีเมี่ยมแบรนด์ โลตัส ลัมบอร์กินี แอสตันมาร์ติน ฮัมเมอร์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทเตรียมลุยตลาดต่างจังหวัดให้รถยนต์แบรนด์ในเครืออย่างโลตัส และฮัมเมอร์ โดยช่วงไตรมาสสองจะตั้งผู้จัดจำหน่ายในจังหวัดภูเก็ต และนครราชสีมา พร้อมเปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการครบวงจร ขณะเดียวกันจะใช้งบการตลาดประมาณ 30- 40 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคมากขึ้น โดยเน้นโรดโชว์นำรถออกแสดงตามงานต่างๆในหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
"เรามองว่ากำลังซื้อต่างจังหวัดยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะภูเก็ตและนครราชสีมา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวและพฤติกรรมผู้บริโภคสอดรับกับสปอร์ตคาร์อย่างโลตัส และรถเอสยูวีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างฮัมเมอร์ ทั้งนี้เราได้ตั้งทีมขายขึ้นมาใหม่ 2 ทีม เพื่อรองรับการขยายตัว พร้อมดูแลบริหารจัดการขายให้มีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าว่าทั้งสองจังหวัดจะทำยอดขายรวมในปีนี้ประมาณ 30คัน "
นอกจากนี้บริษัทยังเปิดตัว โลตัส อีลิส เอส เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 134 แรงม้า แต่น้ำหนักเบา 860 กิโลกรัม ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ 5.8 วินาที ส่วนตัวถังมีให้เลือกมากกว่า 20 สี สามารถถอดเปลี่ยนหลังคาได้ทั้งแบบ หลังคาแข็ง หลังคาผ้าใบ หรือเปิดประทุน กับราคา 3.9 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดจองมาแล้ว 2-3 คัน และคาดว่าถึงสิ้นปีจะทำยอดขายได้ถึง 12 คัน แน่นอน
นายวิทวัส กล่าวว่าถึงแม้สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมปีนี้ดูไม่ค่อยสดใส แต่ในส่วนของบริษัทคงไม่ได้รับผลกระทบ เพราะกลุ่มลูกค้ายังมีอารมณ์ซื้อรถประเภทสปอร์ตคาร์อยู่เหมือนเดิม อย่างปีที่แล้วทำยอดขายรวมทุกแบรนด์ได้ถึง 120 คัน โต 15% เมื่อเทียบกับปี 2549 ส่วนปีนี้คาดว่าจะขายในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 150 คัน แบ่งเป็นโลตัส23 คัน ลัมบอร์กินี 20 คัม ฮัมเมอร์ 90 คัน แอสตันมาร์ติน 17 คัน นอกเหนือไปจากยอดส่งออกฮัมเมอร์ไปประเทศภูมิภาคอาเซียน และฮ่องกงอีก 60-70คัน
อย่างไรก็ตามเรื่องศูนย์บริการครบวงจรแห่งใหม่ มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท บนถนนสุขุมวิทซึ่งจะตั้งอยู่ในซอยข้างธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่(ซอยศูนย์) ที่เตรียมก่อสร้างต้นปีนี้ อาจล่าช้าไปจากแผนเดิมนิดหน่อยเพราะบริษัทเตรียมซื้อที่ดินเพิ่ม เป็น 2 ไร่ และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจากับเจ้าของที่ดิน แต่คาดว่าจะลงตัวพร้อมเริ่มก่อสร้างได้ช่วงกลางปีนี้ และเปิดให้บริการได้ปีหน้า
นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิชคาร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์พรีเมี่ยมแบรนด์ โลตัส ลัมบอร์กินี แอสตันมาร์ติน ฮัมเมอร์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทเตรียมลุยตลาดต่างจังหวัดให้รถยนต์แบรนด์ในเครืออย่างโลตัส และฮัมเมอร์ โดยช่วงไตรมาสสองจะตั้งผู้จัดจำหน่ายในจังหวัดภูเก็ต และนครราชสีมา พร้อมเปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการครบวงจร ขณะเดียวกันจะใช้งบการตลาดประมาณ 30- 40 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคมากขึ้น โดยเน้นโรดโชว์นำรถออกแสดงตามงานต่างๆในหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
"เรามองว่ากำลังซื้อต่างจังหวัดยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะภูเก็ตและนครราชสีมา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวและพฤติกรรมผู้บริโภคสอดรับกับสปอร์ตคาร์อย่างโลตัส และรถเอสยูวีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างฮัมเมอร์ ทั้งนี้เราได้ตั้งทีมขายขึ้นมาใหม่ 2 ทีม เพื่อรองรับการขยายตัว พร้อมดูแลบริหารจัดการขายให้มีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าว่าทั้งสองจังหวัดจะทำยอดขายรวมในปีนี้ประมาณ 30คัน "
นอกจากนี้บริษัทยังเปิดตัว โลตัส อีลิส เอส เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 134 แรงม้า แต่น้ำหนักเบา 860 กิโลกรัม ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ 5.8 วินาที ส่วนตัวถังมีให้เลือกมากกว่า 20 สี สามารถถอดเปลี่ยนหลังคาได้ทั้งแบบ หลังคาแข็ง หลังคาผ้าใบ หรือเปิดประทุน กับราคา 3.9 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดจองมาแล้ว 2-3 คัน และคาดว่าถึงสิ้นปีจะทำยอดขายได้ถึง 12 คัน แน่นอน
นายวิทวัส กล่าวว่าถึงแม้สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมปีนี้ดูไม่ค่อยสดใส แต่ในส่วนของบริษัทคงไม่ได้รับผลกระทบ เพราะกลุ่มลูกค้ายังมีอารมณ์ซื้อรถประเภทสปอร์ตคาร์อยู่เหมือนเดิม อย่างปีที่แล้วทำยอดขายรวมทุกแบรนด์ได้ถึง 120 คัน โต 15% เมื่อเทียบกับปี 2549 ส่วนปีนี้คาดว่าจะขายในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 150 คัน แบ่งเป็นโลตัส23 คัน ลัมบอร์กินี 20 คัม ฮัมเมอร์ 90 คัน แอสตันมาร์ติน 17 คัน นอกเหนือไปจากยอดส่งออกฮัมเมอร์ไปประเทศภูมิภาคอาเซียน และฮ่องกงอีก 60-70คัน
อย่างไรก็ตามเรื่องศูนย์บริการครบวงจรแห่งใหม่ มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท บนถนนสุขุมวิทซึ่งจะตั้งอยู่ในซอยข้างธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่(ซอยศูนย์) ที่เตรียมก่อสร้างต้นปีนี้ อาจล่าช้าไปจากแผนเดิมนิดหน่อยเพราะบริษัทเตรียมซื้อที่ดินเพิ่ม เป็น 2 ไร่ และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจากับเจ้าของที่ดิน แต่คาดว่าจะลงตัวพร้อมเริ่มก่อสร้างได้ช่วงกลางปีนี้ และเปิดให้บริการได้ปีหน้า