หาอะไรทำไปเรื่อยครับ สำหรับค่ายรถแบรนด์ไทย“ไทยรุ่งยูเนียนคาร์” ที่ถึงแม้ปัจจุบันอาจจะเงียบไปสักนิดเมื่อเทียบกับอดีตอันรุ่งเรืองกับการนำปิกอัพมาต่อเติมเสริมแต่ง ซึ่งต้องยอมรับในสภาพตลาดรถยนต์เมืองไทย บวกกับการมีผู้เล่นมากรายในกลุ่มปิกอัพดัดแปลง (PPV) อาทิ เจ้าพ่อตลาด โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หรือคู่จะเป็นคู่ค้าเก่าแก่ “อีซูซุ” ก็มี มิว-7 ขณะที่นิสสัน ในยุคบริษัทแม่ทำตลาดเองยังคงง่วนกับไลน์ผลิต “ฟรอนเทียร์ นาวารา” และแนวทางบริหาร(การตัดรถให้)คงไม่ใช่เรื่องเจ้าสัวคุยกันอีกต่อไป
แต่กระนั้นด้วยสายป่านยาวนาน รากฐานเข้มแข็ง “ไทยรุ่ง” ยังพยายามกัดฟันสู้บู๊ไม่ถอย และปีที่แล้วก็เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นล่าสุด “ทีอาร์ ออลโรดเดอร์” (TR ALLROADER) ที่พัฒนามาจากพื้นฐานปิกอัพ เชฟโรเลต โคโรลาโด สนนราคา 9.29-1.17 ล้านบาท
ถึงแม้ โคโรลาโด จะไมเนอร์เชนจ์เมื่อปีที่แล้ว แต่ในความรู้สึกส่วนตัว ผมคิดว่าหน้าเก่าดูเป็นอเมริกันสไตล์ บึกบึนดุดัน ซึ่ง“ทีอาร์ ออลโรดเดอร์”ก็ได้ภาพลักษณ์นี้ติดมาด้วย ขณะเดียวกันเสริมด้วยการ์ดกันชนหน้า-หลัง สปอยเลอร์หลังคาพร้อมไฟเบรก รวมถึงไฟเลี้ยว LED ที่กระจกมองข้าง ส่งให้รถดูมีราคาขึ้นมาอีกนิด
การตกแต่งภายในห้องโดยสารดูดีมีสกุลกับเบาะหนังสีเบจ สะดวกสบายกับเบาะ3 แถว 7 ที่นั่ง โดยเบาะแถวสามพับได้แบบ 50:50 เผื่อบรรทุกสัมภาระพร้อมรองรับการใช้งานหลากหลาย รวมถึงช่องเก็บของเล็กๆน้อยๆ มีให้เห็นหลายจุด ซึ่งเนื้องานการประกอบรวมๆถือว่าทำได้ประณีต สมชื่อไทยรุ่งที่มีชื่อเสียงด้านนี้มานาน
สำหรับรุ่นที่ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” นำมาทดสอบเป็นตัวท็อปราคา 1.17 ล้านบาท ขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 294 นิวตันเมตรที่ 1,400-3,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ทั้งนี้การใส่อุปกรณ์เพิ่มเติมหรือเบาะนั่งยิ่งทำให้รถแบกน้ำหนัก ส่งผลให้อัตราเร่งดูอุ๋ยอ้ายไปนิด ส่วนการขับบนสภาพการจราจรในเมืองใหญ่อาจไม่คล่องตัวนัก และเหนื่อยที่เดียวครับถ้าต้องพาเจ้า “ทีอาร์ ออลโรดเดอร์” หาที่จอด หรือขับวนขึ้นห้าง
อย่างไรก็ตามก็ถือว่าแลกกันครับกับความอเนกประสงค์ หรือขนครอบครัวมิตรสหาย ซึ่งเขาเหล่านั้นคงไม่ต้องการขับปรู๊ดปราด หรือขับทะลุโหดไปไหน ยิ่งพาออกต่างจังหวัด วิ่งนอกเมืองทางยาวๆ “ทีอาร์ ออลโรดเดอร์” เป็นรถที่นิ่ง การเก็บเสียงลมเสียงยางทำได้ดีทีเดียว ซึ่งช่วงล่างหน้าอิสระปีกนกสองชั้น หลังเป็นแหนบ การยึดเกาะถนนไม่ใช้ปัญหา แต่อาจจะมีโยนโยกบ้างกรณีเข้าโค้งแล้วไม่ผ่อนเบาคันเร่ง ขณะที่การนั่งเบาะหลังแถวสองค่อนข้างนุ่มสบาย แต่ถ้าแถวสามก็คับแน่น และถ้าเส้นทางมีโค้งมากอาจมีอาการวิงเวียนเล็กน้อยครับ
สำหรับพวงมาลัยแร็กแอนพิเนี่ยน น้ำหนักพอดีมือ การบังคับควบคุมกลมกลืนกับขนาดของรถ แต่รัศมีวงเลี้ยวจะกว้างตามสไตล์ปิกอัพ ทั้งนี้ “ทีอาร์ ออลโรดเดอร์”จะใช้ยางขนาด 245X70 R16 ประกบล้ออัลลอย 16 นิ้ว พร้อมเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ซึ่งทำหน้าที่ห้ามล้อได้สมบูรณ์ไม่ต้องลุ้นเหนื่อย ระยะชะลอหยุดทำได้ตามคาดตามแรงกดของฝ่าเท้า
ด้านความปลอดภัยอื่นมีมาให้ทั้ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า คานเหล็กนิรภัยกันกระแทกด้านข้าง กระจกบังลมหน้านิรภัยสองชั้น(Liminated Windshield) ยึดเศษกระจกไม่ได้แตกกระจายเป็นเศษคม แกนพวงมาลัยยุบตัวได้ รวมถึงเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
รวบรัดตัดความ...สมพงษ์ เผอิญโชค บอสใหญ่ไทยรุ่งฯ ยังกัดฟันทำตลาดพร้อมให้เกียรติคู่ค้าเสมอ และบอกว่า เจ้าของแบรนด์ยังตัดรถออกมาให้เรื่อยๆ แต่กระนั้นเรื่องช่องทางจำหน่ายอาจดูตะขิดตะขวง เพราะถ้าไม่ไปเยี่ยมที่โชว์รูม ไทยรุ่งฯ หนองแขม ก็ซื้อต้องผ่านโชว์รูม เชฟโรเลต ซึ่งความอเนกประสงค์คล้ายๆกันวางขาย ทั้ง แคปติว่า หรือ ออพต้า เอสเตส
ขณะที่เมื่อก่อนถ้าพูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ เราคงคิดถึง“ไทยรุ่งยูเนียนคาร์”เป็นเจ้าแรกๆ แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าค่ายรถสัญชาติไทยแบรนด์นี้คงต้องถูกหยิบโยงเปรียบเทียบกับพีพีวีหลายยี่ห้อ แต่จริงๆถ้าวัดกันที่สมรรถนะรวมๆ พร้อมการใช้งานให้สมกับที่มันเกิดมา คือวิ่งเส้นทางระหว่างเมืองเป็นหลัก หรือมุ่งหวังความอเนกประสงค์ ขนคนท่องเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัด “ทีอาร์ ออลโรดเดอร์” ถือเป็นรถที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมความชำนาญในการเสริมแต่ง และองค์ความรู้ที่ถ่ายทอดต่อมาหลายปี ก็การันตีได้ว่า “ไทยรุ่งยูเนียนคาร์” ยังอยู่ครับ!!!
