สิ้นสุดการรอคอยแล้วสำหรับแฟนๆ ของซูบารุที่กำลังติดตามความเคลื่อนไหวของเอสยูวีมาดสปอร์ตอย่างฟอเรสเตอร์ โดยในตอนนี้ทางฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสตี้ FHI ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุ ได้ประกาศส่งฟอเรสเตอร์ใหม่แบบโมเดลเชนจ์ ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของรถยนต์รุ่นนี้ออกขายในญี่ปุ่นแล้ว ส่วนสหรัฐอเมริกาจะมีคิวเปิดตัวที่ดีทรอยต์ แล้วจะเริ่มขายทันทีในช่วงเดือนมีนาคมนี้
ฟอเรสเตอร์เปิดตัวรุ่นแรกในปี 1997 ด้วยแนวคิดที่สร้างความแตกต่างจากบรรดาเอสยูวีที่มีอยู่ในตลาด เพราะนอกจากจะเน้นความอเนกประสงค์ในการใช้งานแล้ว ยังเน้นไปที่ความแรงด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์สูบนอนพร้อมเทอร์โบที่มีกำลังขับเคลื่อนในระดับ 200 แรงม้ากลางๆ
ในรุ่นใหม่ ซูบารุยังคงคอนเซ็ปต์ในการพัฒนาตัวรถเหมือนกับรุ่นแรก พร้อมกับหน้าตาที่ใหม่สดตลอดทั้งคัน โดยมีความยาว 4,560 มิลลิเมตร ส่วนความสูงเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 110 มิลลิเมตร และกว้างขึ้น 45 มิลลิเมตร โดยที่ระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น3.6 นิ้ว หรือ 91 มิลลิเมตร เป็น 2,615 มิลลิเมตร พร้อมกับสมรรถนะในการลุยที่ดีขึ้น ด้วยพื้นที่ว่างใต้ท้องรถที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 225 มิลลิเมตร
ซูบารุเปิดเผยว่าฟอเรสเตอร์ได้รับการพัฒนาบนแชสซีส์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ที่เรียกว่า Subaru Dynamic Chassis Control Concept หรือ Subaru DC3 โดยด้านหน้ามากับระบบกันสะเทือนแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบปีกนก 2 ชั้นที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความกะทัดรัดลดการใช้พื้นที่ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความกว้างขวางของพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย แต่ยังคงประสิทธิภาพในการใช้งาน
เครื่องยนต์ที่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้มี 2 สเปก คือ เวอร์ชันญี่ปุ่นที่เน้นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบนอนเป็นหลัก เริ่มกับรุ่นธรรมดา พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Subaru Active Valve Control System -AVCS 148 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.5 กก.-ม. ที่ 3,200 รอบ/นาที ส่วนอีกรุ่นติดตั้งเทอร์โบเพิ่มเข้ามา ทำให้มีกำลังขยับขึ้นมาเป็น 230 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 32.5 กก.-ม. ที่ 2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 4 จังหวะ
ส่วนสเปกตลาดเมืองลุงแซมเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,500 ซีซี ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบหายใจเอง และพึ่งระบบอัดอากาศอย่างเทอร์โบ แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยสเปกออกมา แต่คาดว่าน่าจะเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับที่ใช้อยู่ในเลกาซี่ ซึ่งในรุ่นเทอร์โบมีกำลังสูงสุดถึง 243 แรงม้า โดยอาจจะมาพร้อมกับสเปกไฮโซด้วยการจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 5 จังหวะ
ในญี่ปุ่นเริ่มขายแล้วตั้งแต่วันคริสมาสต์ปีที่แล้ว มีราคาอยู่ระหว่าง 1,995,000-2,572,500 เยน หรือ 598,500-771,000 บาท ส่วนเมืองไทยน่าจะมีการนำเข้ามาขายผ่านทางมอเตอร์อิมเมจ เพราะลูกค้าคนไทยที่ติดใจความแรงบนความอเนกประสงค์ของฟอร์เรสเตอร์ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน