xs
xsm
sm
md
lg

มอเตอร์เอ็กซ์โปยอดหด ครึ่งทางโตโยต้ายังแชมป์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครึ่งทางมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2005 คนแห่เข้าชมกว่า 7.5 แสนคน ยอดจองรถใหม่ 6,453 คันตกลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โตโยต้ายังครองแชมป์ 2,239 คัน ลดเป้ายอดจอง 10%จากที่วางไว้ 15,000 คัน ชี้ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังมั่นใจถึงวันสุดท้ายเงินสะพัดในงาน 16,000 ล้านบาทแน่นอน

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2005 ตั้งแต่วันที่ 1-6 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า ในปีนี้ยังคงมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก ในช่วงแรกอาจจะดูค่อนข้างบางตาในวันธรรมดา แต่ในช่วงวันหยุด 3 วันที่ผ่านมานั้น ผู้เข้าชมงานเพิ่มสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 6 วันที่ผ่านมามีผู้เข้ามาเยี่ยมชมงานแล้วประมาณ 750,251 คน ลดลงจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันที่มียอดผู้เข้าชมประมาณ 8 แสนคน

“แม้ว่าในช่วงวันแรกๆ ของงานคนจะเข้ามาชมงานน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มาตีตื่นในช่วงวันที่ 3-6 ธ.ค. โดยเฉพาะวันที่ 5 มีผู้เข้าชมงานกว่า 2.02 แสนคัน ทำให้เชื่อว่าในช่วงวันที่เหลือ น่าจะมีผู้เข้าชมงานเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ คือ 1.6 ล้านคน ขณะที่เงินหมุนเวียนในงานช่วง 7 วันของปีนี้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 9,000 ล้านบาท เพราะอัตราเฉลี่ยของระดับราคาการซื้อรถของผู้บริโภคอยู่ที่ 8.7 แสนบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 1.2 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้รถยนต์ใหม่ที่เปิดตัวในช่วงปลายปีส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คราคาไม่สูงมากนัก รวมถึงยอดขายของรถปิคอัพภายในงานนั้นมีอัตราเติบโตที่สูงขึ้นมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาทำให้เฉลี่ยราคาของรถในปีนี้ต่ำลง จึงคาดว่าเป้าที่วางไว้ว่าจะมีเงินหมุนเวียนในส่วนของรถยนต์ใหม่ประมาณ 15,000 ล้านบาท คงต้องปรับลดลงประมาณ 10%หรือประมาณ 13,500 ล้านบาท”

นายขวัญชัยกล่าวต่อไปว่า จะเห็นได้ว่าจากตัวเลขยอดขายรถยนต์ภายในงานตกลงนั้น เกิดขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง รวมถึงสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทางด้านการเมืองยังส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของผู้บริโภค แต่ถึงอย่างไรก็ตามในส่วนของอุปกรณ์การตกแต่งและสินค้าอื่นๆที่วางเป้าไว้ว่าจะมียอดเงินสะพัด 2,500 ล้านบาทนั้น ทางผู้จัดงานยังมั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าถึงวัดสุดท้ายของงานคือวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ยอดเงินสะพัดภายในงานจะสูงถึง 16,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน

สำหรับยอดจองรถ จนถึงวันที่ 6 ธันวาคม มียอดจองจำนวน 6,453 คัน โดย โตโยต้า ไม่มีรถเล็กรุ่นใหม่อย่างยาริส แต่ก็อาศัย แคมเปญเป็นตัวช่วยให้คว้าแชมป์ยอดขายสูงสุด ซึ่งมียอดจองถึง 2,239 คัน ทิ้งห่าง ฮอนด้า ที่ปีนี้มี“ซีวิค ใหม่” มาช่วยเพิ่มยอดถึง 893 คัน ส่วนค่ายที่น่าจับตามองก็คือ อีซูซุ สามารถก้าวกระโดดจากอันดับ 6 ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ด้วยยอดจอง 830 คัน โดยเจ้าของอันดับเดิมคือมาสด้า ปีนี้มุ่งเน้นรถสปอร์ตตลาดเลยหดตัวลง ส่วนอันดับอื่นๆที่อยู่ในท๊อปเท็นคือ เชฟโรเลต 701 คัน มิตซูบิชิ 537 คัน มาสด้า 314 คัน ฟอร์ด 304 คัน นิสสัน 203 คัน วาลด์ (WALD) 61 คัน และแกรนด์ แครี่บอย 60 คัน


ส่วนรถยนต์ที่มีได้รับความสนใจจากผู้ชมมากที่สุดรวมถึงยอดจอง ได้แก่ รถปิกอัพโดยเฉพาะรุ่น 2 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีอัตราเติบโตกว่า 96% และรุ่น 4 ประตูขับเคลื่อน 2 ล้อ เติบโตกว่า 177.5% อาทิ โตโยต้า พรีรันเนอร์ และอีซูซุ ไฮแลนเดอร์ ขณะที่ตลาดรถยนต์นั่ง มีอัตราการเติบโตค่อนข้างน่าผิดหวัง เนื่องจากมีรถรุ่นใหม่เข้ามาเปิดตัวเพียงไม่กี่รุ่น

นายขวัญชัยยังกล่าวถึงตลาดรถยนต์ในปีหน้าว่า เราเชื่อว่าตลาดรถยนต์โดยรวมน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 15% ส่วนในปี 2549 นั้นคาดว่าอัตราการเติบโตของตลาดจะอยู่ที่ 8% ส่วนสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ก็คือ คือ เรื่องสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งปัจจุบันเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว รวมถึงปัญหาเรื่องอุทกภัยที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งมีผลต่อการติดสินใจซื้อรถของผู้บริโภค

กำลังโหลดความคิดเห็น