เตรียมเปิดงานอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับงานแสดงนวัตกรรมยานยนต์ยิ่งใหญ่ในช่วงปลายปี “งานมหกรรมยานยนต์” หรือ “มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 22 โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 1-12 ธันวาคม 2548 นี้ ณ. อิมแพค เมืองทองธานี นับเป็นงานแสดงรถยนต์ รถจักรยานยนต์และอุปกรณ์ประดับยนต์ที่ยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่งของเมืองไทย จัดโดยบริษัท สื่อสากล จำกัด “ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง”ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ประธานจัดงาน นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ถึงการเตรียมงานและความพิเศษในงานปีนี้
แนวคิดของงานในปีนี้คืออะไร?
การจัดงานมหกรรมยานยนต์ทุกๆครั้ง จะมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือ เป็นงานแสดงยานยนต์รายเดียวในประเทศไทยที่กำหนดแนวทางจัดงานด้วยคำขวัญ และสัญลักษณ์ประจำงานที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละปี ซึ่งไม่เพียงตั้งใจให้เห็นแนวคิดสำคัญในการจัดงานแต่ละปีเท่านั้น แต่ยังต้องการให้สิ่งเหล่านี้เป็นเสมือนภาพสะท้อนเหตุการณ์ของโลกยานยนต์ในแต่ละปี โดยปีนี้แนวคิดของงานนั้นจัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปท์ “ยานยนต์ท้าทาย...โลกหลายลีลา” ซึ่งหมายถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย สะท้อนออกมาจากการใช้ชีวิต ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงรถยนต์ ซึ่งพัฒนาตัวเองไปสู่การใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย กระตุ้นให้เกิดลีลาโลกยุคใหม่ที่มียานยนต์เป็นองค์ประกอบสำคัญ

ปีนี้ใช้งบประมาณเท่าไหร่?
งานปีนี้ทางผู้จัดทุ่มงบประมาณกว่า 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอีก 30 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้เราขยายพื้นที่การจัดงานใหญ่ขึ้น โดยปีที่แล้วเราใช้งบประมาณ 120 ล้านจัดบนพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร แต่ในปีนี้เรามีพื้นที่การจัดงานทั้งสิ้น 85,000 ตารางเมตร ถือเป็นงานแสดงยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในเอเชียนั้นถือเป็นอันดับ 2 รองจากงาน "โตเกียว มอเตอร์โชว์" เท่านั้น โดยการจัดแสดงเราจัดให้มีตั้งแต่ฮอลล์ 1-8 รวมไปถึงพื้นที่บริเวณ ฮอลล์ 9 ที่จะจัดงาน Automotive Parts+Aftermarket 2005 ซึ่งเป็นงานแสดงชิ้นส่วนยานยนต์ ครบวงจร
แต่ละฮอลล์แบ่งการจัดแสดงอย่างไร?
ปีนี้ฮอลล์ที่ 1-4 และบางส่วนของฮอลล์ 5 จัดสรรให้เป็นพื้นที่แสดงรถยนต์ ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานแล้ว 35 ราย เนื่องจากช่วงปลายปีจะมีรถรุ่นใหม่เปิดตัวกันหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนโฉมใหม่ ปรับโฉมเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในช่วงปลายปี ส่วนในฮอลล์ 6-8 จะเป็นการรวมตัวรถยนต์มือสองที่มีผู้ประกอบการหลายรายนำเข้ามาร่วม รวมถึงอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ ในส่วนพื้นที่ลานด้านนอกจะมีการจัดแสดงในส่วนของเครื่องเสียงรถยนต์ ซึ่งจะมีการแสดงรถยนต์ที่ตกแต่งอุปกรณ์เครื่องเสียงจากหลายค่ายมาโชว์และแสดงถึงพลังของเครื่องเสียงกันหลากหลายรูปแบบ
ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เท่าไร และจะมีเงินสะพัดเท่าไหร่?
อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าในปีนี้จะมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัว รวมถึงการไมเนอร์เชนจ์รถหลายรุ่น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคจึงคาดว่ายอดขายรถยนต์ภายในงานน่าจะไม่น้อยกว่า 15,000 คัน ซึ่งตัวเลขนี้เป็นตัวเลขประเมินเท่านั้น เพราะที่ผ่านมายอดขายภายในงานจริงๆนั้นสูงกว่าการคาดการณ์ทุกปี โดยคาดว่าในปีนี้จะมีเงินสะพัดภายในงานมหกรรมยานยนต์ไม่ต่ำกว่า 18,000 ล้านบาท

การแข่งขันของค่ายรถยนต์ในงานนั้นจะเป็นแบบไหน?
การแข่งขันก็คงจะเป็นเหมือนเดิม นั้นคือเรื่องของการลดแลกแจกแถม ซึ่งเป็นธรรมชาติของการทำตลาดรถยนต์ในบ้านเรา แต่ที่น่าจับตามองก็คือตลาดรถยนต์นั่ง เพราะคาดว่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีทีผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งนั้นตกลงไปมาก ประมาณ 13 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพราะโปรดักท์ในส่วนของรถยนต์นั่งตั้งแต่ต้นปี ค่ายรถยังไม่มีโปรดักท์รุ่นใหม่ๆเปิดตัวสู่ตลาด ต่างมีแผนที่จะมาเปิดตัวกันในช่วงปลายปี โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็กต์ ไม่ว่าจะเป็น ฟอร์ด โฟกัส หรือล่าสุด ฮอนด้า ซีวิค ซึ่งผู้บริโภคต่างรอคอยได้เห็นตัวจริง จึงคาดว่ารถยนต์นั่งจะมียอดขายกระเตื้องขึ้นในช่วงนี้
ในส่วนของรถกระบะนั้นแม้ว่าโปรดักท์ตัวใหม่จะไม่มีการเปิดตัวในงาน แต่ก็ยังเชื่อว่าจากแคมเปญส่งเสริมการขายที่ค่ายรถนำมาแข่งขันกันจะมีส่วนให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถภายในงาน โดยสัดส่วนการขายในงานนี้น่าจะแบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 65% และรถกระบะ 35%
บริษัทรถเข้าร่วมงานกันครบหรือไม่?
ปีนี้บริษัทรถยนต์หลักๆ ก็เข้าร่วมงานกันเกือบครบ ส่วนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมงานในปีนี้ก็มี เมอร์เซเดส-เบนซ์ กับ บีเอ็มดับเบิลยู แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะมีการส่งตัวแทนจากดีลเลอร์เข้าร่วมงานแทน ในส่วนของเมอร์เซเดส-เบนซ์นั้น แม้ว่าจะไม่เข้าร่วม แต่ภายในงานก็ยังมีรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ จากผู้นำเข้าอิสระอย่าง เอสอีซี กรุ๊ปมาโชว์และจำหน่าย ซึ่งจากการจัดงานในอดีตนั้นมีอยู่ปีหนึ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่เข้าร่วมงาน ทำให้ลูกค้าต่างแห่จองรถจากผู้นำเข้าอิสระเป็นจำนวนมากกว่า 400 คัน แสดงให้เห็นว่าความต้องการของผู้บริโภคนั้นมีอยู่ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทแม่ขายเท่านั้น

มีบริษัทรถใหม่ๆเข้าร่วมงานบ้างไหม?
ปีนี้งานมหกรรมยานยนต์ได้รับความสนใจจากประเทศจีนที่จะนำ สินค้าเข้ามาแสดง โดยครั้งนี้ได้นำรถจักรยานยนต์จากประเทศจีนเข้ามาร่วมโชว์ และมีการลงทุนสร้างบูธกว่า 7 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนจากต่างประเทศ
ในงานบริษัทรถยนต์นำเทคโนโลยีใหม่ๆหรือรถต้นแบบอะไรมาโชว์กันบ้าง?
ปีนี้มีรถต้นแบบเข้ามาร่วมแสดงภายในงานประมาณ 3-4 คัน อาทิ จากค่ายฟอร์ด ที่นำรถกระบะต้นแบบ 4-Trac มาโชว์ และทางค่ายมาสด้านำ MX-Crossport มาโชว์ให้คนไทยได้เป็นถึงนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต เป็นต้น
ในปีนี้ได้จัดรายการพิเศษชิงรางวัลสำหรับผู้เข้าร่วมงานอย่างไร?
ปีนี้ทางผู้จัดได้เพิ่มราคาบัตรผ่านประตูเป็น 80 บาท แต่ได้จัดรายการชิงรางวัลภายในงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยผู้ที่ซื้อรถยนต์ภายในงานนี้ทุกคัน ทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับคูปองชิงรางวัลรถยนต์ ซูบารุ อาร์ทู มูลค่า 1,450,000 บาท 1 คัน และสำหรับผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมงาน หากกรอกแบบสอบถามก็มีสิทธิ์ลุ้นรับรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็กซ์ มูลค่า 512,000 บาท 1 คัน และนอกจากนั้นผู้จัดได้ร่วมมือกับทาง AIS ร่วมสนุกกับการส่ง USSD ก็สามารถลุ้นรับรางวัลรถยนต์ ซูซูกิ สปอร์ตตี้ มูลค่า 388,800 บาท 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ MP300 มูลค่า 5,490 บาทจำนวน 10 รางวัล ซึ่งถือว่าเป็นการคืนกำไรให้กับผู้เข้าร่วมงาน

รองรับปัญหาเรื่องการจราจรและที่จอดรถที่เป็นปัญหามาทุกปีอย่างไร?
ในส่วนของการจราจรนั้น ทางผู้จัดงานได้ขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจใน 3 ท้องที่ ประกอบด้วย สถานีตำรวจทุ่งสองห้อง สถานีตำรวจปากเกร็ด และสถานีตำรวจทางด่วน เพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงระหว่างการจัดงาน ซึ่งได้เตรียมพื้นที่สำหรับจอดรถ ทั้งในอาคารและนอกอาคาร โดยสามารถรองรับได้ 100,000 คันต่อวัน ซึ่งปัญหาการจราจรส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้เข้าร่วมงานวนหาที่จอดรถที่ใกล้ฮอลล์มากที่สุด พอต่างเข้าไปข้างในมากๆแต่ไม่มีที่จอดก็เกิดการติดขัด จึงอยากขอความร่วมมือจากผู้ที่จะเข้าชมงาน หากเห็นเจ้าหน้าที่เรียกให้จอดตรงจุดไหนแสดงว่าตรงจุดนั้นว่างและสามารถจอดได้ ให้เข้าไปจอดได้เลย ไม่ต้องวนเข้าไปข้างใน เพราะเจ้าหน้าที่จะมีการสื่อสารบอกกล่าวแล้วว่าภายในจะมีพื้นที่หรือไม่ ซึ่งทางผู้จัดงานจะมีรถรับ-ส่งบริเวณลานจอดรถกับฮอลล์แสดงอยู่แล้ว
นอกจากนั้นยังอยากให้ผู้ที่เข้าชมงานได้ใช้บริการรถสาธารณะ หรือรถไฟฟ้า เพราะทางผู้จัดได้จัดรถบัสรับ-ส่งสำหรับผู้เข้าชมงานจากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตมายังบริเวณงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้การจราจรภายในเมืองทองธานีลดการติดขัดลงได้
สำหรับงานที่จัดขึ้นนั้นจะเปิดแสดงรอบประชาชนทั่วไปตั้งแต่ วันที่ 1-12 ธันวาคม 2548 นี้ ตั้งแต่เวลา 12.00น.-22.00น. ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ และวัยหยุดราชการ เปิดตั้งแต่ 11.00น.-22.00 น.
แนวคิดของงานในปีนี้คืออะไร?
การจัดงานมหกรรมยานยนต์ทุกๆครั้ง จะมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือ เป็นงานแสดงยานยนต์รายเดียวในประเทศไทยที่กำหนดแนวทางจัดงานด้วยคำขวัญ และสัญลักษณ์ประจำงานที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละปี ซึ่งไม่เพียงตั้งใจให้เห็นแนวคิดสำคัญในการจัดงานแต่ละปีเท่านั้น แต่ยังต้องการให้สิ่งเหล่านี้เป็นเสมือนภาพสะท้อนเหตุการณ์ของโลกยานยนต์ในแต่ละปี โดยปีนี้แนวคิดของงานนั้นจัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปท์ “ยานยนต์ท้าทาย...โลกหลายลีลา” ซึ่งหมายถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย สะท้อนออกมาจากการใช้ชีวิต ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงรถยนต์ ซึ่งพัฒนาตัวเองไปสู่การใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย กระตุ้นให้เกิดลีลาโลกยุคใหม่ที่มียานยนต์เป็นองค์ประกอบสำคัญ
ปีนี้ใช้งบประมาณเท่าไหร่?
งานปีนี้ทางผู้จัดทุ่มงบประมาณกว่า 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอีก 30 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้เราขยายพื้นที่การจัดงานใหญ่ขึ้น โดยปีที่แล้วเราใช้งบประมาณ 120 ล้านจัดบนพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร แต่ในปีนี้เรามีพื้นที่การจัดงานทั้งสิ้น 85,000 ตารางเมตร ถือเป็นงานแสดงยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในเอเชียนั้นถือเป็นอันดับ 2 รองจากงาน "โตเกียว มอเตอร์โชว์" เท่านั้น โดยการจัดแสดงเราจัดให้มีตั้งแต่ฮอลล์ 1-8 รวมไปถึงพื้นที่บริเวณ ฮอลล์ 9 ที่จะจัดงาน Automotive Parts+Aftermarket 2005 ซึ่งเป็นงานแสดงชิ้นส่วนยานยนต์ ครบวงจร
แต่ละฮอลล์แบ่งการจัดแสดงอย่างไร?
ปีนี้ฮอลล์ที่ 1-4 และบางส่วนของฮอลล์ 5 จัดสรรให้เป็นพื้นที่แสดงรถยนต์ ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานแล้ว 35 ราย เนื่องจากช่วงปลายปีจะมีรถรุ่นใหม่เปิดตัวกันหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนโฉมใหม่ ปรับโฉมเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในช่วงปลายปี ส่วนในฮอลล์ 6-8 จะเป็นการรวมตัวรถยนต์มือสองที่มีผู้ประกอบการหลายรายนำเข้ามาร่วม รวมถึงอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ ในส่วนพื้นที่ลานด้านนอกจะมีการจัดแสดงในส่วนของเครื่องเสียงรถยนต์ ซึ่งจะมีการแสดงรถยนต์ที่ตกแต่งอุปกรณ์เครื่องเสียงจากหลายค่ายมาโชว์และแสดงถึงพลังของเครื่องเสียงกันหลากหลายรูปแบบ
ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เท่าไร และจะมีเงินสะพัดเท่าไหร่?
อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าในปีนี้จะมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัว รวมถึงการไมเนอร์เชนจ์รถหลายรุ่น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคจึงคาดว่ายอดขายรถยนต์ภายในงานน่าจะไม่น้อยกว่า 15,000 คัน ซึ่งตัวเลขนี้เป็นตัวเลขประเมินเท่านั้น เพราะที่ผ่านมายอดขายภายในงานจริงๆนั้นสูงกว่าการคาดการณ์ทุกปี โดยคาดว่าในปีนี้จะมีเงินสะพัดภายในงานมหกรรมยานยนต์ไม่ต่ำกว่า 18,000 ล้านบาท
การแข่งขันของค่ายรถยนต์ในงานนั้นจะเป็นแบบไหน?
การแข่งขันก็คงจะเป็นเหมือนเดิม นั้นคือเรื่องของการลดแลกแจกแถม ซึ่งเป็นธรรมชาติของการทำตลาดรถยนต์ในบ้านเรา แต่ที่น่าจับตามองก็คือตลาดรถยนต์นั่ง เพราะคาดว่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีทีผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งนั้นตกลงไปมาก ประมาณ 13 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพราะโปรดักท์ในส่วนของรถยนต์นั่งตั้งแต่ต้นปี ค่ายรถยังไม่มีโปรดักท์รุ่นใหม่ๆเปิดตัวสู่ตลาด ต่างมีแผนที่จะมาเปิดตัวกันในช่วงปลายปี โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็กต์ ไม่ว่าจะเป็น ฟอร์ด โฟกัส หรือล่าสุด ฮอนด้า ซีวิค ซึ่งผู้บริโภคต่างรอคอยได้เห็นตัวจริง จึงคาดว่ารถยนต์นั่งจะมียอดขายกระเตื้องขึ้นในช่วงนี้
ในส่วนของรถกระบะนั้นแม้ว่าโปรดักท์ตัวใหม่จะไม่มีการเปิดตัวในงาน แต่ก็ยังเชื่อว่าจากแคมเปญส่งเสริมการขายที่ค่ายรถนำมาแข่งขันกันจะมีส่วนให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถภายในงาน โดยสัดส่วนการขายในงานนี้น่าจะแบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 65% และรถกระบะ 35%
บริษัทรถเข้าร่วมงานกันครบหรือไม่?
ปีนี้บริษัทรถยนต์หลักๆ ก็เข้าร่วมงานกันเกือบครบ ส่วนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมงานในปีนี้ก็มี เมอร์เซเดส-เบนซ์ กับ บีเอ็มดับเบิลยู แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะมีการส่งตัวแทนจากดีลเลอร์เข้าร่วมงานแทน ในส่วนของเมอร์เซเดส-เบนซ์นั้น แม้ว่าจะไม่เข้าร่วม แต่ภายในงานก็ยังมีรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ จากผู้นำเข้าอิสระอย่าง เอสอีซี กรุ๊ปมาโชว์และจำหน่าย ซึ่งจากการจัดงานในอดีตนั้นมีอยู่ปีหนึ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่เข้าร่วมงาน ทำให้ลูกค้าต่างแห่จองรถจากผู้นำเข้าอิสระเป็นจำนวนมากกว่า 400 คัน แสดงให้เห็นว่าความต้องการของผู้บริโภคนั้นมีอยู่ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทแม่ขายเท่านั้น
มีบริษัทรถใหม่ๆเข้าร่วมงานบ้างไหม?
ปีนี้งานมหกรรมยานยนต์ได้รับความสนใจจากประเทศจีนที่จะนำ สินค้าเข้ามาแสดง โดยครั้งนี้ได้นำรถจักรยานยนต์จากประเทศจีนเข้ามาร่วมโชว์ และมีการลงทุนสร้างบูธกว่า 7 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนจากต่างประเทศ
ในงานบริษัทรถยนต์นำเทคโนโลยีใหม่ๆหรือรถต้นแบบอะไรมาโชว์กันบ้าง?
ปีนี้มีรถต้นแบบเข้ามาร่วมแสดงภายในงานประมาณ 3-4 คัน อาทิ จากค่ายฟอร์ด ที่นำรถกระบะต้นแบบ 4-Trac มาโชว์ และทางค่ายมาสด้านำ MX-Crossport มาโชว์ให้คนไทยได้เป็นถึงนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต เป็นต้น
ในปีนี้ได้จัดรายการพิเศษชิงรางวัลสำหรับผู้เข้าร่วมงานอย่างไร?
ปีนี้ทางผู้จัดได้เพิ่มราคาบัตรผ่านประตูเป็น 80 บาท แต่ได้จัดรายการชิงรางวัลภายในงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยผู้ที่ซื้อรถยนต์ภายในงานนี้ทุกคัน ทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับคูปองชิงรางวัลรถยนต์ ซูบารุ อาร์ทู มูลค่า 1,450,000 บาท 1 คัน และสำหรับผู้ที่ซื้อบัตรเข้าชมงาน หากกรอกแบบสอบถามก็มีสิทธิ์ลุ้นรับรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็กซ์ มูลค่า 512,000 บาท 1 คัน และนอกจากนั้นผู้จัดได้ร่วมมือกับทาง AIS ร่วมสนุกกับการส่ง USSD ก็สามารถลุ้นรับรางวัลรถยนต์ ซูซูกิ สปอร์ตตี้ มูลค่า 388,800 บาท 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ MP300 มูลค่า 5,490 บาทจำนวน 10 รางวัล ซึ่งถือว่าเป็นการคืนกำไรให้กับผู้เข้าร่วมงาน
รองรับปัญหาเรื่องการจราจรและที่จอดรถที่เป็นปัญหามาทุกปีอย่างไร?
ในส่วนของการจราจรนั้น ทางผู้จัดงานได้ขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจใน 3 ท้องที่ ประกอบด้วย สถานีตำรวจทุ่งสองห้อง สถานีตำรวจปากเกร็ด และสถานีตำรวจทางด่วน เพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงระหว่างการจัดงาน ซึ่งได้เตรียมพื้นที่สำหรับจอดรถ ทั้งในอาคารและนอกอาคาร โดยสามารถรองรับได้ 100,000 คันต่อวัน ซึ่งปัญหาการจราจรส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้เข้าร่วมงานวนหาที่จอดรถที่ใกล้ฮอลล์มากที่สุด พอต่างเข้าไปข้างในมากๆแต่ไม่มีที่จอดก็เกิดการติดขัด จึงอยากขอความร่วมมือจากผู้ที่จะเข้าชมงาน หากเห็นเจ้าหน้าที่เรียกให้จอดตรงจุดไหนแสดงว่าตรงจุดนั้นว่างและสามารถจอดได้ ให้เข้าไปจอดได้เลย ไม่ต้องวนเข้าไปข้างใน เพราะเจ้าหน้าที่จะมีการสื่อสารบอกกล่าวแล้วว่าภายในจะมีพื้นที่หรือไม่ ซึ่งทางผู้จัดงานจะมีรถรับ-ส่งบริเวณลานจอดรถกับฮอลล์แสดงอยู่แล้ว
นอกจากนั้นยังอยากให้ผู้ที่เข้าชมงานได้ใช้บริการรถสาธารณะ หรือรถไฟฟ้า เพราะทางผู้จัดได้จัดรถบัสรับ-ส่งสำหรับผู้เข้าชมงานจากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตมายังบริเวณงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้การจราจรภายในเมืองทองธานีลดการติดขัดลงได้
สำหรับงานที่จัดขึ้นนั้นจะเปิดแสดงรอบประชาชนทั่วไปตั้งแต่ วันที่ 1-12 ธันวาคม 2548 นี้ ตั้งแต่เวลา 12.00น.-22.00น. ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ และวัยหยุดราชการ เปิดตั้งแต่ 11.00น.-22.00 น.