ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เผยแผนกลยุทธ์ด้านดิจิตัลแบงก์กิ้งปี 2561 ภายใต้กรอบแนวคิด “Remarkable Digital Banking Experiences and Big Data” รุกพัฒนาระบบดิจิตัลแบงก์กิ้งเพื่อให้ครอบคลุมทุกการใช้งานของลูกค้ารายย่อย เปิดตัวระบบดิจิตัลแบงก์กิ้งแบบครบวงจรตั้งแต่การสมัครผลิตภัณฑ์ (Digital Acquisition) การสร้างความผูกพันกับลูกค้าผ่าน Digital Engagement การชำระค่าสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์ (Digital Payment) และการเข้าร่วมใน Digital Ecosystem ผ่าน 7 ฟีเจอร์ใหม่ พร้อมเปิดตัวการใช้งาน API เป็นครั้งแรกกับ เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ ที่ต่อยอดจากซิตี้เพย์วิทพ้อยท์ ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีด้านการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ได้มากยิ่งขึ้น และยังสามารถต่อยอดการใช้งานกับองค์กรธุรกิจประเภทอื่นๆ ได้ อาทิ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า แผนกลยุทธ์ด้านดิจิตัลแบงก์กิ้งปี 2561 ภายใต้กรอบแนวคิด “Remarkable Digital Banking Experiences and Big Data” มีหลักสำคัญในการพัฒนาระบบดิจิตัลแบงก์กิ้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านดิจิตัลแอควิซิชั่น (Digital Acquisition) เน้นการสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ของธนาคารให้เป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็ว ด้านดิจิตัลเอ็นเกจเม้นท์ (Digital Engagement) เน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านดิจิตัลแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะในเรื่องของการทำธุรกรรมบนมือถือ ด้าน ดิจิตัลเพย์เม้นท์ (Digital Payment) เน้นการสร้างสรรค์และออกแบบบริการให้เหมาะสมกับการชำระเงินของลูกค้าในยุคไทยแลนด์4.0 และด้านดิจิตัลอีโค่ซิสเต็ม (Digital Ecosystem) เน้นพัฒนาการบริการที่ใช้งานได้โดยง่ายผ่านโซเชียลมีเดีย หรือ แอพพลิเคชั่น
โดยสิ่งที่ซิตี้แบงก์ได้พัฒนาทั้งหมดนี้จะสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ในทุกการบริการของซิตี้แบงก์ ปัจจุบันซิตี้แบงก์มีฐานลูกค้ารายย่อยครอบคลุม ทั้งกลุ่มลูกค้าบริหารความมั่งคั่ง กลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต กลุ่มลูกค้าสินเชื่อบุคคลรวมถึงบัญชีเงินฝากลูกค้ารายย่อย
นางวีระอนงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2561 ซิตี้แบงก์ได้ตั้งเป้าพัฒนาฟีเจอร์หลากหลายรูปแบบทั้ง การใช้งานผ่านดิจิตอลอีโค่ซิสเต็ม (Digital Ecosytem) ซึ่งเน้นให้มีโซลูชั่นในทุกแพลตฟอร์ม โดย 7 ฟีเจอร์ที่ซิตี้แบงก์มีการเปิดให้ลูกค้าใช้บริการ ได้แก่
1. รีมาร์คเคเบิ้ลเครดิตเอกซ์พีเรียนซ์ (Remarkable Credit Experience หรือ RCE) การสมัครบัตรเครดิตใบที่2 ผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคาร ซึ่งลูกค้าจะได้รับการอนุมัติทันที และลูกค้าสามารถใช้บัตรได้ทันทีเช่นกัน โดยไม่ต้องรอบัตรพลาสติก ซึ่งจะเป็นการใช้บัตรด้วยการสแกน QR Code ณ ร้านค้าต่างๆที่รับ QR Code สำหรับบัตรเครดิต
2. คิวอาร์เพย์เม้นท์ (QR Payment) ระบบที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด ผ่านบัตรเครดิตงซิตี้ ทั้ง VISA และ MasterCard ซึ่งต่างจากระบบ QR ในปัจจุบันในท้องตลาด ที่เป็นการใช้ผ่านบัญชีเงินฝาก Prompt Pay
3. ไลน์บิสซิเนสคอนเน็ค (LINE Business Connect) ช่องทางใหม่ที่ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบ ยอดใช้จ่าย การชำระเงิน วงเงินคงเหลือ คะแนนสะสม หรือแม้แต่การผ่อนชำระรายการใช้จ่าย ได้ผ่าน LINE ซึ่งถึงเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยที่ให้บริการนี้
4. ไลน์ บีซีอาร์เอ็ม (LINE BCRM) ระบบที่ช่วยให้ธนาคารฯ สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายตามแต่ไลฟ์ไตล์ของลูกค้า และความชื่นชอบของลูกค้าแต่ละท่าน
5. เมอร์แชนท์ เรคคอมเมนด์เดชั่น เอ็นจิ้น (Merchant Recommendation Engine หรือ MRE) เป็นระบบการประมวลข้อมูลจากบิ๊กดาต้า (Big Data) โดยระบบจะเก็บข้อการใช้จ่ายของลูกค้า ประมวลผล แล้วเลือกส่งข้อมูลโปรโมชั่นและของเสนอที่โดนใจให้กับลูกค้า ก่อนที่ลูกค้าจะไปซื้อสินค้าและบริการ ณ ร้านค้านั้นๆ
6. ซิตี้โมบายล์แอพลิเคชั่น (Citi Mobile Application) รูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า โดยมีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ เช่น การแลกคะแนนสะสม การเปลี่ยนรายการใช้จ่ายให้เป็นแบบผ่อนจ่ายรายเดือน การขอเปลี่ยนที่อยู่อีเมล์หรือเบอร์โทรศัพท์ได้ด้วยตนเองบนมือถือ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
7. ซิตี้เพย์วิทพ้อยท์ (Citi Pay with Points) ฟีเจอร์การแลกคะแนนสะสมเป็นยอดค่าใช้จ่ายง่ายๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ผ่านร้านค้าชั้นนำ อาทิ สตาร์บัคส์ แอปเปิ้ลสโตว์ ลาซาด้า การบินไทย และเมเจอร์ซินีเพล็กซ์ และร้านค้าออนไลน์อื่นๆอีกกว่า 10 ราย
มร. ซานดีพ บาตระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ซิตี้แบงก์ได้ร่วมมือกับ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ต่อยอดพัฒนาฟีเจอร์ซิตี้เพย์วิทพ้อยท์ (Citi Pay with Points) ด้วยการเชื่อมต่อกันผ่าน API โดยลูกค้าของบัตรเครดิตซิตี้จะสามารถแลกคะแนนสะสมเป็นบัตรชมภาพยนตร์ ณ โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้ ผ่านทางโมบายล์แอปพลิเคชั่นเมเจอร์มูฟวี่พลัส (Major Movie Plus) ทั้งบนระบบไอโอเอส (iOS) และแอนดรอยด์ (Android) โดยลูกค้าจะได้รับคิวอาร์โค้ด ซึ่งสามารถนำไปแสกนและเข้าชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ได้ทันที ทั้งนี้การพัฒนาระบบดังกล่าว จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีด้านการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดการใช้งานกับองค์กรธุรกิจประเภทอื่นๆ ได้ อาทิ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
นายนิธิ พัฒนภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือที่ก้าวไปอีกขั้น โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ของผู้บริโภคอยู่เสมอ ซึ่งประสบการณ์ในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ผ่านระบบซิตี้เอพีไอ (Citi API) นี้ จะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตัลของกลุ่มลูกค้าเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์และธนาคารซิตี้แบงก์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความสุขให้กับคอหนังได้อย่างครบวงจร โดยปัจจุบันระบบดังกล่าวสามารถใช้งานได้ 129 สาขา ทั่วประเทศไทย