สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ชี้ธุรกิจเข้าสู่จุดเปลี่ยน !! แนะผู้ประกอบการเตรียมความพร้อม รองรับปรับสมดุลธุรกิจ-เพิ่มคุณค่าสู่ความยั่งยืน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการยกระดับและเชื่อมโยงห่วงโซ่ธุรกิจบริการก่อสร้าง สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2017 ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ว่า รัฐบาลมีนโยบายในการสนับสนุนธุรกิจภาคบริการ ที่ถือเป็นภาคส่วนที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวได้ โดยธุรกิจรับสร้างบ้านที่เป็นธุรกิจภาคบริการ ถือเป็นธุรกิจที่มีอนาคตขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากภาครัฐมีแผนที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยงขยายเมืองออกไปทั่วประเทศ เป็นการสนับสนุนการเติบโตและพัฒนาไปสู่ไทยแลนด์ 4.0
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจรับสร้างบ้านมีบทบาทสำคัญทั้งกับชุมชนเมือง ท้องถิ่น และประเทศ มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งมีส่วนในการสนับสนุนการเติบโตของจีดีพีด้วย ซึ่งธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจรับสร้างบ้านมีมูลค่าตลาด 3.8 แสนล้าน คิดเป็น 3% ของจีดีพี ในส่วนของธุรกิจสร้างบ้าน มีมูลค่าตลาดราว 1 แสนล้านบาท
นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน(HBA:Home Builder Association ) กล่าวว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านอยู่ในภาวะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ประกอบกับประเด็นท้าทายด้านแรงงานยังเป็นปัจจัยที่กดดันภาพรวมธุรกิจในทุกๆภาคส่วน อีกทั้งธุรกิจยังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจากกระแสเทคโนโลยี สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบทบต่อธุรกิจ
ทั้งนี้ ภายใต้บริบทต่างๆที่เกิดขึ้นล้วนเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจเข้าสู่จุดเปลี่ยน ในหลายๆประเด็นดังนี้ คือ 1.การปรับตัวต้องรวดเร็ว 2. ในยุคที่แรงงานขาดแคลน หรือมีปัญหาด้านภาระต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น การก่อสร้างที่ใช้คนน้อยๆ แล้วหันไปใช้เทคโนโลยีด้านการก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพหรือการนำเอาวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปมาใช้ ก็เป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงในการเพิ่ม Productivity และ3.การเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคที่หลากหลายและเข้าถึงได้หลายช่องทาง เป็นเรื่องที่ภาคธุรกิจต้องปรับตัวหาจุดแข็งขององค์กร พร้อมกับสร้างจุดขายให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างความต้องการของลูกค้ากับเทคโนโลยี
“ผมว่ากระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล Big Data ,Social Network และอื่น ๆล้วนเป็นตัวเร่งให้ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านต้องปรับตัวให้ทันและต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วด้วย ซึ่งเชื่อว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทหรือมีอิทธิพลต่อผู้ประกอบการที่จะต้องนำมาเป็นส่วนสำคัญในการปรับหรือกำหนดกลยุทธ์เพื่อพิชิตเป้าสู่การเติบโตใหม่ในอนาคต”นายพิชิต กล่าว