กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผสานพลังประชารัฐสร้างการมีส่วนร่วมแก้ไขและพัฒนาแหล่งน้ำในชุมชน สานต่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำตามแนวพระราชดำริในพื้นที่ลุ่มน้ำปราจีนบุรี เตรียมพร้อมรับมือปัญหาน้ำหลากในช่วงฤดูฝนและรับมือปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน
พร้อมตั้งเป้าเพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำเป็น 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดช่วยลดงบประมาณภาครัฐในการชดเชยความเสียหายและเพิ่มรายได้ให้ชุมชนรวมทั้งสิ้น 76 ล้านบาท และเป็นชุมชนต้นแบบด้านการจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหลากและน้ำแล้งให้ชุมชนอื่นต่อไป
พิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ฮอนด้ามีเจตนารมณ์มุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่สร้างสรรค์คุณค่าอยู่คู่สังคมไทย สนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอด ซึ่งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำปราจีนบุรี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่ฮอนด้าให้การสนับสนุน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ประชาชนชาวไทยสามารถรับมือเมื่อประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยได้จัดกิจกรรมนำร่องเชิญชวนอาสาสมัครพนักงานกลุ่มบริษัทฮอนด้า ผู้จำหน่าย และชุมชนท้องถิ่น ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์พัฒนาแหล่งน้ำด้วยการปรับปรุงฝายกักเก็บน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางการเกษตรและการอุปโภคบริโภค ตลอดจนการรณรงค์ปลูกหญ้าแฝกและพันธุ์ไม้ท้องถิ่นเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเป็นแหล่งพักผ่อนให้ชุมชน สานต่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการบริหารจัดการน้ำชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อรับมือปัญหาน้ำหลากและปัญหาภัยแล้ง”
ด้าน ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า “ภาคประชาชน และกลุ่มเครือข่ายองค์การบริหารส่วนตำบลนาแขมและตำบลเมืองเก่า ได้ทำการสำรวจพื้นที่ในชุมชน พบว่าพื้นที่นี้ประสบปัญหาซ้ำซ้อนทั้งน้ำท่วมหลากและน้ำแล้งมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี โดยมีสภาพลำคลองตื้นเขินและถูกปกคลุมด้วยวัชพืชทำให้กักเก็บน้ำได้น้อย ทั้งยังเป็นพื้นที่รับน้ำท่วมหลากจากเขาใหญ่ด้านจังหวัดสระแก้ว 70-80% ของน้ำทั้งหมด และรับน้ำหลากจากจังหวัดนครนายก 100% แล้วน้ำจะไหลสู่แม่น้ำปราจีนบุรี และมีคอขวดที่แปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ทำให้พื้นที่ทั้ง 2 ตำบลมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการบริหารจัดการด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ด้วยการนำแนวทางพระราชดำริ เรื่องแก้มลิงสำรองน้ำมาปรับใช้ในการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อปรับปรุงเพิ่มความจุแหล่งเก็บกักน้ำเดิม เช่น ฝาย และหนองน้ำ ในบริเวณลำน้ำสายย่อยต่างๆ โดยเฉพาะงานพัฒนาและฟื้นฟูหนองปลาแขยง ซึ่งเป็นแหล่งสำรองน้ำขนาดใหญ่ 448 ไร่ เพื่อกักเก็บน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก และใช้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับอุปโภค บริโภค และเกษตรกรรมในฤดูแล้ง รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองต่างๆ และการกักเก็บน้ำ สามารถแก้ปัญหาน้ำหลากและน้ำแล้งที่ประสบมานานกว่า 10 ปี ถือเป็นตัวอย่างของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคเอกชน ส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น และชุมชนที่เกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย”
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปราจีนบุรีในครั้งนี้ เป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2558 โดยได้รับงบประมาณจากกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยรวมทั้งสิ้น 15.8 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเมืองเก่าและตำบลนาแขม อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีแผนพัฒนาปรับปรุงฟื้นฟูหนองปลาแขยง และคลองบุงกะเบา ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่สำคัญของชุมชนในช่วงฤดูแล้งและน้ำหลาก โดยคาดว่าหลังจากดำเนินงานแล้วเสร็จในปี 2559 จะสามารถบรรเทาปัญหาน้ำหลาก ซึ่งทำลายพื้นที่เพาะปลูกของทั้ง 2 ตำบลได้ถึง 10,000 ไร่ ส่งผลให้ภาครัฐประหยัดงบประมาณในการชดเชยความเสียหายได้ถึง 12,000,000 บาท และช่วยสำรองน้ำในพื้นที่โครงการแก้ปัญหาภัยแล้งรวม 16,000 ไร่ และเพิ่มรายได้การผลิตขั้นต่ำในช่วงฤดูแล้ง 64,000,000 บาท รวมทั้งสามารถเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำได้รวม 3,459,821 ลูกบาศก์เมตรต่อปี มีพื้นที่เกษตรได้รับผลประโยชน์รวม 14,093 ไร่ และมีผู้ได้รับประโยชน์ 4,485 ครัวเรือน
“กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายความร่วมมือการจัดการน้ำที่มีชุมชนเป็นฐาน ตั้งแต่การสำรวจ ศึกษา รวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ปัญหาเชิงลึกในแต่ละพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การเสนอแนวทางเพื่อแก้ไขและพัฒนาเพื่อประโยชน์สูงสุดในชุมชนอย่างยั่งยืน โดยตำบลนาแขมและตำบลเมืองเก่า จะเป็นชุมชนต้นแบบของการจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหลากและน้ำแล้ง ซึ่งจะพัฒนาและขยายผลความสำเร็จไปสู่ชุมชนอื่นในประเทศไทยต่อไป โดยกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุน และมอบความช่วยเหลือแก่พี่น้องชาวไทยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยและอยู่เคียงข้างคนไทยตลอดไป” พิทักษ์ กล่าวในตอนท้าย
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย
กลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ได้ร่วมกันประกาศจัดตั้งกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฮอนด้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 เพื่อเตรียมความพร้อมในการมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับประชาชนไทยในยามที่ประเทศไทยอาจเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ แผ่นดินไหว ดินถล่ม ภัยหนาว ภัยแล้ง น้ำท่วม ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ดำเนินงานภายใต้กองทุนดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที โดยมอบเงินสมทบ 1,000 บาทต่อการขายรถยนต์หนึ่งคัน 100 บาทต่อการขายรถจักรยานยนต์หนึ่งคัน และ 10 บาทต่อการขายเครื่องยนต์อเนกประสงค์ 1 เครื่อง ปัจจุบัน กองทุนฯ มียอดเงินสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ถึงเดือนมีนาคม 2559 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 891 ล้านบาท ทั้งนี้กองทุนฯ ได้กำหนดภารกิจในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านเงินทุน 2) ด้านวัสดุอุปกรณ์ 3) ด้านการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และ 4) ด้านการส่งเสริมความรู้ในการรับมือภัยพิบัติ