ซีพีเอ็น ต่อยอดธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มศูนย์การค้าเซ็นทรัล

ซีพีเอ็น เผยแผนสร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาพื้นที่ติดศูนย์การค้า ชูแนวคิดสร้างคอนโดฯติดศูนย์การค้าตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในฐานะที่ ซีพีเอ็น เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จึงได้ต่อยอดธุรกิจโดยนำที่ดินที่มีอยู่มาพัฒนาให้มีมูลค่ามากขึ้น ด้วยการให้บริษัท ซีพีเอ็น เรซซิเด้นซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของซีพีเอ็นมาดูแลรับผิดชอบพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ติดกับศูนย์การค้า เสริมความสมบูรณ์แบบให้ธุรกิจ สร้างฐานลูกค้าให้แข็งแกร่ง ตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ รวมถึงสร้างโอกาสในการนำศักยภาพจากกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายในกลุ่มเซ็นทรัล มาสร้างความแตกต่าง มอบความสะดวกสบายและสิทธิประโยชน์ให้กับลูกบ้านอย่างไม่มีที่ใดทำได้”

บริษัท ซีพีเอ็น เรซซิเด้นซ์ ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งจะให้น้ำหนักการพัฒนาโครงการในช่วงแรกไปยังพื้นที่ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัลเฟสติวัลเป็นหลัก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดิน ซึ่งได้เปิดตัวไป 3 โครงการ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการเอสเซ็นท์ เชียงใหม่ โครงการเอสเซ็นท์ ระยอง และโครงการเอสเซ็นท์ ขอนแก่น

ร.อ.กรี เดชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาโครงการพิเศษ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการที่ซีพีเอ็น นำร่องเปิดตัว 3 โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ แบรนด์ ‘เอสเซ็นท์’กับคอนเซ็ปต์ “ชีวิตที่ใช่...ใกล้แค่ก้าว” โดยเป็นการต่อยอดธุรกิจจากศูนย์การค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้พื้นที่และสร้างความแข็งแกร่งของโครงการแบบมิกซ์ยูสครั้งแรกของซีพีเอ็นโดยบริษัทสามารถปิดการขายโครงการ ‘เอสเซ็นท์ เชียงใหม่คอนโด’ ( ESCENT CHIANGMAI CONDO) มูลค่าโครงการ ประมาณ 925 ล้านบาท มีจำนวน 400 ยูนิต สร้างยอดขายได้ 925 ล้านบาท ส่วนอีก 2 โครงการ เอสเซ็นท์ ขอนแก่น และ เอสเซ็นท์ ระยอง มียอดขายแล้วกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ไม่เกินไตรมาส 3 ของปี2559 นี้ รวมทั้งสามโครงการคาดว่าจะส่งมอบได้ในไตรมาสแรกปี 2561 โดยจะสร้างรายได้ให้กับซีพีเอ็น ทั้งหมด 2,735 ล้านบาท

ร.อ. กรี กล่าวว่า ความสำเร็จของโครงการเอสเซ็นท์ทั้ง 3 โครงการ ถือว่าเป็นไปตามความคาดหมายซึ่งเป็นผลจากการวิเคราะห์ลูกค้าและการสำรวจตลาดอย่างละเอียดจนสามารถตอบสนองลูกค้าในด้านตัวสินค้า เสริมกับที่ตั้งของโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ เซ็นทรัลพลาซา ระยอง และเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ยิ่งได้รับการตอบสนองที่ดีในเรื่องสินค้า สเปค คุณภาพ ฟังก์ชั่นที่ดี ระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งที่จอดรถภายในอาคารที่มีมาตรฐาน มีช่องทางเดินเชื่อมเข้าศูนย์การค้าโดยตรง ซึ่งลูกค้าจะสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและไลฟ์สไตล์ แฟชั่น อาหาร และการพักผ่อนที่ครบครัน ทันสมัย

ในแง่ของการดีไซน์ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญของความสำเร็จในครั้งนี้ คือ เราได้คำนึงถึงการอยู่อาศัยจริง โดยออกแบบให้ห้องชุดมีหน้ากว้าง 7.6 เมตร ซึ่งเปรียบเทียบกับคอนโดทั่ว ๆ ไปที่มีหน้ากว้างประมาณ 5.2 เมตร มีผลทำให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการเอสเซ็นท์ รู้สึกปลอดโปร่ง อยู่สบาย ไม่อึดอัดนอกจากนั้น ยังคำนึงถึงสภาพแวดล้อม ทิศทางของลมและแสงแดด รวมทั้งการวางแผนการจัดแลนด์สเคปที่มีพื้นที่สีเขียว ต้นไม้ใหญ่ ช่วยสร้างความร่มรื่น

การทำตลาดของเอสเซ็นท์ เน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ทันสมัย ที่สะดวกสบายจากศูนย์การค้า ทั้งนี้เราได้ไปเปิดสำนักงานขายอยู่ในพื้นที่ศูนย์การค้าทั้ง 3 แห่ง เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงไลฟ์สไตล์รูปแบบพิเศษ ไม่เหมือนใคร ที่มีเพียงแต่ซีพีเอ็น ที่มอบให้ได้

สำหรับโอกาสการเติบโตของธุรกิจที่อยู่อาศัย ของซีพีเอ็น ร.อ.กรี ได้กล่าวว่า โครงการที่พักอาศัย เป็นธุรกิจที่ต่อยอดจากศูนย์การค้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของซีพีเอ็น ปัจจุบัน ซีพีเอ็น บริหารศูนย์การค้าทั้งหมด 29 สาขาทั่วประเทศ และมีแผนการขยายธุรกิจศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่องทุกปี จึงเป็นโอกาสของธุรกิจที่อยู่อาศัยที่จะได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ผสานไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่อยู่ใกล้ศูนย์การค้าที่ได้รับความสะดวกสบาย ในขณะเดียวกัน การมีที่อยู่อาศัยที่อยู่ในพื้นที่ติดกับศูนย์การค้า เพื่อเพิ่มลูกค้าให้กับศูนย์การค้า เสริมความแข็งแกร่งเพิ่มยิ่งขึ้นด้วย