ณุศาศิริ ดึงพันธมิตรต่างชาติเสริมทัพ เปิดตัวทีมผู้บริหารใหม่จากสิงคโปร์ พร้อมขยายธุรกิจไปยังการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างผลประโยชน์ให้บริษัท ดึงมืออาชีพบริหารโครงการรองรับการขยายธุรกิจ
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตไปในทางที่ดีขึ้น เนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการอนุมัติลงทุนในเมกะโปรเจ็คของภาครัฐ ที่มีการร่วมมือกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC เพื่อส่งเสริมธุรกิจ SME ประกอบกับสภาพการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น เห็นได้จากตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ (Foreign Direct Investment: FDI) มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มีต่อไทยเพิ่มมากขึ้น
ณุศาศิริ จึงปรับตัวรับกับสถารณ์ดังกล่าว ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและแนวทางการบริหารงานเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางและแนวโน้มของตลาดโดยจะเน้นจับกลุ่มตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ จะเริ่มจากการดึงพันธมิตรต่างชาติ เข้ามาร่วมงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรในการเริ่มรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น
บริษัทฯมีแผนการขยายธุรกิจไปยังการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างผลประโยชน์ให้บริษัท เพื่อเพิ่มช่องทางและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับองค์กรโดยพันธมิตรชั้นนำจากต่างประเทศที่เข้ามาร่วมบริหารงานครั้งนี้ คือ กลุ่ม เมอเวนพิค
(Mövenpick) เชนโรงแรมระดับ 5 ดาว จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ประสบความสำเร็จด้วยธุรกิจโรงแรมในเครือมากกว่า 83 แห่งทั่วโลก ซึ่งจะเข้ามาบริหารโครงการของณุศาศิริ ที่มีอยู่ โดยนำร่อง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่, โครงการ ณุศา ศรีราชา และ โครงการ คอนโดมิเนียม อัพ เอกมัย
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,208.47 ล้านบาท และกำไร 63.14 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับ ปี 2557 รายได้รวมอยู่ที่ 1,271.56 ล้านบาท และกำไร 106.76 ล้านบาท โดยในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขาย 4,000 ล้านบาทและรายได้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจากการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ และการร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติ คาดว่าจะส่งผลให้บริษัท ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน
ส่วนทิศทางธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงผลประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า และสร้างความมั่นคงแก่ผู้ถือหุ้น ด้วยระบบบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการคัดสรรวัสดุการก่อสร้างทั้งภายนอก ภายใน และวัสดุตกแต่งต่างๆ อย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างคุณค่าอันมั่นคงทั้งในด้านการลงทุน และคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้า
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตไปในทางที่ดีขึ้น เนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการอนุมัติลงทุนในเมกะโปรเจ็คของภาครัฐ ที่มีการร่วมมือกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC เพื่อส่งเสริมธุรกิจ SME ประกอบกับสภาพการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น เห็นได้จากตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ (Foreign Direct Investment: FDI) มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มีต่อไทยเพิ่มมากขึ้น
ณุศาศิริ จึงปรับตัวรับกับสถารณ์ดังกล่าว ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและแนวทางการบริหารงานเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางและแนวโน้มของตลาดโดยจะเน้นจับกลุ่มตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ จะเริ่มจากการดึงพันธมิตรต่างชาติ เข้ามาร่วมงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรในการเริ่มรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น
บริษัทฯมีแผนการขยายธุรกิจไปยังการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างผลประโยชน์ให้บริษัท เพื่อเพิ่มช่องทางและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับองค์กรโดยพันธมิตรชั้นนำจากต่างประเทศที่เข้ามาร่วมบริหารงานครั้งนี้ คือ กลุ่ม เมอเวนพิค
(Mövenpick) เชนโรงแรมระดับ 5 ดาว จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ประสบความสำเร็จด้วยธุรกิจโรงแรมในเครือมากกว่า 83 แห่งทั่วโลก ซึ่งจะเข้ามาบริหารโครงการของณุศาศิริ ที่มีอยู่ โดยนำร่อง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่, โครงการ ณุศา ศรีราชา และ โครงการ คอนโดมิเนียม อัพ เอกมัย
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,208.47 ล้านบาท และกำไร 63.14 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับ ปี 2557 รายได้รวมอยู่ที่ 1,271.56 ล้านบาท และกำไร 106.76 ล้านบาท โดยในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขาย 4,000 ล้านบาทและรายได้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจากการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ และการร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติ คาดว่าจะส่งผลให้บริษัท ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน
ส่วนทิศทางธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงผลประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า และสร้างความมั่นคงแก่ผู้ถือหุ้น ด้วยระบบบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการคัดสรรวัสดุการก่อสร้างทั้งภายนอก ภายใน และวัสดุตกแต่งต่างๆ อย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างคุณค่าอันมั่นคงทั้งในด้านการลงทุน และคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้า
