นิด้าเดินหน้าพัฒนาการศึกษา มุ่งเพิ่มพูนองค์ความรู้และเครื่องมือสำหรับผู้บริหารยุคใหม่ หวังสร้างผู้นำการเปลื่ยนแปลง ตอบโจทย์องค์กรและอนาคตประเทศไทย
ศาสตราจารย์ ดร. อัญชนา ณ ระนอง ผู้อำนวยการ โครงการปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MPA) ภาคพิเศษ กรุงเทพมหานคร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ในการพัฒนาประเทศไทยให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการพัฒนาด้านการศึกษา โดยควรให้ความสนใจในเรื่องคุณภาพของการศึกษามากขึ้น ตั้งแต่การศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึงอุดมศึกษา โดยเน้นการฝึกนักเรียนนักศึกษาให้มีความสามารถในการคิดและวิเคราะห์ และไม่ปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก
คุณสมบัติของเด็กรุ่นใหม่ที่จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศไทยในอนาคตควรเป็นเด็กที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักการทำงานเป็นทีม และมีความรับผิดชอบ ถ้าเด็กมีคุณสมบัติเหล่านี้ ก็ไม่ยากที่จะแข่งขันในตลาดแรงงาน สำหรับการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษานั้น หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ของนิด้าใช้วิธีสอนแบบวิเคราะห์เป็น case หรือกรณีศึกษา ซึ่งเป็นวิธีการที่จะเพิ่มศักยภาพในด้านการวิเคราะห์ให้นักศึกษาได้อย่างมาก
ในปัจจุบัน เด็กไทยมักใช้การเรียนพิเศษเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเพิ่มโอกาสในการสอบเข้าเรียนต่อในสถาบันที่มีชื่อเสียงในแทบทุกระดับ ซึ่งการเรียนพิเศษมักเน้นการสอนเทคนิคในการตอบข้อสอบ ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของการศึกษา การวัดผลการศึกษาก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องมีการปรับปรุง ถ้าการวัดผลการศึกษาไม่เปลี่ยน สถานศึกษาก็คงไม่ต้องการปรับตัวอะไร หรือไม่ก็ปรับตัวไปในทางที่จะทำอย่างไรให้เด็กได้คะแนนสูง หรือเด็กสอบเข้าได้มาก
ดังนั้น การปฎิรูปการศึกษาจึงต้องทำทั้งระบบ และมีความสอดคล้องกัน ตั้งแต่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเด็กแต่ละระดับต้องมีความรู้และทักษะในการวิเคราะห์อะไรบ้าง เนื้อหา กิจกรรม และวิธีการสอนก็ต้องสอดคล้องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ การวัดผลก็ต้องวัดผลตามเป้าหมายนั้น เป็นต้น
ศ.ดร.อัญชนา ยกตัวอย่างการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา คือหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต ภาคพิเศษ กรุงเทพมหานครที่รับผิดชอบอยู่ว่า เนื่องจากเป็นการศึกษาในระดับปริญญาโทที่มีเนื้อหาเน้นการจัดการภาครัฐ หลักสูตรจึงครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติ โดยศึกษาแบบพหุวิทยาการ (Multi-disciplinary) ที่เน้นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีทางการบริหารกับงานในด้านต่างๆ อย่างบูรณาการ เพื่อเพิ่มพูนทักษะทางด้านการบริหารของผู้บริหารทั้งในหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ให้สามารถแก้ปัญหาและตัดสินใจบนพื้นฐานของวิชาการและข้อมูล และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) ขององค์กรและสังคม
นอกจากนี้ หลักสูตรยังกำหนดให้มีการวัดผลโดยการสำรวจความพึงพอใจของนายจ้าง ซึ่งที่ผ่านมาพบว่านายจ้างมีความพึงพอใจในระดับสูงมาก และมหาบัณฑิตที่จบจากหลักสูตรได้รับการยอมรับและมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานทั้งในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และหลักสูตรเองก็ได้มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและภูมิภาค รวมทั้งผู้เรียนก็จะได้เรียนและฝึกใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ที่จำเป็นสำหรับผู้บริหาร
ผอ.หลักสูตร MPA ภาคพิเศษ กทม. นิด้า ย้ำว่า การพัฒนาการศึกษาเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ซึ่งในระดับบัณฑิตศึกษาเป็นการสร้างบัณฑิตให้มีความพร้อมสำหรับงานบริหารในโลกความเป็นจริง ให้การศึกษาช่วยเติมเต็มความรู้และเครื่องมือสำหรับนักบริหาร และตอบโจทย์ประเทศได้อย่างแท้จริง