ทีเอ็มบี เปิด “ไฟ ฟ้า บางกอกน้อย” ศูนย์เรียนรู้สำหรับเยาวชน แห่งที่ 4 เพื่อสร้างโอกาสเรียนรู้สำหรับเยาวชนอายุ 12-19 ปี ผ่านการเรียนรู้กิจกรรมสร้างสรรค์เชิงศิลปะแขนงต่างๆ ได้ค้นพบศักยภาพตนเอง เห็นพลังตนเอง คิดเอง ทำเอง พึ่งตนเอง และสร้างสรรค์แนวทางในการเปลี่ยนเพื่อส่งต่อสิ่งดีๆ ให้คืนสู่สังคมไทยในระยะยาวอย่างยั่งยืน พร้อมส่งเสริมเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของชาวชุมชนย่านบางกอกน้อย ภายใต้แนวคิด Make THE Difference ณ อาคารไฟ ฟ้า บางกอกน้อย ถนนอิสรภาพ
“ไฟ ฟ้า เป็นโครงการซีเอสอาร์ของทีเอ็มบี ในการสร้างสิ่งดีๆ คืนสังคมไทยอย่างยั่งยืน โดยเริ่มต้นในปี 2552 มอบโอกาสและปลูกฝังเยาวชนอายุระหว่าง 12-19 ปี ผ่านการเรียนรู้กิจกรรมสร้างสรรค์เชิงศิลปะแขนงต่างๆ อาทิ วาดรูป ดนตรี ร้องเพลง ฯลฯ ศูนย์ไฟ ฟ้าบางกอกน้อย เป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับเยาวชนแห่งที่ 4 การเปิดศูนย์เรียนรู้ใหม่ ต้องดูที่ตั้งเป็น สิ่งสำคัญ มีเยาวชนและชาวชุมชนจำนวนมาก เด็กสามารถเดินทางมาเรียนได้เองอย่างสะดวกและปลอดภัย ต้องเข้าใจในพื้นที่ สิ่งที่เด็กอยากจะเรียนรู้ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้น ศูนย์ไฟ ฟ้า แต่ละที่ จะมีวิชาต่างกัน เด็กมีสิทธิ์เลือกเรียนเองคนละ 2 วิชา ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้ค้นหาตัวเอง รู้ศักยภาพ และนำมาใช้เป็นประโยชน์ ให้คืนสู่ชุมชน ถึงวันนี้ ศูนย์ไฟ ฟ้า 4 แห่ง มีเยาวชนเรียนรู้รวมกว่า 130,000 คน ความสำเร็จของศูนย์ไฟ ฟ้า ดูง่ายๆ แค่เห็นประกายตาของเด็กที่แสดงความเป็นผู้นำ หรือความพร้อมที่จะสร้างสิ่งที่มีคุณค่าให้กับครอบครัว กับชุมชน โดยไม่ต้องรอ ก็นับเป็นนิมิตหมายที่ดีของการเปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น”นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าว
อาจารย์ชลิต นาคพะวัน ศิลปินจิตอาสา ซึ่งโชว์ผลงานจิตรกรรมยางพารา ที่สร้างความมีชีวิตชีวาให้ห้องเรียน เผยว่า “ผมคิดว่า วันนี้ศิลปะควรจะออกจากพิพิธภัณฑ์หรือแกลเลอรี่ มาอยู่ข้างนอก ถ้าเรานำศิลปะเข้ามา ในชุมชน ปลูกฝังชาวชุมชนให้เกิดความเข้าใจ มีไอเดียที่ต่อยอด ศิลปะก็จะมีเรื่องราว บอกเล่ามากขึ้น อย่างที่พูดกันว่า ชีวิตสั้น แต่ศิลปะยืนยาว และไม่ควรหยุดนิ่งอยู่กับที่ ถ้านำภาพจิตรกรรมยางพาราวางกลางแจ้ง หรือในส่วนที่มีแสงธรรมชาติเข้ามา ก็จะได้ไลท์ติ้งที่สวยงามหลากหลายสี ซึ่งอาจจะช่วยกระตุ้นจินตนาการ ของเด็กให้บรรเจิดขึ้นไปอีกครับ”
เช่นเดียวกับอาคารไฟ ฟ้า ทั้ง 3 แห่งก่อนหน้า สถาปนิกจิตอาสา ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อการออกแบบอาคารให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนจุดเด่นของชุมชนที่ตั้งอยู่ และสามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นให้เยาวชนเกิดแรงบันดาลใจ สำหรับไฟ ฟ้า บางกอกน้อยนี้ มี เอกสิทธิ์ แจ้งอ่างหิน
สถาปนิก ผู้เนรมิตอาคารพาณิชย์หลังเก่า ให้เป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับเยาวชน เผยว่า "ผมดึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยมาไว้ที่นี่ เป็นศิลปะกึ่งนามธรรมที่ลงลึกไปถึงระดับการใช้ชีวิตความเป็นชุมชน โดยที่ชุมชนบางกอกน้อยจะมีการใช้ชีวิตแบบริมน้ำและกลางแจ้งผสมกัน มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นลานให้คนมาใช้สอย ผมนำสิ่งเหล่านี้มาใส่ไว้ในอาคารที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยม การตกแต่งส่วนใหญ่จะใช้สีของวัสดุนั้นๆ เน้นสเปซกว้างๆ ไว้ใช้สอยจำนวนมาก ที่ให้ความรู้สึกคล้ายๆ ลานวัด ลานหมู่บ้านที่คนมักจะมาปฏิสัมพันธ์กัน ทำให้เห็นถึงความเป็นอิสระ”
โซเฟีย- พัชรพร สโมสร นักร้องประสานเสียงวงสวนพลูคอรัส ในฐานะครูจิตอาสา กล่าวว่า "เคยสอนตามสถาบัน KPN, Yamaha แต่ที่นี่ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง อย่างแววตาของเด็กไฟ ฟ้า จะมีความอยากที่จะเรียน ดูมีไฟอยู่ตลอดเวลา รู้สึกได้ถึงความเป็นพี่เป็นน้อง คอยบอกน้องๆเสมอว่า มีปัญหาอะไรให้คุยกันทุกเรื่อง ทั้งเรื่องเรียน หรือชีวิตส่วนตัว เพราะไม่อยากให้น้องในชุมชนเก็บปัญหาไว้คนเดียว แค่เฟียได้มีส่วนช่วยทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้นก็มีความสุขแล้ว เฟียเชื่อว่าการร้องเพลงจะช่วยขัดเกลาจิตใจให้กับเด็กๆ”
ส่วนในความเห็นของ เยาวชนไฟ ฟ้า บางกอกน้อย ที่ได้เริ่มเข้ามาใช้ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ อาทิ น้องกัน-ธนากร งามปัญจธาร เยาวชนไฟ ฟ้า บางกอกน้อย เรียนที่โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย ชั้นม.5 อายุ 16 ปี “ผมเดินผ่านเห็นที่นี่สวยดี เลยชวนเพื่อนๆ เข้ามาดู และสมัครเรียน ผมเลือกเรียนวิชามวยไทยและการท่องเที่ยวเพื่อชุมชนที่ยั่งยืน อย่างวิชาการท่องเที่ยวฯ ผมมีโอกาสลงสำรวจพื้นที่จริง ได้รู้จักหลายๆ แห่งในชุมชน ที่แต่ก่อนผมก็แค่เดินผ่าน คราวนี้ได้รู้จักจริง รู้ประวัติความเป็นมา ทำไมถึงตั้งอยู่ตรงนี้ โตขึ้นผมอยากเป็นสจ๊วต จะได้เปิด โลกกว้าง ได้รู้จักหลายๆ แห่ง ได้เที่ยวด้วยครับ”
มาริสา จงคงคาวุฒิ เจ้าหน้าที่บริหารกิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ทีเอ็มบี เสริมว่า “ศูนย์ไฟ ฟ้า บางกอกน้อย เป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับเยาวชนแห่งที่ 4 โดยทีเอ็มบี ภายใต้คอนเซ็ปต์ อยู่ เย็น เป็น ศุภ กับความภาคภูมิใจในความเป็นไทย วิถีชีวิตไทยที่เรียบง่ายสงบสุขและดีงาม สิ่งที่เยาวชนจะได้เรียนรู้จาก ไฟ ฟ้า จะเป็นการจุดพลังสร้างสรรค์เด็กให้รู้จัก Make THE Difference เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง ซึ่งในความตั้งใจ นอกจาก จะเป็นศูนย์เรียนรู้ของเยาวชนแล้ว ยังเป็นจุดศูนย์รวมของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของชาวชุมชน รวมทั้งเป็นแหล่งรวบรวมประวัติศาสตร์และความรู้ในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้า และเรียนรู้แห่งใหม่อีกด้วย”
ทั้งนี้ ศูนย์ไฟ ฟ้า บางกอกน้อย เลขที่ 299 - 301 สี่แยกพรานนก ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย โทร 02-418-0130, 06-1398-7333 เปิดวันอังคาร -วันศุกร์ เวลา 11.30 น. -19.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30 น-17.00 น. (หยุดวันจันทร์)