xs
xsm
sm
md
lg

ถ้าหัวหน้างาน ได้รับนโยบายมาแล้ว ไม่นำมาบอกต่อ ลูกน้องควรทำอย่างไรดี โดย อ.อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อ.อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา กรรมการบริหาร สลิงชอทกรุ๊ป
Q : ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง ที่ต้องการจะได้รับประสบการณ์ การทำงานเพื่อที่จะก้าวต่อไป ได้เงินเดือนเพิ่มและ มีความรู้มากขึ้น แต่หัวหน้าผม มักจะเก็บงำนโยบายต่างๆ เอาไว้กับตัว ด้วยสาเหตุที่ผมคิดเอาเองว่า คนอย่างผมและ พวกที่เป็นลูกน้องเขา คงไม่จำเป็นต้องรู้ แต่หลายครั้ง การที่หัวหน้าไม่บอก แล้วเกิดความผิดพลาดขึ้น ทำให้ต้องทำงาน 2-3 รอบ

แนวคิดและ วิธีคิดจากการประชุม ระดับผู้บริหาร ไม่เคยถูกถ่ายทอด สู้คนทำงาน ในฐานะพนักงาน ก็อยากรู้ว่า ผู้ใหญ่มีความคิดอย่างไร มีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร แต่สิ่งเหล่านี้ ไม่เคยถูกสื่อสาร ให้พนักงานได้เรียนรู้เพื่อเป็นประสบการณ์เลย

ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ในหัวของหัวหน้าผม กำลังคิดอะไรอยู่ เขากลัวว่าเราจะเก่งกว่าเขาหรือกลัวว่าเราจะเด่นกว่าเขา ในที่ประชุมหรือเปล่า หรือคิดว่าเราโง่เกินไป ฯลฯ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยหนีบใครเข้าร่วมประชุมด้วยเลยสักครั้ง ทั้งๆ ที่หน่วยงานอื่นๆ ต่างพาพนักงาน ที่มีประสบการณ์สูงๆ ไปร่วมประชุมด้วยเสมอๆ แต่หัวหน้าผม เข้าประชุมคนเดียวตลอด

ในฐานะลูกน้อง จะทำอย่างไรได้บ้าง แน่นอนว่า ผมกำลังจะลาออก เพราะรู้ว่าอยู่ไปก็เท่านั้น กับหัวหน้าแบบนี้ แต่อยากได้วิธีคิด หรือทางออกอื่นๆ เผื่อเอาไปเป็นบทเรียนให้ชีวิตครับ

A : ขอให้ความเห็นดังนี้ครับ

เท่าที่ฟังดู หัวหน้าไม่ได้ประพฤติแบบนี้ กับคุณคนเดียว กับคนอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นคงเป็นสไตล์การทำงานของเขา อย่าไปเดาเลยว่าลึกๆ หัวหน้าคิดอะไร เสียเวลาเปล่าๆ เอาเป็นว่า เราจะทำงานกับคนแบบนี้ ให้มีความสุขและ ประสบความสำเร็จมากขึ้นได้อย่างไร แค่นี้พอแล้ว

ทำตามนี้ครับ

1. หาโอกาสบอกหัวหน้าตรงๆ ว่าเรารู้สึกอย่างไร พูดดีๆ ไม่ต้องใส่อารมณ์ เป็นสิทธิของลูกน้องที่จะพูด แต่ไม่ต้องหวังว่าห้วหน้าจะเข้าใจ ยอมรับหรือปรับเปลี่ยน (จะได้ไม่ผิดหวัง) วิธีการบอก ให้พูดถึงความรู้สึกของเรา อย่าพูดถึงพฤติกรรมของเขา (วิธีการนี้ เรียกว่าการพูดโดยใช้ I-Message : ไอ เมสเสจ) เช่น พูดว่า “ผมไม่ทราบความคาดหวัง หรือทิศทางในการทำงาน จากผู้บริหาร” แทนที่จะพูดว่า “พี่ไม่เคยบอกอะไร พวกเราเลย” เป็นต้น

2. หาตัวช่วย ด้วยการรวมตัวกับเพื่อนๆ ที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน ไปคุยกับ HR (ถ้ามี) หรือหัวหน้าของหัวหน้าคนนี้ เล่าให้ฟังถึงปัญหาในการทำงาน อย่าลืมใช้ I-Message (พูดถึงความรู้สึกและ ปัญหาของเรา ไม่ต้องพูดถึง พฤติกรรมของหัวหน้า) ไม่ต้องกังวลว่า หัวหน้าจะคิดอย่างไร เพราะยังไงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะอยู่นานอยู่แล้ว ใช่ไหมครับ

3. ลองสืบหาข้อมูล จากเพื่อนร่วมงานแผนกอื่น ที่มีโอกาสเข้าร่วมประชุม กับผู้บริหาร เพื่อศึกษาเรียนรู้และ ปรับแนวทางการทำงาน คิดซะว่ามาเรียนหนังสือ เพื่อเอาวิชาความรู้ เพียงแต่โชคไม่ดี เจอครูไม่ได้เรื่อง ตั้งใจเรียนให้จบ ตักตวงความรู้และ ประสบการณ์เยอะๆ ก่อน ลาออกไปอยู่ที่อื่น (อย่าไปโดยยังไม่ได้ความรู้ หรือประสบการณ์ที่มากพอ)

4. อย่าไปใส่ใจ กับพฤติกรรมของคนแบบนี้ คนๆ นี้ไม่มีค่าพอ ให้คุณต้องเสียเวลาและ สมองไปคิด หรือกังวลเกี่ยวกับเขา ทุกวันนี้ ผมว่าคุณมีทุกข์มากกว่าเขามีทุกข์ซะอีก เพราะคุณแบกเอาความรู้สึกแบบนี้ กลับบ้านทุกวัน ในขณะที่ เขาไม่ใส่ใจอะไรเลย กลับบ้านตัวเบาหวิว ชีวิตคุณมีเรื่องดีๆ อีกหลายเรื่อง ให้ขบคิด เอาเวลาไปใช้ในสิ่งที่สร้างสรรค์ ดีไหม คิดซะว่ามาเจอคนบ้า อันที่จริงเขาก็น่าสงสารนะครับ พื้นฐานคงเป็นคนไม่เก่ง ก็เลยเกรงว่าคนอื่นจะเก่งกว่า บริหารจัดการก็ไม่เป็น คงอยู่องค์กรนี้ได้เพียงแห่งเดียว ย้ายไปที่อื่นก็ไม่มีใครเอา ฯลฯ เวลาคุณเจอคนบ้า คุณเอากลับมาคิดไหม

5. ถ้าสุดท้าย ตัดสินใจย้ายไปที่อื่น อย่า “เผาบ้านเก่าของตัวเอง” ด้วยการด่าว่าแบบสาดเสียเทเสีย เพราะนอกจากจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น คุณจะดูไม่ดี ในสายตาคนอื่นๆ อีกด้วย การทำแบบนั้นอาจได้เพียงแค่ความ “สะใจ” แต่ไม่คุ้มที่จะถูกมองว่า “ไม่มีความเติบโตทางอารมณ์” เวลาทำ Exit Interview (ถ้ามี) ก็ให้บอกไปตรงๆ อย่าลืมใช้ I-Message ต้องออกไปอย่างสง่างาม ออกแบบให้มีคนคิดถึงและ เสียดาย อย่าให้มีใครด่าไล่หลังไป คุณไม่รู้หรอกว่า มีสายตาคู่ไหนบ้าง ที่จับจ้องมองคุณอยู่ โลกของการทำงาน มันแคบมาก ย้ายไปย้ายมา เดี๋ยวก็เจอคนรู้จัก รักษาภาพลักษณ์ของเราไว้ดีกว่า หัวหน้าคนนี้ ไม่คู่ควรที่คุณจะลดตัวไปสู้กับเขา

6. หากย้ายไปทำงานที่ใหม่ ให้คิดว่า “มาเรียนรู้แถมได้ตังค์” ดังนั้น ตักตวงความรู้ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ตั้งใจไว้เลยว่า จะทำงานที่นั่นกี่ปี จากนั้นจงทำให้เกินกว่าเงินเดือนที่ได้รับ ถ้าเขาจ่าย 50,000 ทำ 500,000 ระหว่างทาง อาจเจองานที่ไม่ชอบบ้าง ก็ทำเหมือนเวลาเรียนยังมีวิชาที่ไม่ชอบเลย หากเจอนายที่ไม่ดีบ้าง ก็ทำเหมือนระหว่างเรียน ยังเจออาจารย์ที่ไม่ได้เรื่องเลย ท่องไว้อย่างเดียว “เรามาเรียน” ความสำเร็จต้องดูยาวๆ คนที่ประสบความสำเร็จทุกคน ที่ผมเจอ คิดอย่างนี้ทั้งนั้น

หวังว่าพอเป็นประโยชน์บ้าง ขอบคุณที่ไว้ใจเล่าให้ฟังครับ

อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
apiwut.p@slingshot.co.th
กำลังโหลดความคิดเห็น