สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยผลสำรวจคะแนน CGR ประจำปี 2557 ของบจ.ไทย 550 บริษัท มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 72% อยู่ในระดับดี เป็นที่น่าพอใจ
แม้ปรับเกณฑ์ให้มีรายละเอียดมากขึ้นตามเกณฑ์มาตรฐานสากล ASEAN CG Scorecard แสดงให้เห็นว่า บจ.ไทยให้ความสำคัญในการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ สู่การยอมรับในระดับสากล
ดร. บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) เปิดเผยถึงผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2557 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2014) ว่า บริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ยังมีคะแนนเฉลี่ยสูงในระดับที่น่าพอใจ แม้ปีนี้ จะมีการปรับหลักเกณฑ์ที่มีรายละเอียดมากขึ้นตามมาตรฐานของ ASEAN CG Scorecard ด้วยหลักเกณฑ์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 237 ข้อ จากเดิม 148 ข้อ ในปี 2556 และมีการปรับวิธีการคำนวณคะแนน รวมถึงการให้น้ำหนักในแต่ละหมวดที่ประเมินใหม่ โดยจากการสำรวจ บจ. ทั้งหมด 550 บริษัท มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 72 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตามเกณฑ์แล้ว ถือว่า อยู่ในระดับดี แม้ว่าจะมีคะแนนเฉลี่ยลดลงจาก 78 เปอร์เซ็นต์เมื่อปี 2556 (526 บริษัท) ก็ตาม
หากพิจารณาคะแนนเฉลี่ยรายหมวดของผลสำรวจในปี 2557 จะพบว่า หมวดที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นไป มี 3 หมวด ได้แก่ หมวดการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน สิทธิของผู้ถือหุ้น และการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 91, 87 และ 77 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ส่วนหมวดที่มีคะแนนเฉลี่ยในระดับ 60 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ หมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการ และหมวดการคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 63 และ 62 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ซึ่งยังคงต้องสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาต่อไป
นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบจำนวนบริษัทตามผลการสำรวจที่ได้รับในแต่ละระดับ ซึ่งมีการประกาศผลตามจำนวนสัญลักษณ์ของคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ พบว่า มีบริษัทจดทะเบียนจำนวน 308 บริษัทที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป หรือระดับดีขึ้นไป โดยในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับคะแนน 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปหรือระดับดีเลิศ จำนวน 29 บริษัท (ร้อยละ 5) บริษัทที่ได้รับคะแนน 80-89 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดีมาก จำนวน 108 บริษัท (ร้อยละ 20) และบริษัทที่ได้รับคะแนน 70-79 เปอร์เซ็นต์ หรือระดับดี จำนวน 171 บริษัท (ร้อยละ 31)
“ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่โครงการ CGR มีพัฒนาการด้านหลักเกณฑ์ที่สำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาเซียน โดยเกณฑ์ใหม่มีรายละเอียดมากขึ้นในหลายด้าน เช่น ให้มีการประเมินผลงานกรรมการเป็นรายบุคคล ให้มีการปฏิบัติตามจริยธรรมธุรกิจและการต่อต้านการทุจริต จำนวนองค์ประชุมขั้นต่ำ ซึ่งกำหนดให้ต้องมีกรรมการอยู่ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมดเมื่อจะลงมติ กรรมการอิสระไม่ควรดำรงตำแหน่งเกิน 9 ปี เกณฑ์เหล่านี้ถึงแม้จะทำให้บริษัทต้องปรับตัวมาก แต่คะแนนเฉลี่ยในภาพรวมก็นับว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดี”
“IOD จะสนับสนุนบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็ก ให้พัฒนามาตรฐานการกำกับดูแลกิจการต่อไป โดยเฉพาะในประเด็นการนำนโยบายไปปฏิบัติจริง และให้มีการรายงานผลการปฏิบัติดังกล่าว โดย IOD จะร่วมกับ ตลท. และสำนักงานณะกรรมการ ก.ล.ต.ในการส่งเสริมความรู้ด้านการพัฒนามาตรฐานการกำกับดูแลกิจการและการปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าวให้กับบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่องต่อไป” ดร.บัณฑิต กล่าว
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า “ตลท. สนับสนุน IOD เป็นผู้จัดทำผลสำรวจ CGR มาตั้งแต่ปี 2544 โดยภาพรวมคะแนนผลสำรวจ CGR ของ บจ. ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อาจปรับลดลงในบางปีที่มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่ และในปี 2557 นี้ก็เป็นปีที่มีการยกระดับและปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้มีรายละเอียดมากขึ้นและเป็นไปตามมาตรฐานสากล ASEAN CG Scorecard โดยได้ผลคะแนนเฉลี่ยที่ระดับดี แสดงให้เห็นว่า บจ.ไทยให้ความสำคัญในการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่ง ตลท. ยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมการกำกับดูแลกิจการที่ดี ของ บจ. เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและการยอมรับในระดับสากล ผ่านกิจกรรมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ การพัฒนาแนวทางปฏิบัติ พร้อมคู่มือด้านต่างๆ ตลอดจนการให้รางวัลยกย่องเพื่อเชิดชู บจ. ที่เป็นแบบอย่างที่ดี
นี่อีกหนึ่งกิจกรรมส่งเสริมความรู้ที่ ตลท. จัดเสวนา ในหัวข้อ “การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทกับการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ” โดยได้รับเกียรติจากกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของ บจ. ชั้นนำ มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ในการทำหน้าที่ของคณะกรรมการอย่างมืออาชีพและมีคุณภาพ มุ่งหวังให้ บจ. ตื่นตัวและให้ความสำคัญในเรื่องการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ซึ่งจะช่วยยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีในหมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการให้ดียิ่งขึ้น”