เอชอาร์มือโปรเตือนคนทำงานมือใหม่ ระวัง! ติดกับดัก “5 บ่วงอันตราย” พาชีวิตตกอับ แนะ “5 เทคนิค” สร้างความร่ำรวยให้มนุษย์เงินเดือน ใช้ได้ผลจริงสำหรับทุกคน
นพวรรณ จุลกนิษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อฤดูกาลของการรับปริญญามาถึง เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า จะมีบัณฑิตจบใหม่ก้าวสู่ชีวิตการทำงานอีกนับไม่ถ้วน แน่นอนว่าคนทำงานมือใหม่ ย่อมเจอสังคมใหม่ที่กว้างขึ้น อาจมีบ้างที่เผลอใจไปกับสิ่งยั่วยวนมากมาย เพื่อเข้าสังคม หรือสนองความต้องการที่ตัวเองใฝ่ฝันมานาน
จึงขอนำเสนอ “5 บ่วงอันตราย” ที่คนทำงานมือใหม่มักถูกหลอกล่อให้ติดกับจนกลายเป็น “หนี้” และในที่สุดก็ทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บ บ่วงแรก “ราชาเงินผ่อน” เมื่อเริ่มมีเงินเดือนประจำธนาคารต่างๆ ก็พร้อมยินดียื่นข้อเสนอให้มีบัตรเครดิตไว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วยวงเงินที่มากกว่าเงินเดือนหลายเท่า และอาจทำให้หลายคนตื่นตาตื่นใจ เพราะเริ่มเห็นหนทางที่จะได้สิ่งของที่ต้องการมาอย่างง่ายดาย โดยไม่คิดถึงบั้นปลายที่ต้องผ่อนจ่ายด้วยอัตราดอกเบี้ยอันหนักอึ้ง และถ้าหากพลาดใช้เกินตัวกับสิ่งของดับกิเลสแถมผ่อนจ่ายไม่ตรงกำหนด ในที่สุดอาจหน้ามืดกับดอกเบี้ยที่บานเกินคาดคิด เป็นยอดหนี้รุมเร้าไปชั่วนาตาปี
บ่วงที่สอง “หลงภาพโซเชียล” คนทำงานมือใหม่หลายคนมักติดกับ หลงเชื่อภาพในโลกโซเชียลมีเดียของเพื่อนที่มักโพสต์อวดแต่เรื่องดีๆ หรูๆ ร้านอาหารดัง เสื้อผ้าสวยๆ ยี่ห้อสุดฮิต หรือของแบรนด์เนม โดยไม่คำนึงถึงว่า ภาพที่เห็นนั้นเป็นภาพเรื่องจริงหรือภาพลวงตากันแน่ จึงทำให้เกิดความอยากได้อยากมีและอยากอวดคนอื่นบ้าง ถึงขนาดยอมทุ่มเงินเดือนทั้งเดือนหรือยอมเป็นราชาเงินผ่อน เพื่อจับจ่ายให้ได้ของเหล่านั้น โดยไม่มองว่าเหมาะสมกับรายได้ของตนหรือไม่ จนทำให้เงินที่มีอยู่ชักหน้าไม่ถึงหลัง บ่วงนี้จึงอันตรายยิ่งนัก เพราะคนทำงานมือใหม่สมัยนี้มักมีทัศนคติที่ว่า “เสียเงินไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้”
บ่วงที่สาม “โชว์ชีวิตสุดโก้” คนทำงานยุคใหม่จะมีเทรนด์การใช้ชีวิตที่ต่างไปจากคนรุ่นก่อน ด้วยสังคม ค่านิยม และทัศนคติที่เปลี่ยนไป เมื่อชีวิตเพิ่งเริ่มทำงาน บางคนก็อยากจะมีทรัพย์สินเป็นของตนเอง เช่น อยากซื้อบ้าน อยากมีคอนโดมิเนียม อยากถอยรถป้ายแดง อยากถือกระเป๋าแบรนด์เนม ความอยากมีทรัพย์สินเป็นของตนเองถือว่าไม่ใช่สิ่งที่ผิด ถ้ารู้จักประมาณตน
แต่บางคนอยากได้เพียงแค่โชว์ชีวิตสุดโก้ให้สังคมได้รับรู้และยอมรับในสถานะของตน โดยไม่คำนึงถึงรายได้หรือความมั่นคงในอาชีพที่ทำอยู่ มีรายได้เพียงน้อยนิด แต่คิดซื้อทั้งรถและบ้าน สุดท้ายค่าใช้จ่ายบานปลาย กลับกลายเป็นทั้งบ้านและรถถูกยึดไปเสียต่อหน้าต่อตา
บ่วงที่สี่ “สังคมจ๋า ปาร์ตี้จัด” เพราะในสังคมออฟฟิศมักมีการสังสรรค์ เที่ยว ช้อป ชิลล์ร่วมกันเสมอๆ จนบางคนเสพติดนัดกันทุกสุดสัปดาห์ และยิ่งหากเป็นคนปฏิเสธเพื่อนไม่เป็นด้วยแล้ว เงินในกระเป๋าจะหมดก่อนสิ้นเดือนแน่นอน
บ่วงที่ห้า “ผีพนันเข้าสิง” พฤติกรรมนี้อาจติดตัวมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่บางคนก็มาเสียคนตอนทำงานก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะชายหนุ่มที่โดยพื้นฐานมักชอบการแข่งขัน ท้าทาย รักสนุก ยิ่งทำงานมีรายได้ ก็เกิดอยากรู้อยากลองตามสังคมกลุ่มเพื่อน ตอนแรกอาจคิดว่าลองดูเล่นๆ เพื่อความสนุกสนาน แต่นานวันกลับเสพติดการพนันโดยไม่รู้ตัว ไม่สามารถลด ละ เลิกได้ ทั้งโต๊ะบอล โต๊ะม้า การพนันออนไลน์ เล่นทุกนัด พนันทุกแมทช์ ไม่มีคลาดสักสำนัก อย่างนี้สิ้นเนื้อประดาตัวแน่นอน
ในทางตรงกันข้าม สำหรับคนทำงานที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับชีวิต จึงขอแนะนำ “5 เทคนิครวย ฉบับมนุษย์เงินเดือน” เทคนิคแรก “ตั้งสติก่อนใช้สอย” คิดให้ดีว่าสิ่งที่จะซื้อนั้นสำคัญหรือจำเป็นจริงๆ หรือไม่ เทคนิคที่สอง “เปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนซื้อ” สำหรับสิ่งของชนิดเดียวกัน อาจมีราคาต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถานที่ขาย หากรู้จักเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ จะช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้มิใช่น้อย
เทคนิคที่สาม “จัดทำบัญชีรายรับ/รายจ่าย” เพราะจะทำให้รู้ว่า ในแต่ละวันใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด และกำหนดการใช้ในวันต่อไปได้ดี เทคนิคที่สี่ “เก็บเงินออมก่อน แล้วค่อยใช้” ให้กันเงินเดือนส่วนหนึ่งเก็บเป็นเงินออมก่อน ถึงแม้จะน้อยนิด แต่สะสมไปเรื่อยๆ ก็เป็นเงินก้อนใหญ่ได้ และเทคนิคที่ห้า “ต่อยอดเงินออม” หากมีเงินออมในระดับหนึ่ง อาจนำไปต่อยอดให้เงินงอกเงยด้วยการลงทุนในกองทุนรวม แต่ทั้งนี้ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนทุกครั้ง