xs
xsm
sm
md
lg

SCG วางกลยุทธ์มุ่งสู่ความยั่งยืน ทุ่มกว่า 3 พันล้านผุด Green Building สมาร์ทออฟฟิศตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


SCG มุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ล่าสุดทุ่มงบฯ 3,300 ล้านบาท สร้างอาคารเอสซีจี 100 ปี ต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานแห่งอนาคต ยอมรับผลตอบแทนเชิงธุรกิจเทียบไม่ได้กับการปรับปรุงกระบวนการผลิต แต่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หวังเพิ่มจิตสำนึกที่ดีของพนักงานโยงสู่การพัฒนาไม่สิ้นสุด ตั้งหน่วยงาน SCG Green Solution ต่อยอดธุรกิจให้คำปรึกษาด้าน Green Building พร้อมเสริมสร้างเครือข่ายองค์กรที่ดำเนินธุรกิจโให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปเปอร์ และประธานคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี เปิดเผยว่า เอสซีจีได้นำแนวคิดการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนขององค์กรและชุมชนโดยรอบ ผนวกกับวัฒนธรรมองค์กร วิสัยทัศน์ขององค์กร ความหลากหลายของคนหลายรุ่น และความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่กำลังเข้ามาเป็นทรัพยากรหลักขององค์กร ไปสู่การออกแบบอาคารเอสซีจี 100 ปี

อาคารนี้ออกแบบและก่อสร้างโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์พลังงาน และคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร เพื่อเป็นองค์กรต้นแบบของอาคารสำนักงานที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน ประเภทอาคารสร้างใหม่ระดับสูงสุด LEED BD+C Platinum (Leadership in Energy and Environmental Design for Building Design and Construction) จากสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council: USGBC)

มาตรฐานดังกล่าวถือเป็นมาตรฐานสากลที่มีความเข้มข้นและเป็นที่ยอมรับระดับโลก เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นต่อการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของเอสซีจี

อาคารเอสซีจี 100 ปี เป็นอาคารแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง ตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง ด้วยการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการผลิต รวมถึงใช้วัสดุรีไซเคิล ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นสินค้า SCG eco value ตลอดจนควบคุมงานในระหว่างก่อสร้างและกำจัดเศษวัสดุต่างๆ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ

รวมทั้ง มุ่งเน้นคุณประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเป็นหลัก ได้แก่ ลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร ด้วยการติดตั้งกระจก 2 ชั้นที่มีค่าสัมประสิทธิ์การถ่ายเทความร้อนต่ำ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยใช้ระบบแสงสว่างหลอดประหยัดไฟฟ้า T5 หลอด LED และการติดตั้ง Solar Panel เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์

สำหรับ การลดการใช้น้ำ มีระบบการบริหารจัดการน้ำ (Water Management) ที่นำน้ำฝนและน้ำเสียที่ได้รับการบำบัดแล้ว 100 % ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ชำระล้างสุขภัณฑ์และรดน้ำต้นไม้ ปรับปรุงภูมิทัศน์รอบตัวอาคาร (Landscape) ให้มีความร่มรื่น มีพื้นที่สีเขียวมากกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่เปิดโล่ง สามารถเป็นมุมพักผ่อนและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และที่สำคัญคือสร้างเสริมสุขภาพคนทำงานและตอบสนองการใช้ชีวิตการทำงานได้อย่างมีความสุข

เอสซีจียังจัดทำ SCG Smart Office เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการอาคารด้วยระบบ Building Automation System (BAS) อาทิ ระบบปรับอากาศ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง รวมถึงมุ่งเน้นเรื่อง Green Activities ลดการเดินทางของพนักงานโดยใช้การสื่อสารแบบ VDO Conference มีบริเวณที่จอดรถ ที่จอดรถจักรยาน เพื่อส่งเสริมสุขภาพและลดมลพิษจากการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ตลอดจนที่จอดรถพิเศษสำหรับ Eco Car ที่อยู่ใกล้ทางเข้า เป็นสิทธิประโยชน์แก่ผู้ใช้รถที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

นายรุ่งโรจน์ กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ เอสซีจีได้จัดตั้งหน่วยงาน SCG Green Solution เพื่อให้คำปรึกษาด้านอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับองค์กรภายนอก แนะนำการใช้สินค้าและบริการ จัดตั้งเป็นธุรกิจให้คำปรึกษาเพื่อสนับสนุนการพัฒนางานสถาปัตยกรรมอย่างยั่งยืนให้สอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจและสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสริมสร้างเครือข่ายองค์กรที่ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต
อาคารเอสซีจี 100 ปี ต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานแห่งอนาคต
การก่อสร้างอาคารเอสซีจี 100 ปี ใช้งบประมาณกว่า 3,300 ล้านบาท โดยใช้เวลา 3 ปี จึงแล้วเสร็จ ซึ่งแม้จะมีผลตอบแทนในเชิงธุรกิจที่เทียบไม่ได้กับการปรับปรุงกระบวนการผลิต แต่ในมุมของการช่วยกันดูแลอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การลงทุนครั้งนี้ถือว่ามีแต่ได้กำไรและมีประโยชน์มหาศาล อีกทั้งความภูมิใจของพนักงานที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปลูกจิตสำนึกที่ดี สามารถต่อยอดสู่การปรับปรุงเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างไม่สิ้นสุด

อาคารเอสซีจี 100 ปี มีจุดสังเกต (Landmark) คือรูปทรงที่พริ้วไหวเป็นเอกลักษณ์ ไม่เป็นรูปทรงเรขาคณิต เป็นตัวแทนอาคารสำนักงานของคนรุ่นใหม่ (Generation X and Y) ที่มีระเบียงรอบตัวอาคารเป็นเส้นโค้งที่สวยงาม แสดงอัตลักษณ์ของเอสซีจีในเรื่องการคิดต่างอย่างสร้างสรรค์ (Think out of the box) ซึ่งนอกจากการออกแบบที่โดดเด่นสวยงามแล้ว ระเบียงที่ใช้วัสดุทดแทนไม้ Windsor ยังช่วยกันแดดและลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้อีกด้วย

ที่ผ่านมา เอสซีจีได้ปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ 1, 2 และอาคาร 5 ที่ใช้งานมานานเกือบ 30 ปี ให้เป็นอาคาร Green Building ตามมาตรฐานสากล โดยได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสูงสุด LEED EB:OM Platinum (Leadership in Energy and Environmental Design for Existing Building Operation and Maintenance) ประเภทการปรับปรุงอาคารใช้งาน เป็นรายแรกในภูมิภาคอาเซียน เมื่อปี 2555

เอสซีจีมีวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และในฐานะองค์กรธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ SCG eco value ปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนคือเรื่องพลังงานและสิ่งแวดล้อม เอสซีจีจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือ Green Building และคำนึงถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีความสุขกับการทำงาน พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกการดูแลและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
กำลังโหลดความคิดเห็น