ผลสำรวจเกี่ยวกับการให้ความสำคัญด้านการซื้อที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมและการชำระเงินระดับโลกอย่างมาสเตอร์การ์ด หรือ MasterCard Survey on Consumer Purchasing Priorities ประจำครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2556 เผยให้เห็นว่า ผู้บริโภคไทยนั้นมีวินัยในการจัดการทางการเงินเป็นอย่างมาก นำหน้าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยจำนวนนักออมถึงร้อยละ 96
โดยระบุว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า ได้มีแผนการออมเงินที่เพิ่มมากขึ้นหรือเท่าเดิมเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยมีจุดประสงค์หลัก 2 ข้อ คือ เพื่อการลงทุน (64%) และเพื่อการเกษียณอายุ (62%)
ผลการสำรวจยังแสดงให้เห็นอีกว่า ผู้บริโภคในไทยร้อยละ 92 มั่นใจว่าตนเองมีศักยภาพและความเข้าใจในการจัดการทางการเงินในแต่ละวัน และอีกร้อยละ 79 กล่าวว่าพวกเขาได้ติดตามการใช้จ่ายเป็นรายเดือนหรือรายสัปดาห์ นอกจากนั้น การใช้แอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือยังมีบทบาทสำคัญต่อผู้บริโภคไทยในการช่วยจัดการทางการเงินอีกด้วย โดยผู้บริโภคร้อยละ 37 กล่าวว่าในปัจจุบันพวกเขาใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือเพื่อการจัดการทางการเงิน และจะยังคงใช้ต่อไปในอนาคต ซึ่งตัวเลขผู้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการจัดการทางการเงินนั้นเป็นจำนวนที่มากที่สุดในภูมิภาคเลยทีเดียว
หากดูในภาพรวมของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผู้บริโภคจำนวนครึ่งหนึ่งจากกลุ่มตัวอย่างที่ทำการสำรวจกล่าวว่าพวกเขามีแผนการในการออมเงินมากกว่าเดิมในอนาคตข้างหน้า ส่วนอีกครึ่งวางแผนจะเก็บออมจำนวนเท่าเดิมเมื่อเทียบกับที่เคยทำมา ในขณะที่ผู้บริโภคเกือบร้อยละ 90 กล่าวว่าพวกเขามีความเข้าใจในเรื่องของการจัดสรรงบประมาณ แต่ 1 ใน 3 ของผู้บริโภคยอมรับว่ามีปัญหาด้านการเก็บเงินสำรอง ส่วน 4 ใน 10 คนมีปัญหาเกี่ยวกับการในการชำระบิลต่างๆ
นอกจากนี้ ผู้บริโภคโดยรวมกล่าวว่าพวกเขาสามารถอยู่รอดได้เป็นเวลา 5 เดือนด้วยเงินที่เก็บออมเอาไว้ ส่วนผู้บริโภคในประเทศไทยนั้น ผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่าเงินที่พวกเขาตั้งใจจะเก็บออมในอีก 6 เดือนข้างหน้า มีสัดส่วนโดยเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 21 ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งมากกว่าตัวเลขเฉลี่ยโดยรวมของภูมิภาคซึ่งเท่ากับร้อยละ 19
การสำรวจของมาสเตอร์การ์ดเกี่ยวกับการให้ความสำคัญด้านการซื้อนี้จัดทำขึ้นปีละ 2 ครั้งเพื่อทำความเข้าใจในมุมมองของผู้บริโภคเกี่ยวกับการให้ความสำคัญในการซื้อ ทั้งด้านการท่องเที่ยว การรับประทานอาหารและความบันเทิง การศึกษา การบริหารจัดการทางการเงิน และการช้อปปิ้งระดับหรู โดยได้ทำสำรวจกับประชากรทั่วทั้งทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยในผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดนั้น มี 408 คนที่เป็นผู้พำนักอาศัยในประเทศไทย มีอายุระหว่าง 18-64 ปีที่มีบัญชีธนาคาร และถูกสัมภาษณ์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีการกำหนดสัดส่วนโควต้าด้วยอายุ เพศ เชื้อชาติ ต่อประชากรที่สามารถเข้าถึงธนาคารได้ โดยในช่วงรวบรวมข้อมูลเกิดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคมและเมษายน 2556
(ผลสำรวจและรายงานประกอบไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการดำเนินงานทางการเงินของมาสเตอร์การ์ดทั้งสิ้น)