เชียงราย - สนามเลือกตั้งเขต 1 เชียงราย น่าจับตา..เมื่อจิตอาสาหนุ่มพ่อค้าพืชไร่ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แต่เป็นหน้าใหม่การเมืองแบบ 100% สวมเสื้อพรรคกล้าธรรม ลงสนามสู้ตัวเต็งทั้งจากพรรคส้ม-ปชน./เสื้อแดงเพื่อไทย
ในบรรดาว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ส่วนใหญ่ถ้าหากไม่เป็นอดีต ส.ส.หรือญาติที่เกี่ยวพันกัน ก็มักจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่ผ่านสนามเล็กมาแล้วโชกโชน แต่สำหรับ "วุฒิชาติ เกรียงเกษร" วัย 36 ปี ว่าที่ผู้สมัครจากพรรค "กล้าธรรม" เขต 1 จ.เชียงราย นับว่ามีความใจถึงสุดๆ เพราะเขาไม่เคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นระดับใด แต่เป็นคนที่ทำงานมาตั้งแต่เด็กด้วยประสบการณ์ทำงานและใจที่เป็นจิตอาสาที่ทำงานด้านสังคม มีการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมมาตลอด เป็นที่รู้จักของผู้คนมากหน้าหลายตาที่อยากสนับสนุนเขาให้มาลงการเมือง แต่การเลือกตั้งต้นเดือน ก.พ.2569 เขต 1 จ.เชียงราย เขาจะต้องแข่งกับอดีต ส.ส.จากพรรคประชาชนและจากพรรคเพื่อไทย
วุฒิชาติบอกว่าเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นนักการเมืองไม่ว่าจะระดับใด เพราะเชื่อเรื่องการทำบุญและการให้โดยไม่หวังการตอบแทนมาโดยตลอด เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านป่าบง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย พ่อและแม่เป็นข้าราชการครูและพยายามผลักดันให้ลูกชายเดินตามเส้นทางข้าราชการเขาจึงไม่เคยเกี่ยวแวะกับการเมือง
เมื่ออายุได้เพียง 18 ปี วุฒิชาติก็ฉายแววเป็นนักธุรกิจรุ่นเยาว์ด้วยการรับซื้อข้าวโพดและข้าวเปลือกมาขายต่อภาคกลางเพื่อทำกำไร ช่วงนั้นยังเรียนระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ก่อนไปเรียนหลักสูตรบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยพะเยา ในระหว่างเรียนก็ได้กลับมาทางบ้านช่วงวันเสาร์และอาทิตย์รวมทั้งช่วงปิดเทอมเพื่อกลับไปค้าขายช่วยครอบครัวตลอด จึงมีความใกล้ชิดและเข้าใจกับพี่น้องเกษตรอย่างแท้จริง กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการพืชไร่ว่าใจถึงคุยราคาไหนราคานั้น ทำให้มีลูกค้ามากมายในเชียงราย
หลังเรียนจบเขาจึงขออนุญาตพ่อแม่และญาติๆ ว่าจะอาศัยประสบการณ์ทำธุรกิจให้เต็มที่รวมทั้งจะทำงานเพื่อสังคม ซึ่งพ่อแม่ก็เข้าใจและให้การสนับสนุน ด้วยคาวมมุ่งมั่นทำให้วุฒิชาติพัฒนาธุรกิจซื้อขายผลผลิตทางการเกษตรจนมีชื่อเสียงใน จ.เชียงราย จ.พะเยา และ จ.ลำปาง
เมื่อธุรกิจเริ่มอยู่ตัวเขาจึงหันมาทำงานด้านจิตอาสาคอยช่วยเหลือสังคมด้านต่างๆ จนได้รับเลือกให้เป็นกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) มาแล้วหลายโรงพัก เข้าร่วมกับหน่วยกู้ภัยสมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัยจนได้รับตำแหน่งเป็นอุปนายกสมาคม เข้าร่วมสโมสรไลออนส์ช่วยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ จนได้เป็นนายกสโมสร ฯลฯ หลายครั้งหลายหน่วยงานมักจะเข้าไปขอการสนับสนุน เช่น เครื่องจักร แม็คโค รถตัก รถ10ล้อ ข้าวสาร เพื่อนำไปช่วยคนติดน้ำท่วม อาหารกล่องและน้ำดื่ม ฯลฯ ซึ่งวุฒิชาติก็จะให้บริการทุกครั้งเมื่อมีการขอการสนับสนุนไม่มากก็น้อยแต่ให้ตลอด
ดังนั้นชีวิตจึงแทบจะไม่เฉียดใกล้กับการเมือง
กระทั่งเกิดเหตุเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี 13 คน ประสบเหตุติดถ้ำหลวง อ.แม่สาย จนโด่งดังไปทั่วโลก , เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ อ.เทิง อ.แม่สาย และ อ.เมืองเชียงราย ซึ่งวุฒิชาติได้ระดมกำลังทรัพย์ เครื่องมืออุปกรณ์ อาหารและน้ำดื่ม ไปให้การช่วยเหลือตามจุดต่างๆ
ช่วงนั้นหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างขอรับการสนับสนุน บรรยากาศยิ่งวุ่นวายเมื่อแม่น้ำกกเข้าท่วมถึงหน้าบ้านของวุฒิชาติที่ตั้งอยู่ ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย แต่เขาก็ปรับใช้พื้นที่หน้าบ้านเป็นลานจอดรถ -ใช้โกดังเป็นพื้นที่รับของบริจาคจากหน่วยงานและจังหวัดต่างๆ เพื่อกระจายให้กับผู้ประสบภัยทั่วเชียงราย มีการตั้งโรงงานที่มีทั้งอาหารและน้ำดื่มแก่ผู้ประสบภัยตลอด 1 เดือนเต็ม มีการระดมความช่วยเหลือจากพื้นที่ต่างๆ ไปยัง จ.เชียงราย
หลังน้ำท่วมก็รับเป็นธุระนำรถตักรถ 10ล้อไปตักดินทราย โคลน ในหลายพื้นที่ เช่น หมู่บ้านเกาะลอย หมู่บ้านเฉลิมพระเกียรติ และหน่วยราชการอำเภอเมือง วัดฝั่งหมิ่น โรงเรียนปิติศึกษา บ้านพักของครูอาชีวะ และในชุมชนหมู่บ้านต่างๆ ที่มีความต้องการ ฯลฯ
วุฒิชาติ กล่าวว่าจากประสบการณ์ในช่วงภัยพิบัติทำให้ตนเห็นว่าการมีตำแหน่งนั้นสามารถช่วยเหลือผู้คนได้จริง ถ้ามีทัศนคติที่ดีและมีจิตอาสาร่วมงานกับทุกภาคส่วน อย่างตอนยังมีตำแหน่งเป็นนายกสโมสรไลออนส์เชียงรายซึ่งเป็นตำแหน่งการกุศลได้ขอเงินจากส่วนกลางมาช่วยผู้ประสบภัยแต่ก็ยังไม่พอ จึงได้เสียสละทรัพย์ส่วนตัวและกำลังกายเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ตั้งแต่น้ำท่วมจนถึงช่วงทำความสะอาดดินโคลน
ซึ่งตนภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือสังคม ได้มีโอกาสรวบรวมผู้คน เพื่อน กัลยาณมิตร ฯลฯ มาทำจิตอาสา ดังนั้นตนจึงคิดว่าหากมีโอกาสทำงานทางการเมืองคงจะสามารถช่วยเหลือได้มากกว่านี้ ดังนั้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนได้ไป จ.พะเยา และมีโอกาสได้พบปะกับผู้บริหารพรรคกล้าธรรมจึงรู้สึกประทับใจที่เป็นคนจริง จึงขอลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 จ.เชียงราย ท่ามกลางการสนับสนุนของคนรอบข้างที่เห็นการทำงานจริงช่วยสังคมจริง และคนในครอบครัวได้เห็นถึงความตั้งใจจริงจึงเห็นด้วยและเชื่อในเรื่องบุญการทำความดีที่เราเคยทำเอาไว้ 10 กว่าปีว่าจะทำให้คว้าชัยได้ด้วยดี
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับเขต 1 จ.เชียงราย มีนายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ จากพรรคประชาชน เป็นอดีต ส.ส.และเครือข่ายพรรคนี้เคยครองเก้าอี้เขตนี้มาแล้วถึง 2 สมัย รองลงมายังมี ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ลูกชายของนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย และนางรัตนา จงสุทธนามณี อดีตนักการเมืองชื่อดังปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของเทศบาลนครเชียงราย รวมทั้งอาจมีว่าที่ผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ เป็นตัวแทรก ท่ามกลางข่าวลือที่ว่ามีว่าที่ผู้สมัครบางคนที่มีชื่อชั้นที่สูงกว่าพยายามจะติดต่อผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ของพรรคกล้าธรรม แต่สุดท้ายผู้บริหารของพรรคก็เลือกนายวุฒิชาติในที่สุด การเลือกตั้งต้นปี 2569 นี้จึงน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่าพรรคกล้าธรรมจะปักเก้าอี้ในเขตนี้ได้หรือไม่.


