ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดขอนแก่นเร่งเครื่องรณรงค์ตัดอ้อยสดปลอดการเผาอย่างจริงจัง หวังเป็นต้นแบบลดฝุ่น PM 2.5 แก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ผู้ว่าฯ ลั่นพร้อมเอาผิดตามกฎหมายต่อผู้ฝ่าฝืนเผาในที่โล่งหรือเผาไร่อ้อยก่อนตัดส่งขายโรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ แปลงปลูกอ้อยพื้นที่บ้านหนองเรือ ต.หนองเรือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick Off แก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกอ้อยของเกษตรกรขนาด 20 ไร่
การลงพื้นที่ครั้งนี้นายขจรเกียรติและคณะฯ ได้ติดตามการตัดอ้อยสดด้วยรถตัดอ้อย และการเก็บใบอ้อยส่งขายให้โรงงานน้ำตาลเพื่อนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ซึ่งเป็นแนวทางช่วยลดการเผาในพื้นที่การเกษตร ลดมลพิษทางอากาศ และลดการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างเป็นรูปธรรม จากนั้นได้ขับรถเก็บใบอ้อยสดเรียงเป็นแถว เพื่อเตรียมให้รถเก็บอัดใบอ้อยเข้าดำเนินการอัดใบอ้อยเป็นก้อนส่งขายให้โรงงานน้ำตาลต่อไป
นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งเป็นการติดตามดูพื้นที่ไร่อ้อยของเกษตรกรในอำเภอหนองเรือ ซึ่งเป็นไร่อ้อยที่มีการตัดอ้อยสดและส่งใบอ้อยขายให้โรงงานน้ำตาล แสดงให้เห็นถึงจิตสำนึกของเกษตรกรที่ต้องการรักษาความสดและคุณภาพของอ้อย ทำให้อ้อยขายได้ราคาดีกว่าอ้อยที่ถูกไฟเผา อีกทั้งยังช่วยลดมลพิษและลดการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อีกด้วย
จังหวัดขอนแก่นจึงได้ร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ารณรงค์ตัดอ้อยปลอดการเผา เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 รวมถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก เนื่องจากจังหวัดขอนแก่นให้ความสำคัญต่อปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากการเผาในที่โล่งและพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝุ่นของจังหวัด
“ขอนแก่นมีเป้าหมายยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 ให้เกิดความต่อเนื่อง ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ ผ่านการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน” นายขจรเกียรติกล่าว
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบภายในไร่อ้อยของเกษตรกรครั้งนี้ พบว่าเจ้าของไร่อ้อยใช้รถตัดอ้อยสดโดยไม่ใช้แรงงานคน หลังจากตัดอ้อยแล้วมีการใช้รถกวาดใบอ้อย และรถเก็บอัดใบอ้อยเพื่อนำส่งขายให้โรงงานน้ำตาลในพื้นที่ ทำให้ไร่อ้อยแห่งนี้กลายเป็นต้นแบบให้เกษตรกรรายอื่นสามารถนำไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเอง ช่วยลดการเผา ลดฝุ่นควัน และสร้างรายได้เสริมจากการนำใบอ้อยไปใช้ประโยชน์
นายขจรเกียรติยังฝากถึงเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยว่า ขอให้หลีกเลี่ยงการเผาไร่อ้อย เพราะอ้อยที่ถูกเผาจะเป็นอ้อยที่ไม่มีคุณภาพ ส่งขายได้ราคาต่ำ ส่งผลต่อคุณภาพน้ำตาลที่ผลิต และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยผู้ที่เผาไร่อ้อย เผาหญ้า เผานา หรือเผาในพื้นที่การเกษตร จะถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จังหวัดขอนแก่นได้ดำเนินการตามนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ประจำปี 2569 โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การลดมลพิษในเขตชุมชนเมือง การแจ้งเตือนและสร้างการรับรู้แก่ประชาชน การดูแลสุขภาพประชาชนควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้การลดปัญหาฝุ่นละอองเกิดผลเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป


