สมุทรสงคราม – จากอุโบสถโบราณอายุกว่า 300 ปี สู่ร้านขนมไทยภายในวัด “วัดอินทาราม” อ.อัมพวา ใช้พลังศรัทธาอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม สร้างรายได้หมุนเวียนในท้องถิ่น และนำกำไรสนับสนุนการศึกษาเยาวชนผู้ขาดแคลน
แม้จะเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เล็กที่สุดของประเทศ แต่สมุทรสงครามกลับมีวัดมากถึง 115 แห่ง หนึ่งในวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมคือ “วัดอินทาราม” ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2300 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
วัดอินทารามโดดเด่นด้วย “อุโบสถมหาอุตถ์” ซึ่งมีประตูเข้าออกเพียงด้านเดียว ตามคติความเชื่อโบราณ ตัวอุโบสถยังคงความงดงามทางสถาปัตยกรรมไว้ แม้สภาพจะชำรุดตามกาลเวลา ปูนแตกร่อนจนเห็นอิฐโบราณ แต่กลับยิ่งสะท้อนคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติแล้ว
ภายในอุโบสถเก่าเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปศิลาแดง ปางมารวิชัย แกะสลักอย่างประณีต มีอายุกว่า 300 ปี ถือเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่และพุทธศาสนิกชนทั่วไป
นอกจากนี้ วัดอินทารามยังมี “อุโบสถหินอ่อน” ทั้งหลังแห่งเดียวในจังหวัดสมุทรสงคราม ใช้หินอ่อนนำเข้าจากต่างประเทศ ผู้ศรัทธานิยมลอดอุโบสถเพื่อสะเดาะเคราะห์ และเดินเวียน 3 รอบ เพื่อขอพรพระประจำวันเกิด
ขณะเดียวกัน วัดอินทารามยังเป็นตัวอย่างของการนำศาสนา วัฒนธรรม และเศรษฐกิจชุมชนมาผสานเข้าด้วยกัน โดยพระเมธีวัชรประชาทร (ผศ.ดร. หลวงพ่อแดง นันทิโย) เจ้าอาวาส ร่วมกับนักศึกษาหน่วยวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วัดอินทาราม เปิดร้านขนมไทยภายในวัด เพื่อหารายได้สมทบทุนการศึกษา
เมนูเด่นคือ “สังขยามะพร้าวอ่อน” ใช้มะพร้าวน้ำหอมอายุ 25–30 วัน รสชาติเนื้อกำลังดี ผสมสังขยาสูตรเฉพาะของวัด ที่ใช้ไข่เป็ด หัวกะทิ และน้ำตาลมะพร้าวแท้จากแม่กลอง นำไปนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 1 ชั่วโมง จำหน่ายในราคาลูกละ 50 บาท ทำสดใหม่ทุกวัน วันธรรมดาขายได้เฉลี่ยวันละ 100 ลูก ส่วนวันหยุดขายได้ถึง 300–500 ลูก
นอกจากนี้ยังมีขนมไทยโบราณ อาทิ เม็ดขนุน ทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทอง ทำรสหวานอ่อน ราคาเริ่มต้นกล่องละ 100 บาท รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำเข้าสมทบกองทุนโครงการเรียนฟรีของวัดอินทาราม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเดือนละกว่า 500,000 บาท
พระเมธีวัชรประชาทร กล่าวว่า อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ของการทำบุญ คือการให้การศึกษา ปัจจุบันวัดอินทารามเป็นหน่วยวิทยบริการของ มจร. มีนักศึกษาพระสงฆ์และฆราวาส เรียนระดับปริญญาตรีและปริญญาโท รวมกว่า 250 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ วัดจึงเปิดร้านขนมไทยเพื่อหารายได้สนับสนุนการศึกษา พร้อมปลูกฝังให้นักศึกษามีคุณธรรม มีจิตสาธารณะ และรู้จักเสียสละเพื่อสังคม
หลวงพ่อแดงยังกล่าวว่า สมุทรสงครามเป็นเมืองราชนิกูลที่มีวัตถุดิบอาหารและขนมไทยซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี จึงจำเป็นต้องร่วมกันอนุรักษ์สูตรขนมไทยโบราณไม่ให้สูญหาย พร้อมต่อยอดเป็นอาชีพให้คนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับแนวทางการผลักดันจังหวัดสมุทรสงครามสู่ “เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร” (UNESCO Creative City of Gastronomy)
ทั้งนี้ การทำขนมไทยของวัดอินทารามยังช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่ ตั้งแต่ชาวสวนมะพร้าว ผู้ทำน้ำตาลมะพร้าว คนปอกมะพร้าว ผู้ค้าไข่เป็ด ไปจนถึงแรงงานในชุมชน ก่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างทั่วถึง
ผู้สนใจสามารถเข้าชมอุโบสถโบราณ หรือชิมขนมไทยสูตรดั้งเดิมได้ที่ วัดอินทาราม ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0-3473-5339
