บุรีรัมย์-ชาวบ้านแนวชายแดน อ.บ้านกรวด ขนของใส่รถยนตร์รีบอพยพออกจากพื้นที่ หลังเกิดเหตุปะทะที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อนศรีสะเกษ ทหารไทยเจ็บ 2 นาย รถที่อพยพแห่เติมน้ำมันแถวยาวเหยียด สุดเศร้าเพิ่งเผาศพปู่ยังอยู่ในเตาไม่ทันได้เก็บกระดูกทำบุญต้องหนีตายก่อน ปชช.ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันรอบนี้เอาให้จบๆ
จะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบหวาดระแวงอีก
พลบค่ำวันนี้(7 ธ.ค.68) ชาวบ้านหลายหมู่บ้านที่อาศัยอยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ต่างพากันขนเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันที่เตรียมใส่กระเป๋าและภาชนะต่างๆ ก่อนหน้านี้ ใส่ในรถยนต์ เพื่ออพยพออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ บางส่วนก็อพยพไปบ้านญาติที่ต่างอำเภอ และต่างจังหวัด เพื่อความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุการณ์ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่ทหารไทย ที่บริเวณภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
แม้ขณะนี้สถานการณ์ยิงปะทะจะยุติลง แต่ฝ่ายความมั่นคงก็ได้มีคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี อพยพไปยังศูนย์พักพิงหรือสถานที่ปลอดภัยที่ทางราชการจัดเตรียมไว้รองรับ เนื่องจากสถานการณ์ไม่แน่นอน อาจไม่ปลอดภัยกับประชาชนตามแนวชายแดน
ขณะที่บรรยากาศตามสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งใน อ.บ้านกรวด มีรถยนต์ไปจอดเติมน้ำมันเพื่ออพยพเป็นแถวยาวเหยียด จนเจ้าหน้าที่ต้องมาคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
นายชญานนท์ สมเจตนา อายุ 25 ปี ชาวบ้านสายโท 12 ใต้ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนเพียง 4 – 5 กิโลเมตรเท่านั้น บอกว่า หลังจากได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนซึ่งมีการแจ้งเตือนทางออกไลน์ เกี่ยวกับสถานการณ์ยิงปะทะที่ศรีสะเกษ และประกาศให้อพยพออกจากพื้นที่ ก็ได้พาครอบครัวทั้งผู้สูงอายุ และเด็กๆ เก็บข้าวของที่เตรียมไว้ใส่รถยนต์กระบะอพยพออกจากบ้านทันที เพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว ก็ตั้งใจว่าจะไปอยู่กับญาติที่ อ.ปะคำ ก็อยากฝากถึงรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า รอบนี้อยากให้ดำเนินการให้จบๆ โดยเร็ว อย่าปล่อยคาราคาซังเหมือนที่ผ่านมาทำให้ประชาชนต้องใช้ชีวิตแบบหวาดแวง
ด้านนางบุญมี ศิริสุข อายุ 53 ปี ชาวบ้านหนองคันนา เขตรอยต่อพนมดงรัก-บ้านกรวด บอกว่า ที่บ้านเพิ่งจัดงานฌาปนกิจศพปู่ที่เสียชีวิต ตอนนี้ศพยังอยู่ในเตาเผายังไม่ได้เก็บกระดูกทำบุญเลย แต่ก็มาเกิดเหตุปะทะและมีคำสั่งให้อพยพออกจากพื้นที่ จึงได้พาคนในครอบครัว 6 ชีวิตออกจากบ้านทันที ก็อยากฝากให้รัฐบาลจัดการให้จบๆ ชาวบ้านจะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบหวาดระแวงอีก
ขณะที่นายชยุมต์ จันทร์คำ อายุ 51 ปี ชาวบ้านตลาดนิคมปราสาท อ.บ้านกรวด บอกว่า รอบนี้ไม่รู้ว่าจะต้องอพยพกี่วัน ก็อยากฝากให้รัฐบาลจัดการให้จบและเด็ดขาด ไม่ต้องเจรจาเพราะเขมรไม่เคยทำตามอยู่แล้ว หากเจรจาก็คงเป็นเหมือนเดิมอีกก็จะคาราคาซังแบบนี้ คนที่เดือดร้อนคือประชาชนในพื้นที่ชายแดน


