ภาคกลาง - แม่ทัพภาคที่ 1 สั่งทุกหน่วยทหารในพื้นที่ภาคกลางเตรียมพร้อมเต็มรูปแบบ ส่งกำลังพล เครื่องมือหนัก–เบา และชุดเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ทันที เน้น 3 มาตรการเร่งด่วน “ป้องกันก่อน – ช่วยก่อน – One Team น้ำท่วม” หลังน้ำเจ้าพระยาขึ้นต่อเนื่องจากอิทธิพลพายุคัลแมกี
วันนี้( 9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพลพายุ “คัลแมกี (KAMMURI)” ทำให้หลายพื้นที่ในประเทศไทยได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขาที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 (มทภ.1) ได้สั่งการด่วนให้ทุกหน่วยทหารในพื้นที่รับผิดชอบเตรียมกำลังพลและสนับสนุนเครื่องมือทั้งหนัก–เบา พร้อมชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อปฏิบัติภารกิจตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เริ่มได้รับผลกระทบอย่าง จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.อ่างทอง
แม่ทัพภาคที่ 1 กำชับมาตรการเร่งด่วน 3 ข้อ ได้แก่ ป้องกันก่อนเกิดผลกระทบ – เข้าถึงพื้นที่เสี่ยงก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัว ช่วยเหลือประชาชนก่อนเป็นอันดับแรก – อพยพ ขนย้าย ดูแลตลอด 24 ชม. One Team น้ำท่วม – ระดม ทหาร–ปกครอง–อปท.–ตำรวจ–จิตอาสา บูรณาการร่วมกัน
ปฏิบัติการพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา ศบภ.ม.4 พัน.11 รอ. ร่วมหลายหน่วยงานยกเปิดแผ่นปูนแนว 650 เมตร ติดตั้งพนังกั้นน้ำสแตนเลสและคลุมพลาสติก บริเวณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู ป้องกันน้ำไหลเข้าพื้นที่สำคัญ
ที่ อำเภอเสนา ทหาร ม.พัน.27 สนับสนุนเทศบาลเมืองเสนา กรอกกระสอบทราย 600 กระสอบ เสริมคันกั้นน้ำ–ช่วยขนของขึ้นที่สูง ชุมชนหมู่ 7 ต.หัวเวียง อำเภอบางบาล ศบภ.ม.5 พัน.24 รอ. ลงพื้นที่ ต.บ้านกุ่ม สนับสนุนอพยพและขนทรัพย์สินขึ้นที่สูง หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มเป็น 2,700 ลบ.ม./วินาที
อำเภอบางไทร พัน.ซบร.กรม สน.12 ช่วยขนย้ายของขึ้นที่สูง ณ วัดไทรโสภณ ต.บ้านเกาะ และช่วยประชาชนในพื้นที่ อำเภอบางปะอิน ม.4 พัน.5 รอ. ระดมกำลังเสริมคันกั้นน้ำ และกรอกทรายบริเวณพระราชวังบางปะอิน ต.บ้านเลน รับมือระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทุกพื้นที่รายงานผลปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ด้านปฏิบัติการพื้นที่จังหวัดอ่างทอง อำเภอป่าโมก ป.1 พัน.31 รอ. และ ป.1 พัน.11 รอ. สนับสนุนการเสริมแนวกระสอบทราย–อุดรอยรั่วคันกั้นน้ำ หมู่ 2 ต.ป่าโมก จุดที่ 1 ปิดสำเร็จ / จุดที่ 2 เร่งปิดใกล้เสร็จสิ้น พร้อมเครื่องจักรหนักสนับสนุนเต็มกำลัง อำเภอไชโย ร.31 พัน.3 รอ. พร้อมจิตอาสาพระราชทาน ร่วมสร้างคันกั้นน้ำในหมู่ 4–6 ต.เทวราช และร่วมต้อนรับผู้บัญชาการที่ลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชน สั่งจับตาสถานการณ์ 24 ชั่วโมง
แม่ทัพภาคที่ 1 กำชับให้ทุกหน่วยติดตามสถานการณ์น้ำ–พายุอย่างใกล้ชิด รวมถึงประสานกับหน่วยงานจังหวัดในภาคกลางอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้สูงที่สุด พร้อมย้ำว่าหากพายุส่งผลกระทบกว้างขึ้น ทหารพร้อมเข้าถึงพื้นที่วิกฤตทันทีโดยไม่ต้องรอสั่งการซ้ำ


