xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เชียงใหม่จ่อเอาผิดคนขับรถส่งน้ำซิ่งชนเสาไฟล้ม 52 ต้น พบประกันคุ้มครอง 6 แสน คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - คืบหน้ากรณีเหตุรถกระบะส่งน้ำดื่มเชียงใหม่ซิ่งแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าหักโค่น 52 ต้น แถมล้มทับบ้านเรือนและร้านค้าพังยับ 26 หลัง รวมทั้งทรัพย์สินเสียหายอีกจำนวนมาก ล่าสุด จนท.เคลียร์บริเวณจุดเกิดเหตุจนจ่อคืนภาวะปกติแล้ว หลังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ระดมกำลังเร่งทำงานตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่รถคันเกิดเหตุทำประกันภัยไว้แค่ชั้น 3 และวงเงินคุ้มครองเพียง 600,000 บาท ด้านตำรวจเผยกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีคนขับที่ยังบาดเจ็บสาหัส หากพบอยู่ในระหว่างการทำงาน นายจ้างต้องร่วมรับผิดชอบด้วย


ความคืบหน้ากรณีช่วงบ่ายวานนี้ (9 ก.ย. 68) เกิดเหตุรถกระบะขนส่งน้ำดื่มของผู้ผลิตท้องถิ่นรายหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ขับขี่ด้วยความเร็วสูงแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลทำให้เสาไฟฟ้าตลอดแนวถนนโค่นล้มจำนวน 52 ต้น บ้านเรือนประชาชนและร้านค้าเสียหาย 26 หลัง รวมทั้งรถยนต์ 9 คัน, รถจักรยานยนต์ 2 คัน และทรัพย์สินต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นมีการประเมินมูลค่าความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ เหตุดังกล่าวยังทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างนานกว่า 20 นาที ในพื้นที่อำเภอเมือง, อำเภอแม่ริม และอำเภอสันทราย ก่อนที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ จะเร่งแก้ปัญหาจนสามารถเริ่มทยอยกลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ ยกเว้นบางพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกันเข้าแก้ไขปัญหาและเคลียร์พื้นที่ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งเช้าวันนี้ (10 ก.ย. 68) สามารถเริ่มเปิดเส้นทางสัญจรได้แล้ว และน่าจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติทั้งหมดภายในวันนี้ ส่วนคนขับรถคันเกิดเหตุนั้นอาการบาดเจ็บยังสาหัสและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่คนที่นั่งโดยสารมาด้วยในรถได้เสียชีวิตแล้ว


ทั้งนี้ นายนิรันดร์ รักวานิช ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบำรุงรักษา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เร่งรื้อถอนซากความเสียหายและตั้งเสาไฟฟ้าพร้อมสายไฟโดยด่วนที่สุดเพื่อให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติภายในวันนี้ ส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นผู้ใดจะต้องรับผิดชอบนั้น โดยปกติแล้วตามข้อกฎหมายผู้ที่ทำให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหายจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบตามมูลค่าความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าความเสียหายอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญ

ขณะที่นายทองศุกร์ วงศ์โสภา ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองเชียงใหม่ 2 ระบุว่า เสาไฟฟ้าแรงสูงทุกต้นที่ติดตั้งอยู่ผ่านการตรวจสอบและเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งแตกต่างจากเสาไฟฟ้าตามหมู่บ้านทั่วไป โดยเสาไฟฟ้าแรงสูงถูกออกแบบด้วยโครงสร้างเหล็กเส้นเล็กหลายเส้น เพื่อให้มีความยืดหยุ่น สามารถรับแรงลมได้โดยไม่หักโค่น และยังรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว หน้าที่หลักคือการยึดโยงและรองรับน้ำหนักสายไฟฟ้าแรงสูงไม่ให้ขาดเมื่อเกิดแรงภายนอก อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากรถกระบะขนน้ำชนเสาไฟอย่างรุนแรงในตำแหน่งกึ่งกลาง ซึ่งเกินกว่าที่โครงสร้างจะรองรับได้ ส่งผลให้เสาหัก และด้วยน้ำหนักของสายไฟฟ้าแรงสูงที่มีมาก จึงดึงให้เสาและสายไฟโดยรอบล้มตามต่อเนื่อง

ด้านนายวิรัช ยั่งยืนกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างเผือก นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนและร้านค้าทั้งหมด 26 หลัง เพื่อสรุปรายละเอียด ดำเนินการช่วยเหลือชดเชยตามขั้นตอน และอยู่ระหว่างหารือกับทางจังหวัดในเรื่องประเภทของภัยเพื่อหาทางช่วยเหลือประชาชนให้ได้ไวที่สุด เนื่องจากชาวบ้านต่างกังวลว่าผู้ก่อเหตุจะชดใช้ไม่ไหวเพราะมูลค่าความเสียหายรวมแล้วสูงมาก จึงอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะการเร่งซ่อมแซมฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและเยียวยาทรัพย์สินที่เสียหายก่อน


ในส่วนของเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยระบุว่ารถกระบะคันดังกล่าวทำประกันภัยชั้น 3 มีวงเงินคุ้มครองความเสียหายกับทรัพย์สินบุคคลภายนอก 600,000 บาท ส่วน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ คุ้มครองชีวิตผู้โดยสาร 500,000 บาท และคุ้มครองชีวิตคนขับรถ 35,000 บาท ซึ่งทางบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนในส่วนความคุ้มครองที่ทำไว้

สำหรับการดำเนินการตามกฎหมายนั้น พันตำรวจเอก เสวก ชูศิริ ผู้กำกับการตำรวจภูธรช้างเผือก เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพยานหลักฐานชัดเจนว่าเป็นการขับรถด้วยความเร็วจนแหกโค้งชนเสาไฟฟ้า ทำให้ทรัพย์สินเสียหายเป็นวงกว้างและผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยเสียชีวิต พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีทางอาญาต่อคนขับ ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต พร้อมชี้ว่าหากคนขับอยู่ในระหว่างปฏิบัติงาน ทางนายจ้างต้องร่วมรับผิดชอบด้วยตามกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนจะเข้าสอบปากคำคนขับรถอีกครั้งหากแพทย์อนุญาต ก่อนสรุปสำนวนส่งฟ้องดำเนินคดี










กำลังโหลดความคิดเห็น