ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - นักวิจัย มทส.สุดเจ๋ง สร้างเครื่องระบบตัดสัญญาณควบคุมโดรนระยะไกลส่งมอบกองทัพภาคที่ 2 เพื่อนำไปใช้ป้องกันและรับมือกับโดรนที่ก่อภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ เผย ทภ.2 จะนำเครื่องระบบตัดสัญญาณโดรนไปทดสอบและประยุกต์ใช้งานจริงในพื้นที่ชายแดน เสริมภารกิจป้องกันประเทศ
วันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ได้มีพิธีแถลงข่าวเปิดตัวและทดสอบ “ระบบตัดสัญญาณควบคุมอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ระยะไกล” ซึ่งเป็นผลงานนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ชาญชัย ทองโสภา และคณะวิจัย จากสาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำไปใช้ป้องกันและรับมือกับโดรนที่ก่อภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ โดยมี พ.อ.สาธิต อุ่นกาย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 ผู้แทนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 กองทัพภาคที่ 2 และคณะเข้าร่วมสังเกตการณ์สาธิต
รศ.ดร.ชาญชัย ทองโสภา อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ และหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการประยุกต์ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มทส. กล่าวว่า ระบบตัดสัญญาณควบคุมอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ระยะไกลนี้ ระบบจะปล่อยสัญญาณรบกวนกำลังสูง ทำให้โดรนที่เข้ามาในพื้นที่สูญเสียการนำทางและสัญญาณควบคุมระยะไกลถูกตัดขาด ส่งผลให้โดรนหยุดนิ่งหรือตกลง สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งการป้องกันพื้นที่เฉพาะจุดหรือการเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดน ซึ่งมีระยะการรบกวนได้ไกลกว่า 2-10 กิโลเมตร
โดยทางทีมวิจัยได้ทำออกมา 2 แบบ คือ ระบบการตัดสัญญาณควบคุมโดรนแบบรอบตัวรัศมีไม่เกิน 2 กิโลเมตร ส่วนอีกรูปแบบนั้นเป็นแบบบังคับทิศทางซึ่งสามารถเลือกทิศทางที่ต้องการจะตัดสัญญาณโดรนที่บินเข้ามาได้รัศมีไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตร โดยส่งสัญญาณไปในทิศทางด้านหน้า ซึ่งหลักการของเครื่องตัดสัญญาณก็คือ การส่งสัญญาณเข้าไปรบกวนโดรนทำให้ผู้บังคับโดรนนั้นไม่สามารถควบคุมโดรนที่ส่งออกมาได้
ดร.ชาญชัยกล่าวต่อว่า สำหรับระบบตัดสัญญาณควบคุมอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ระยะไกลที่เห็นนั้นจะเป็นการกำจัดโดนแบบ soft kill คือเป็นการมุ่งเน้นไปที่การตัดหรือรบกวนสัญญาณ ซึ่งโดรนที่ใช้ในปัจจุบันจะแบ่งเป็นประมาณ 7 ประเภท โดยโดรนที่สามารถกำจัดด้วยวิธีการ soft kill มีอยู่ 4 ประเภท ประเภทที่ 1 คือ โดรนที่ทำเองหรือโดรนทางการเกษตร ซึ่งถ้าสามารถรบกวนหรือตัดสัญญาณได้แล้วโดรนจะบินวนไร้ทิศทางและก็จะตกเมื่อแบตเตอรี่หมด
ประเภทที่ 2 คือ โดรนที่โดนรบกวนสัญญาณแล้วจะหยุดนิ่งจนกระทั่งแบตเตอรี่หมดแล้วก็ตกลงพื้น ประเภทที่ 3 เป็นประเภทที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ คือถ้าถูกตัดหรือรบกวนสัญญาณแล้วโดรนจะนิ่งรอสัญญาณสักครู่จนกระทั่งไม่มีสัญญาณส่งมาจากผู้บังคับโดรน โดรนก็จะบินกลับไปยังโฮม คือผู้บังคับโดรนนั่นเอง และแบบที่ 4 คือ โดรนที่สลับความถี่หนีเครื่องรบกวนสัญญาณ แต่เครื่องของทาง มทส.ที่ผลิตนั้นสามารถตามไปรบกวนสัญญาณต่อได้ ถ้าสามารถรู้ความถี่ของโดรนบินเข้ามา
"ส่วนโดรนที่จำเป็นต้องใช้วิธีแบบ hard kill ที่เครื่องรบกวนสัญญาณไม่สามารถใช้การได้ คือ โดรนที่บินได้ด้วยระบบสายไฟเบอร์ออปติก, โดรนที่บินด้วยระบบการวาดแผนที่ และโดรนที่บินด้วยระบบ AI รวมทั้งโดรนบินด้วยระบบผสมทั้งหมด โดรนเหล่านี้ต้องใช้วิธีแบบ hard kill คือการยิงทำลาย" ดร.ชาญชัยกล่าว
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 จะนำเครื่องและระบบตัดสัญญาณควบคุมอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ระยะไกลดังกล่าวไปทดสอบและประยุกต์ใช้งานจริงในพื้นที่ชายแดน เสริมภารกิจด้านความมั่นคงของประเทศต่อไป