MGR ออนไลน์ - เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกัมพูชาได้เข้าพบฮุนเซน ประธานพฤฒสภา ยืนยันความพร้อมของฝรั่งเศสในการจัดหาเอกสารเกี่ยวกับปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทย พร้อมย้ำการสนับสนุนของฝรั่งเศสในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีและสอดคล้องกับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)
ฮุนเซนได้ตอบรับการขอเข้าพบหารือของเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสเนื่องในโอกาสที่กำลังจะพ้นหน้าที่ยังอาคารพฤฒสภาในวันพฤหัสฯ (10)
เจีย ธิริธ โฆษกของฮุนเซนเปิดเผยว่าระหว่างการพบหารือครั้งนี้ ฮุนเซนได้สรุปสถานการณ์ปัจจุบันและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย ให้กับเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสทราบ และเน้นย้ำว่าประเด็นนี้เกิดจากการกระทำของฝ่ายไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวาดแผนที่ฝ่ายเดียวของไทยที่มีเจตนาละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา พร้อมยกตัวอย่างการกระทำที่เป็นการยั่วยุ เช่นการปิดพรมแดนฝ่ายเดียว การสังหารทหารกัมพูชา การขู่ตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต และการระงับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยิ่งทำให้ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้น
เจีย ธิริธ กล่าวว่าฮุนเซนได้นำเสนอประเด็นเหล่านี้เพื่อให้เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสมีความเข้าใจอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว
ฮุนเซนยังกล่าวยืนยันถึงจุดยืนที่เป็นหลักการของกัมพูชาในการแก้ไขข้อพิพาทผ่านสันติวิธี รวมถึงการเจรจาทวิภาคีและกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะผ่านทางศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และได้แสดงความหวังว่าฝรั่งเศสจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่จะมอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ให้สัญญาไว้กับนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ฮุนเซนยังย้ำว่ากัมพูชาไม่ได้แสวงหาสิ่งใดนอกจากการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ โดยย้ำว่ากัมพูชาไม่ต้องการสงครามหรือความขัดแย้งกับประเทศใด แต่มุ่งแก้ไขปัญหาด้วยกลยุทธ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ แทนที่จะสูญเสียทั้งสองฝ่าย และในฐานะรัฐอธิปไตย กัมพูชาไม่อาจยอมรับการคุกคามหรือการละเมิดอธิปไตยได้ และยังคงมุ่งมั่นที่จะปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน
ด้านเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสได้แสดงความขอบคุณต่อฮุนเซนสำหรับคำอธิบายโดยละเอียดถึงปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทย และยืนยันว่าฝรั่งเศสพร้อมที่จะจัดหาเอกสารที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะแผนที่ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอย่างสันติและอำนวยความสะดวกในกระบวนการผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ พร้อมกันนี้ยังยืนยันถึงการสนับสนุนอย่างชัดเจนของฝรั่งเศสในการแก้ไขข้อพิพาทผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ.
