เชียงราย/ท่าขี้เหล็ก - ถึงคิวค้าไทย-พม่า ผ่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ป่วน..ข่าวสะพัดรัฐบาลกลางเมียนมาจ่อรีเซ็ตภาษา สั่งงดนำเข้าสินค้าไทยยกเว้นของจำเป็น แม้ผ่อนปรนให้คนถือติดมือข้ามฝั่งได้ แต่ยังสกัดห้ามขนเป็นลำรถ พร้อมห้ามขนผ่านด่านฯ เข้าพื้นที่ชั้นใน
รายงานข่าวจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่า ตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค. 2568 เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ (1 ก.ย. 68) สินค้าไทยที่เคยส่งออกผ่านด่านศุลกากรแม่สายไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉานตะวันออก ประเทศเมียนมา ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
เนื่องจากทางการเมียนมาได้มีประกาศงดนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเกือบทุกชนิดยกเว้นที่จำเป็น ทำให้บรรยากาศการขนส่งสินค้าจากฝั่งไทยไปยังท่าขี้เหล็กผ่านทางด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 มีรถขนส่งสินค้าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ทางด่านศุลกากรท่าขี้เหล็กยังคงอนุญาตให้นำเข้าสินค้าบางชนิดที่ใช้เพื่อการบริโภครายวัน เช่น เครื่องดื่ม อาหาร ฯลฯ แต่อนุญาตในจำนวนจำกัดหรือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่เคยส่งเข้าไปใน จ.ท่าขี้เหล็ก เป็นจำนวนมากได้มีคำสั่งให้งดนำเข้าทั้งหมดรวมไปถึงสินค้าที่เคยนำเข้าอย่างต่อเนื่อง เช่น น้ำหวาน อาหารกระป๋อง เนื้อสัตว์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผงชูรส ผลไม้สดทุกชนิด ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ในครัวเรือน ยารักษาโรค สบู่ ยาสีฟัน อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ด้วย
ขณะที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ซึ่งใช้สำหรับการเดินทางเข้าออกของผู้คนยังคงได้รับการอนุญาตให้ชาวเมียนมาซื้อสินค้าติดไม้ติดมือกลับไปฝั่งท่าขี้เหล็กได้ แต่ยังคงเข้มงวดไม่ให้ขนส่งสินค้ากลับไปเป็นลำรถเหมือนเดิมอีก
สำหรับการงดนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเกือบทุกชนิดดังกล่าวเป็นคำสั่งจากรัฐบาลทหารเมียนมาที่่ส่งถึงชายแดน จ.ท่าขี้เหล็ก ให้เริ่มปฏิบัติตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค. 2568 เป็นต้นมา นอกจากนี้ยังเข้มงวดไม่ให้สินค้าทะลักผ่านด่านหมากยางซึ่งเชื่อม จ.ท่าขี้เหล็ก กับเมืองอื่นๆ ในรัฐฉานตะวันออก เช่น เมืองโก เมืองท่าเดื่อ เมืองยอง ฯลฯ หรือแม้แต่ไปถึง จ.เชียงตุง โดยที่ด่านมีคำสั่งชัดเจนว่า "ห้ามส่งสินค้าต่างประเทศเข้าสู่พื้นที่ชั้นในอย่างเด็ดขาด"
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ชายแดนระบุว่า คำสั่งห้ามครั้งนี้อาจเป็นมาตรการประเมินและปรับการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าใหม่ทั่วประเทศ เพราะที่ผ่านมามีรายงานว่าการจัดเก็บรายได้เข้าสู่รัฐบาลกลางน้อยกว่าที่จัดส่งให้กับชนกลุ่มน้อยที่มีอิทธิพลในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาในการสิ้นสุดหรือยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า การค้าชายแดนระหว่าง อ.แม่สาย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก เคยมีมูลค่ามาก โดยในเดือน ต.ค. 2567 มีการส่งออกมูลค่า 1,379,308,821.45 บาท ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องดื่ม ปูนซีเมนต์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฯลฯ เดือน พ.ย. 2567 ส่งออกมูลค่า 1,517,607,987 บาท ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องดื่ม ปูนซีเมนต์ สุรา ฯลฯ เดือน ธ.ค. 2567 ส่งออกมูลค่า 1,658,583,802.40 บาท ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องดื่ม ปูนซีเมนต์ ฯลฯ เดือน ม.ค. 2568 ส่งออกมูลค่า 1,640,759,907.83 บาท ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ปูนซีเมนต์ สุรา เครื่องดื่ม เหล็กเส้น ฯลฯ
เดือน ก.พ. 2568 ส่งออกมูลค่า 1,349,951,178.8 บาท ส่วนใหญ่เป็นปูนซีเมนต์ เครื่องดื่ม สุรา ฯลฯ เดือน มี.ค. 2568 ส่งออกมูลค่า 1,350,327,552.29 บาท ส่วนใหญ่เป็นเครื่องดื่ม ปูนซีเมนต์ สุรา ฯลฯ เดือน เม.ย. 2568 ส่งออกมูลค่า 972,917,054.02 บาท ส่วนใหญ่เป็นเครื่องดื่ม ปูนซีเมนต์ สุรา เหล็กเส้น ฯลฯ เดือน พ.ค. 2568 ส่งออกมูลค่า 884,943,128 บาท ส่วนใหญ่เป็นเครื่องดื่ม ปูนซีเมนต์ น้ำมันหล่อลื่น เหล็กเส้น สุรา ฯลฯ เดือน มิ.ย. 2568 ส่งออกมูลค่า 697,527,520.52 บาท ส่วนใหญ่เป็นปูนซีเมนต์ เครื่องดื่ม ฯลฯ และเดือน ก.ค. 2568 ส่งออกมูลค่า 739,995,707.38 บาท ส่วนใหญ่เป็นเครื่องดื่ม สุรา ปูนซีเมนต์ น้ำมันปาล์ม ฯลฯ
ส่วนการนำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร เช่น ข้าวโพด ส้มสด ฯลฯ รวมทั้งสินแร่ เศษอะลูมิเนียม เศษเหล็ก ฯลฯ มูลค่าเดือนละ 100-300 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีความคึกคักแม้ว่าทางการไทยจะงดส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง กระแสไฟฟ้าและอินเตอร์เน็ต ไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2568 ตามมาตรการปราบปรามขบวนการหลอกลวงหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ตาม กระทั่งคำสั่งงดนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศดังกล่าว