สุรินทร์ - ดรามา 2 แม่ลูกกัมพูชาถูกส่งกลับประเทศ ครูกอดร้องไห้สงสารเด็ก “ผกก.” สภ.บัวเชด สุรินทร์เชิญครูและพ่อเด็กมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ยันทำตามกม.พร้อมแนะให้กลับไปทำเอกสารเข้ามาไทยอย่างถูกต้อง เผยแม่ชาวเขมรหลบหนีเข้าเมืองมาอยู่กินกับชายชาวไทยพร้อมลูกติดอายุ 8 ขวบ จนเรียนจบชั้นประถมฯ และเข้าเรียนต่อ ม.1 ก่อนถูกผลักดันกลับหลังเกิดเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา
วันนี้ (28 ส.ค. 68) จากกรณีดรามาครูนักเรียนร้องไห้กอดกัน หลังจากตำรวจพาแม่ชาวกัมพูชาไปเชิญตัวเด็กชาย อายุ 13 ปี ออกจากโรงเรียนบัวเชดวิทยา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา หลังพบว่าไม่มีเอกสารที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ตามที่เป็นข่าวนั้น
ล่าสุดที่ สภ.บัวเชด พ.ต.อ.สราวุธ ศรีวิฑูลย์ศักดิ์ ผกก.สภ.บัวเชด ได้เชิญครูที่โพสต์จนเกิดดรามา และคณะเพื่อนครูของโรงเรียนดังกล่าว พร้อมด้วยพ่อของเด็กนักเรียนชายคนดังกล่าว เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมและทำความเข้าใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ นางสูพล หงปัญญา ผญบ.โนนสังข์ ม.10 ต.บัวเชด อ.บัวเขด บอกว่า พ่อของเด็กคือ นายใบ เภาว์เพ็ง อายุ 67 ปี ชาวบ้านโนนสังข์ ได้อยู่กินกับ นางมอม ชาวกัมพูชา อายุประมาณ 40 กว่าปี โดย นางมอมได้นำลูกติดมาด้วยตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จากนั้นก็เข้าเรียนหนังสือจนจบประถมศึกษาและต่อชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 ปัจจุบัน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านเพิ่งมารับตำแหน่งไม่กี่ปี ก็พยายามสอบถามนางมอมว่ามีเอกสารถูกต้องหรือไม่ นางมอมก็บอกว่ามีพาสปอร์ตต่อตลอด และหลังถูกจับก็บอกว่าพาสปอร์ดขาดไป 4-5 ปีแล้ว ส่วนเอกสารพาสปอร์ตตัวจริงมีหรือไม่ตนก็ไม่เคยเห็นนางมอมเอาให้ดู ซึ่งทั้งสองแม่ลูกก็ถูกคุมตัวไปที่ สนง.ตม.สุรินทร์ อ.กาบเชิง เพื่อรอผลักดันกลับ
ขณะที่สองแม่ลูกเข้าใจแล้ว โดย จนท.ที่เกี่ยวข้องได้อธิบายให้เข้าใจถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และต้องผลักดันกลับเนื่องจากไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง และให้สองแม่ลูกกลับไปทำเอกสารให้ถูกต้องก่อน เมื่อเหตุการณ์สงบจึงค่อยกลับมาเรียนเหมือนเดิม ซึ่งสองแม่ลูกก็เข้าใจ และจะทำตาม ส่วนการเรียนก็พักไว้ก่อน ทั้งนี้ สองแม่ลูกได้ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.กาบเชิง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ จากนั้นก่อนเที่ยง จนท.ตม.สุรินทร์ได้นำสองแม่ลูกเดินทางไปยังจุดผ่านแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศแล้ว
พ.ต.อ.สราวุธ ศรีวิฑูลย์ศักดิ์ ผกก.สภ.บัวเชด กล่าวว่า มีคนร้องเรียนมาว่ามีคนต่างด้าวเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบ จนกระทั่งพบตัว ช่วงเช้าพบคนเป็นแม่ เขาบอกว่ามีลูกด้วยและหลักฐานก็ไม่มี เราจึงไปเชิญตัวจากโรงเรียนเอามาตรวจสอบ ก็ไม่มีหลักฐานเข้ามาโดยถูกต้อง เราจึงได้ดำเนินการแจ้งข้อหาในเรื่องของหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งเราได้แนะนำสองแม่ลูกไปแล้วว่าเข้าเมืองมาไม่ถูกต้อง ต้องกลับไปทำให้ถูกต้องก่อนเข้ามา อาจจะมาช่องทางอื่นที่เปิดหรือเครื่องบิน ก็สามารมาเรียนได้ปกติ ซึ่งคณะครูและสองแม่ลูกก็เข้าใจ ซึ่งสุรินทร์มีการกวาดล้างบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นประจำอยู่แล้ว ยิ่งในห้วงสถานการณ์ชายแดนไม่ปกติ ซึ่งเราก็เห็นใจเด็ก แต่ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามที่แนะนำไป