สุรินทร์- พบศพใหญ่ชาวบุรีรัมย์ วัย 58 ปี เสียชีวิตขึ้นอืดคาห้องพักชายแดนฝั่ง อ.โอร์เสม็ด กัมพูชา ตรงข้ามด่านช่องจอม สุรินทร์ เพื่อนบอกผู้ตายมีเงินสด 7 แสนหายไป ตร.เขมรตั้ง 2 ปม ลื่นล้มหัวฟาดพื้นหรือถูกฆาตกรรมชิงทรัพย์ เผยพบหญิงสาวขึ้นไปด้วยก่อนเป็นศพไม่กี่วัน ประสานญาติรับศพพรุ่งนี้หลังด่านช่องจอมเปิด
เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (17 มิ.ย.68 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ อ.โอร์เสม็ด จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวกัมพูชาว่า ได้กลิ่นเน่าเหม็นออกมาจากห้องพักชั้น 3 ห้องสุดท้าย อาคาร 3 ชั้น แห่งหนึ่งใน อ.โอรเสม็ด จึงได้เปิดเข้าไปดูพบศพชายชาวไทย นอนหงายขึ้นอืดอยู่ที่มุมห้อง สวมเสื้อยืดโปโลคอปก ลายตัด สีน้ำเงิน-ขาว ใส่กางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียว ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
จากการตรวจสอบทราบชื่อ คือ นายทศพร ใจเสงี่ยม ชื่อเล่น “ปอ” อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 ม.17 ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จากการชันสูตรของเจ้าหน้าที่กัมพูชา เบื้องต้น พบ มีร่องรอยบาดแผลแตกที่ศีรษะ เลือดไหลนองพื้น สันนิษฐานเบื้องต้นมี 2 ประเด็น คาดว่า น่าจะเกิดจากการลื่นล้มศีรษะฟาดพื้นทำให้ศีรษะแตก หรือไม่อาจเกิดจากการถูกฆาตกรรมชิงทรัพย์ เนื่องจากเพื่อนผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้หญิงชาวไทย ไม่ขอเปิดเผยชื่อ บอกว่า ผู้ตายเคยบอกว่ามีเงินสดติดตัว 7 แสนบาท แต่ที่ห้องผู้ตายพบเงินเพียง 1,500 บาท เท่านั้น อีกทั้งก่อนพบศพไม่กี่วัน เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา ชาวกัมพูชาพบผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นไปกับผู้ตายไม่นานก่อนกลับลงมา และมาพบศพในวันนี้
ทราบข้อมูลจากชาวกัมพูชาอีกว่า ผู้ตายมาเช่าห้องอยู่มากว่า 1 ปีแล้ว อดีตเคยเป็นทนายความ ซึ่งเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องของกัมพูชา ได้นำศพลงมาด้วยการห่อพันศพด้วยผ้าสีน้ำเงิน ก่อนผูกเชือกโยงดึงลงมาทางด้านหน้าระเบียงอาคารอย่างทุลักทุเล
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อ.โอรเสม็ด กัมพูชา อยู่ระหว่างตรวจสอบภาพวงจรปิด เพื่อสืบสวนสอบสวน หาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือเกิดจากการฆาตกรรมต่อไป โดยศพได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่วัดแห่งหนึ่งฝั่งประเทศกัมพูชา ขณะที่ญาติได้ติดต่อมา จะเดินทางไปรับศพในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.68) หลังจากด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด เปิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง ทราบว่า เหตุดังกล่าวอยู่นอกเหนืออำนาจและนอกเขตพื้นที่การสอบสวน เป็นหน้าที่ของตำรวจ อ.โอร์เสม็ด เจ้าของพื้นที่ ส่วนญาติจะติดใจสาเหตุการตายหรือไม่อย่างไร ก็ต้องประสานร้องขอไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ในการประสานงานทางคดีกับกัมพูชาต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง มีหน้าที่อำนวยความสะดวกในพื้นที่ให้หากมีการร้องขอมา