อุดรธานี - คาดเงินสะพัด 200 ล้านบาท! ททท. ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์แสงสีเสียงแห่งอีสาน ในงานVIJIT @อุดรธานี “เสน่ห์แสง ศิลป์ ถิ่นอีสาน” นำเสนอประสบการณ์ แสง สี เสียง สุดตระการตา ผสมผสานศิลปวัฒนธรรม ความศรัทธา และธรรมชาติท้องถิ่น
ค่ำวันนี้ (22 ส.ค.) ที่ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติมหาราชินีวังมัจฉาหนองบัว จ.อุดรธานี นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน VIJIT@อุดรธานี “เสน่ห์แสง ศิลป์ ถิ่นอีสาน” ภายใต้บรรยากาศแสง สี เสียง และสื่อผสมเชิงศิลป์ สุดตระการตา ที่ผสมผสานวัฒนธรรม, ความศรัทธา, มรดกงานศิลป์ และธรรมชาติของท้องถิ่นไว้อย่างลงตัวโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว นำหัวหน้าส่วนราชการจากภาครัฐ และภาคเอกชน ในพื้นที่ให้การต้อนรับ
นายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวในปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 ด้วยการนำเสนอ “Amazing Experience” ผ่านเสน่ห์ไทยและกิจกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ สานต่อภายใต้แนวคิด “5 Must Do in Thailand” เพื่อเติมเต็มให้ทุก การเดินทางเปี่ยมด้วยคุณค่าและความหมายในทุกจุดหมายปลายทาง ด้วยการจัดงาน งาน VIJIT@อุดรธานี “เสน่ห์แสง ศิลป์ ถิ่นอีสาน” เป็นหนึ่งในกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่ ททท.จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางตามแนวทาง “5 Must Do in Thailand”
พร้อมทั้งเชื่อมโยงและส่งเสริมเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกย่างก้าว เป็นกิจกรรมและเทศกาลเชิงสร้างสรรค์ที่มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และสร้างแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางยุคใหม่ ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย กระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ซึ่งในวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ได้กำหนดจัดพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า งาน VIJIT @อุดรธานี “เสน่ห์แสง ศิลป์ ถิ่นอีสาน” ปรากฏการณ์แสงสีที่เนรมิตยามค่ำคืนของเมืองอุดรธานีให้เปล่ง ประกาย หลอมรวม 2 แนวคิดจาก “5 Must Do in Thailand” ได้แก่ Must See และ Must Taste ไว้ในงานเดียวกัน ภายใต้แนวคิด “เสน่ห์แสง ศิลป์ ถิ่นอีสาน” ถ่ายทอดการเดินทางจาก "แสงแห่งศรัทธา" สู่ "ศิลป์แห่งถิ่นอีสาน" ที่หลอมรวมความศรัทธา, มรดกงานศิลป์,ธรรมชาติของท้องถิ่น และวิถีชีวิตเข้าด้วยกัน ผ่านการจัดแสดงแสง สี และงานออกแบบร่วมสมัย
โดยนำเทคนิคใหม่ผสมผสานกับการสร้างสีสันบรรยากาศยามค่ำคืนให้กับสวนสาธารณะ ของจังหวัดอุดรธานีพร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ของอุดรธานี ในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ครอบคลุมพื้นที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติมหาราชินีวังมัจฉาหนองบัว ของเมืองอุดรธานี จำนวน 11 จุด คือ
จุดที่ 1 “ถือกำเนิดเอ็งกอ ณ ดินแดนอุดร” จุดที่ 2 “สะพานแห่งกาลเวลา” จุดที่3 “บทเพลงวิถีเอ็งกอ” จุดที่4 Highlight “ค่ำคืนแห่งการบูชา” โชว์การแสดงไฟ (Lightmapping) พร้อมบทเพลงพิเศษ จุดที่5 “พญานาคาล่องทะเลบัวแดง” จุดที่6 “แสงสนุก แห่งอนาคต” จุดที่7 “คืนแห่งแสงกลางกุมภวาปี” จุดที่8 “ลายเส้นศิลป์แห่งกาลเวลา” จุดที่9 Highlight : “ลมหายใจใหม่ของชนเผ่า” โชว์การแสดงศิลปวัฒนธรรม และ Water Screen บริเวณท่าน้ำ ที่จะมาเล่าเรื่องราวการเดินทางของ วัฒนธรรม จากบ้านเชียง สู่ตํานาน เอ็งกอ ความเชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ และการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในปัจจุบัน จุดที่10 “สรวงสวรรค์บันดาลพร”และจุดที่11 “ศูนย์กลาง แห่งจิตวิญญาณอุดร”
ในส่วนของ Must Taste นั้น เป็นการจัดกิจกรรมการออกร้านจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น และร้านดังในโซเชียลจำนวนกว่า 35 ร้าน เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังชุมชนที่เป็นต้นกำเนิดวัตถุดิบ ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของอาหารไทย อาหารถิ่น และวัฒนธรรมด้านอาหารที่หลากหลายของประเทศไทย
งาน VIJIT@อุดรธานี “เสน่ห์ แสง ศิลป์ ถิ่นอีสาน” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 31 สิงหาคม 2568 เวลา 18.00–23.00 น. ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานฯ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพิ่มเติมว่า งานวันนี้จัดขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น หนองคาย หนองบัวลำภู สกลนคร ขอนแก่น รวมถึงชาว สปป.ลาว เข้าสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองอุดรธานี การจัดงานตลอด 10 วันคาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 200 ล้านบาท กิจกรรมนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด “5 Must Do in Thailand” ของ ททท. เน้นส่งเสริมการเดินทางภายในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไปพร้อมกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism)