ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้ประสานงานเครือข่ายขอนแก่นใสสะอาดแจ้งความเอาผิด 2 ส.ส.พรรคประชาชนหลังปล่อยคลิปเสียงมีคนเสนอเงิน 10 กก.เพื่อยกมือโหวตผ่านงบประมาณ ขณะที่ ส.ส.ขอนแก่น เขต 3 พรรคประชาชน หอบหลักฐานคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์กับหญิงปริศนาซื้อเสียงโหวตลงมติในสภาฯ แลกเงิน 10 กก.แจ้งความที่ สภ.น้ำพอง
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ผู้ประสานงานเครือข่ายขอนแก่นใสสะอาด พร้อมตัวแทนชาวขอนแก่นเดินทาเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี ส.ส.พรรคประชาชน เขต 3 ขอนแก่น และผู้หญิงกรณีในคลิปเสียงสนทนาเสนอเงิน 10 กิโลกรัมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว ผู้ประสานงานเครือข่ายขอนแก่นใสสะอาด กล่าวว่า วันนี้มาแจ้งความเรื่องคลิปเสียงต้นเสียงที่เป็นผู้หญิงที่เสนอให้ เป็นความผิดสำเร็จแล้วแม้จะยังไม่จ่ายเงิน ตามกฎหมายอาญามาตรา 144 ถ้าไม่เป็นความจริง เป็นหน้าที่ของตำรวจ มีประเด็นที่ว่ามีหลายคนที่ไม่เชื่อคลิปเสียงนั้นเป็นเรื่องจริง จึงขอให้สอง ส.ส.ที่เกี่ยวข้องให้มาแจ้งความจับผู้หญิงที่มีเสียงในคลิป เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เป็นเรื่องที่กุขึ้นมากันเอง
ขณะที่บ่ายวันเดียวกันนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรน้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง ส.ส.ขอนแก่น เขต 3 พรรคประชาชน พร้อมทนายความ นำหลักฐานเป็นคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์กับหญิงรายหนึ่ง และหลักฐานอื่นๆ เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสืบสวนหาตัวหญิงดังกล่าวมาลงโทษตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตปี 2561 มาตรา 167 โดยมี พ.ต.อ.ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพอง รับเรื่องแจ้งความด้วยตนเอง
หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีหญิงรายหนึ่งโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหาเพื่อยื่นข้อเสนอให้นายชัชวาลยกมือโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 และร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร แลกกับเงินน้ำหนัก 10 กิโลกรัม
นายชัชวาลกล่าวว่า การแจ้งความในครั้งนี้เนื่องจากเราไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แน่ชัดของหญิงรายนี้ว่าต้องการอะไรกันแน่ เพราะขณะนี้แม้ว่าเราจะทราบชื่อ นามสกุลจริง และภูมิลำเนาของหญิงรายนี้แล้ว โดยมีชื่อจริงอักษรย่อ “ช.” มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่อำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น แต่เราก็ไม่ทราบวัตถุประสงค์หรือเจตนาที่แท้จริงของหญิงรายนี้ว่าต้องการอะไร
ฉะนั้นการมาแจ้งความวันนี้อย่างน้อยๆ ก็เพื่อนำไปสู่การสืบสวน สอบสวน และตรวจสอบ ว่าขบวนการแบบนี้ไม่ควรที่จะมีอยู่ในสังคมการเมืองของบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นการล่อซื้อ หรือการขอซื้อตัวกันจริงๆ แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองมีความเป็นไปได้ทั้งสองทาง แต่ส่วนตัวมองว่าการกระทำที่เกิดขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการดิสเครดิตพรรคประชาชน จึงอยากให้มีการตรวจสอบ อย่างน้อยคนที่วางแผนหรือคิดจะทำเรื่องเหล่านี้ในอนาคตจะได้ตระหนักว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเกรงกลัวต่ออำนาจของกฎหมาย
ส.ส.พรรคประชาชนกล่าวอีกว่า “สิ่งที่เรายังไม่ทราบคือหญิงรายนี้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดหรือไม่ การที่จะทราบเรื่องนี้ได้คือจะต้องไปตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่หญิงรายนี้ใช้โทร.มาว่ามีการโทร.หา พูดคุย หรือติดต่อกับใครบ้างในห้วงระหว่างวันที่ 22-23 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงวันที่ 22 มิ.ย. นายวีรนันท์ ฮวดศรี ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคประชาชน ได้พบและพูดคุยกับผู้หญิงรายนี้ ส่วนตัวเองไม่เคยเห็นหน้า มีเพียงการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ในวันที่ 23 มิ.ย. โดยเหตุการณ์ที่เกิดกับนายวีรนันท์ เป็นการพบหน้ากัน และหญิงรายนี้ได้มีการติดต่อหาบุคคลที่สาม ซึ่งนายวีรนันท์ ก็ได้คุยกับบุคคลที่สามผ่านทางโทรศัพท์ในวันนั้นด้วย จึงต้องไปตรวจสอบว่าในช่วงเวลานั้นของวันที่ 23 มิ.ย. หญิงรายนี้โทร.หาใคร”
นายชัชวาลกล่าวด้วยว่า “จากการสอบถามนายวีรนันท์ทราบว่าไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักหญิงรายนี้มาก่อน ทั้งในและนอกสภาฯ รวมทั้งในสถานที่อื่นๆ และการมาพบกับนายวีรนันท์ในครั้งนั้น ก่อนจะมาพบกันหญิงรายนี้ได้ติดต่อขอเบอร์โทรศัพท์ผ่านทางเพื่อนของนายวีรนันท์มาอีกทอดหนึ่ง ส่วนกรณีของตนเอง หญิงรายนี้ก็ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ของตนจากเพื่อนในเฟซบุ๊กของตนมาอีกทอดหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ตนจะทราบชื่อ นามสกุล และภูมิลำเนาของหญิงรายนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดหรือไม่ วันนี้จึงได้นำหลักฐานมามอบแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบและสืบสวนขยายผลหาความจริงว่าหญิงรายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับใครบ้างหรือไม่