ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค (ทีพีเอ็น) โชว์ศักยภาพคลังน้ำมันขอนแก่น ศูนย์กลางพลังงานในอาเซียน ขนส่งน้ำมันทางท่อจากสระบุรีเก็บไว้ที่คลังสำรอง อ.บ้านไผ่ กระจายน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มุ่งลดต้นทุน ลดมลภาวะ เพิ่มความปลอดภัย ยกระดับมาตรฐานขนส่งพลังงานประเทศ
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่คลังน้ำมันขอนแก่น บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “พลังส่งต่อ พลังส่งออก” จัดโดยบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (ทีพีเอ็น-TPN) หลังจากดำเนินการก่อสร้างคลังน้ำมัน ณ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น พร้อมระบบท่อขนส่งน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเสร็จสิ้นตามแผนงาน
ตอบสนองนโยบายกระทรวงพลังงานในการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมพลังงานให้เป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ และสร้างโอกาสเป็นศูนย์กลางธุรกิจพลังงานภูมิภาค เชื่อมไทยเชื่อมโลก ด้วยการจัดหาและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน บริหารจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพและมีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีราคาที่เหมาะสม
นายลือชัย สุดสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (ทีพีเอ็น-TPN) กล่าวว่า ตามที่บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้ดำเนินการขยายท่อขนส่งน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อ พ.ศ. 2558 และได้วางศิลาฤกษ์ก่อสร้างคลังน้ำมันบ้านไผ่ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 บัดนี้การก่อสร้างทั้งระบบท่อขนส่งน้ำมันและคลังน้ำมันได้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยตามแผนงานที่ตั้งไว้
คลังน้ำมันอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นคือจุดเริ่มต้นของภารกิจสำคัญของทีพีเอ็น โดยเฉพาะด้านขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเพื่อสนับสนุนการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความมั่นคงด้านการจัดหาพลังงาน ด้วยนโยบายเก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปในคลังส่วนภูมิภาค ส่งผลให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่เชื่อถือได้ ก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐศาสตร์ต่อประเทศ รวมถึงยังรองรับการขยายตัวด้านการใช้น้ำมันในภูมิภาคอาเซียน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานของภูมิภาค
“หมุดหมายของความสำเร็จดังกล่าว คืองาน “TPN พลังส่งต่อ พลังส่งออก” ในวันนี้ ที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมในการให้บริการขนส่งน้ำมันและจ่ายน้ำมันสำหรับส่งออกแก่ลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมสรรพสามิตให้การขนส่งน้ำมันทางท่อและคลังน้ำมันขอนแก่นเป็นสถานที่เก็บสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษี เพื่อส่งเสริมการส่งออกตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง” นายลือชัยกล่าวเพิ่มเติม
TPN มีความตั้งใจในการพัฒนาและขยายการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำมันภายในพื้นที่ รวมถึงเพิ่มความสะดวกในการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ให้สามารถกระจายน้ำมันได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยปัจจุบันมีการใช้ท่อในการขนส่งน้ำมันอย่างแพร่หลายในหลายพื้นที่ทั้งในประเทศ ระหว่างประเทศ หรือภายในทวีป แสดงให้เห็นถึงการพัฒนารูปแบบการขนส่งน้ำมันทางท่อที่เติบโตอย่างรวดเร็วพร้อมกับเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
การขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือในครั้งนี้จะตอบสนองความต้องการปริมาณน้ำมันที่เติบโต และทำให้สามารถเข้าถึงพลังงานน้ำมันได้โดยง่ายผ่านบริการขนส่งน้ำมันที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศ เพิ่มความปลอดภัยในการขนส่งน้ำมัน ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ตอบสนองแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เป็นเป้าหมายในอนาคตของประเทศ
คลังน้ำมันแห่งนี้เป็นคลังน้ำมันแห่งใหม่ที่ทันสมัย มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ความจุถังรวม 157 ล้านลิตร และมีท่อขนส่งน้ำมันเชื่อมต่อสถานีคลังน้ำมันที่สระบุรีถึงสถานีคลังน้ำมันที่ขอนแก่นระยะทาง 342 กิโลเมตร ผ่าน 55 ตำบล 18 อำเภอ 5 จังหวัด การขนส่งด้วยระบบท่อขนส่งน้ำมันจะช่วยลดปริมาณการขนส่งน้ำมันทางรถบรรทุกลงไปจำนวน 88,000 เที่ยวต่อปี คิดเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงในการขนส่งลงไปได้กว่า 15.4 ล้านลิตรต่อปี
ที่สำคัญยังช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่ง หรือเปรียบเทียบได้กับการปลูกป่ามากถึง 67,000 ไร่ โดยคาร์บอนเครดิตจะเป็นของผู้มาใช้บริการท่อส่งน้ำมันและคลังน้ำมันของบริษัทฯ ซึ่งสนับสนุนนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของประเทศ นับเป็นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการรักษ์สิ่งแวดล้อมและดูแลสังคม
“นอกจากนี้ ด้วยความจุ 157 ล้านลิตร คลังน้ำมันขอนแก่นจึงมีศักยภาพเป็นคลังสำรองเชื้อเพลิงที่สำคัญของประเทศ และ “พลังส่งต่อ พลังส่งออก” ของ TPN ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมสรรพสามิตจะส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมันของประเทศ ลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการขนส่ง ลดปัญหาด้านอุบัติเหตุรวมถึงแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
คลังน้ำมันแห่งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อชุมชนโดยรอบและประชาชนท้องถิ่นจากการสร้างงานโดยตรงให้แก่พี่น้องที่อยู่ใกล้เคียง และเพิ่มโอกาสของการสร้างงานสร้างรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องอื่นๆ อีกมาก TPN จึงมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ร่วมสร้างเศรษฐกิจ ตลอดจนยกระดับมาตรฐานการขนส่งพลังงานให้เป็นที่ประจักษ์” นายลือชัยกล่าวสรุป