เชียงใหม่ - จนท.ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อส.ประจำด่านฯ แก่งปันเต๊า ออกตรวจ/ระงับเหตุคนเมากลางดึก เจอกระบะตกร่องข้างทางเชียงดาวแต่ไร้เงาคนขับ พอส่องหลังรถพบขนยาบ้ามาเต็มคันกว่า 600,000 เม็ด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงดาว ทหารหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ กองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครรักษาดินแดนเชียงดาว บูรณาการกำลังร่วมปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจด่านแก่งปันเต๊า อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ออกตรวจสอบเหตุเมาสุราอาละวาด บ้านห้วยโจ้ ม.4 ต.แม่นะ อ.เชียงดาว เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.เศษที่ผ่านมา (12 ส.ค. 68)
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุทราบว่าบุคคลดังกล่าวได้หลบหนีไปก่อนหน้า ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่พบหญิงขับขี่รถจักรยานยนต์มาทางถนนภายในหมู่บ้านห้วยโจ้ มุ่งหน้าบ้านแม่แมะ อ.เชียงดาว มีท่าทางพิรุธต้องสงสัย จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ
เมื่อหญิงคนดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ได้ออกอาการตื่นตระหนกขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตาม พร้อมได้ส่งสัญญาณเสียงรอบหมู่บ้านเพื่อให้หญิงคนดังกล่าวหยุด แต่หญิงคนดังกล่าวก็ไม่ยอมหยุดรถ และหลบหนีไปได้ในที่สุด
เจ้าหน้าที่จึงได้ย้อนกลับไปยังเส้นทางที่หญิงต้องสงสัยขับขี่มา พบรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผจ 7487 เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณริมทาง แต่ไม่พบคนอยู่ในรถคันดังกล่าว และพบว่าประตูรถด้านซ้ายข้างผู้โดยสารเปิดทิ้งไว้ และมีร่องรอยการถูกเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าข้างขวาของรถ ซึ่งช่องทางที่รถมุ่งหน้าไปเป็นทางตัน
ตรวจสอบเบื้องต้นเครื่องยนต์ยังมีอุณหภูมิที่ร้อน แต่ไม่สามารถขับขี่ไปได้เนื่องจากล้อรถตกร่องข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบถุงดำขนาดใหญ่ จำนวน 6 ใบ ภายในเต็มไปด้วยยาบ้า โดยแบ่งบรรจุอยู่ในถุงซิป ถุงละประมาณ 200 เม็ด ห่อด้วยกระดาษสา จำนวนประมาณ 5 มัดเล็ก และห่อหุ้มด้วยเทียนไขสีเหลืองอีกชั้นหนึ่ง ประมาณ 10 มัดใหญ่ และห่อด้วยกระสอบฟาง-หุ้มด้วยถุงดำอีกชั้นหนึ่ง รวมยาบ้าทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 600,000 เม็ด ทั้งหมดวางไว้บริเวณด้านหลังของเบาะรถยนต์คันดังกล่าว
จากนั้นได้ตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบรองเท้าแตะสีดำ-ม่วง จำนวน 1 ข้าง (ข้างซ้าย) ตกอยู่ข้างประตูรถด้านซ้าย ซึ่งเป็นคลองคันนา และรองเท้าแตะสีขาวอีก 1 คู่ ตกอยู่ในร่องน้ำ (ใกล้กับนาข้าว) ห่างไปประมาณ 1 เมตร และห่างออกไปประมาณ 5 เมตร พบเศษผ้าสีเขียว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นของคนร้ายที่หลบหนี ติดอยู่บริเวณรั้วลวดหนาม จำนวน 1 ชิ้น จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้สืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่หลบหนีไปได้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป