โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงรอบเช้า อ้างทหารกัมพูชารื้อลวดหนามที่ทหารไทยวางไว้ที่ช่องอานม้าออกหมดแล้วหลังการเจรจากับฝ่ายไทย โวเป็นพื้นที่เขมรยึดได้ก่อนหยุดยิง ย้ำกัมพูชายึดมั่นในสันติ
เช้าวันนี้ (6 ส.ค.) พลโท มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงว่า แนวชายแดนกัมพูชา-ไทยขณะนี้สถานการณ์อยู่ในภาวะสงบ ไม่มีการปะทะด้วยอาวุธ และในพื้นที่อานเซส (ช่องอานม้า) สถานการณ์ก็สงบเช่นกัน ณ เวลา 18.00 น.ของวันที่ 5 สิงหาคม 2568
พลโท มาลีกล่าวว่า ในพื้นที่อานเซส เมื่อวันที่ 4 ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการหยุดยิง ไทยได้ส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธและยุทโธปกรณ์ทุกประเภทเข้าไปในดินแดนกัมพูชา ก่อรั้วลวดหนาม และขุดสนามเพลาะอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากองกำลังกัมพูชาจะสั่งห้ามก็ตาม แต่หลังจากที่กัมพูชาได้ติดต่อฝ่ายไทยที่ประจำการในพื้นที่อานเซส เพื่อหารือและเจรจาอย่างแข็งขันกับฝ่ายไทยเมื่อเวลา 15.14 น. (เมื่อวานนี้) กองกำลังของเราได้นำกำลังเข้าทำลายลวดหนามจนถึงเวลา 17.30 น. ของวันที่ 5 สิงหาคม ลวดหนามดังกล่าวได้ถูกรื้อถอนและยุทโธปกรณ์ของไทยถูกระงับการใช้งาน
พล.ท.มาลียืนยันว่าพื้นที่อานเซสอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังกัมพูชาหลังจากการหยุดยิงมีผลบังคับใช้ กองกำลังกัมพูชายึดมั่นในแนวทางสันติ เนื่องจากกัมพูชาต้องการให้พรมแดนกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศเป็นพรมแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา และจะมุ่งมั่นปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม รายงานจากฝ่ายไทยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ระบุว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานมายัง ศบ.ทก.ว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 68 เวลา 16.30 น. ตรวจพบทหารกัมพูชา 5 นายเข้ามาตัดลวดหนามหีบเพลงในบริเวณตลาดช่องอานม้าที่ฝ่ายไทยกางลวดไว้เพื่อเป็นแนวเขต จำนวน 2 แถว
จากนั้นทหารพรานไทย ร้อย.ทพ.2310 ได้สั่งให้ยุติและให้ทหารกัมพูชาถอยออกจากพื้นที่ดังกล่าว
ต่อมาทหารพราน ร้อย.ทพ.2310 ได้เข้าไปกางลวดหนามหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ส่วนทหารกัมพูชาได้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปแล้ว และฝ่ายไทยยังคงตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการแดนไกลต่อไป เหตุการณ์ยังปกติ
ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีการล้อมรั้วลวดหนามในพื้นที่ช่องอานม้าว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทย แต่ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ที่กระทำการรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของไทย โดยฝ่ายไทยได้มีการยื่นหนังสือประท้วงในทุกระดับมาแล้วหลายครั้ง แต่ทางการกัมพูชายังมิได้ดำเนินการแก้ไขใดๆ
จากผลการปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ของฝ่ายไทยสามารถยึดและควบคุมพื้นที่ได้โดยสมบูรณ์ จึงได้ดำเนินการเสริมสร้างความมั่นคงและจัดระเบียบพื้นที่ใหม่ โดยมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและใช้เครื่องจักรเข้าดำเนินการเคลียร์พื้นที่ เพื่อขจัดอันตรายจากทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาอาจลักลอบวางไว้และยังตกค้างอยู่ในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถวางกำลังควบคุมพื้นที่และปกป้องอธิปไตยของไทยได้อย่างมั่นคงตามแนวเส้นปฏิบัติการของฝ่ายไทย