กาญจนบุรี – เจ้าหน้าที่กาญจนบุรีเดินหน้ากวาดล้างตามนโยบาย “No Drugs No Dealers” สกัดรถต้องสงสัย ยึดบุหรี่เถื่อนกรองทิพย์ 206,000 มวน ส่วนอีกคดีที่ไทรโยค รวบหนุ่มวัย 24 ปี ลักลอบค้ายา เผยเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติด แต่กลับมาค้าเฮโรอีนซ้ำ
จากการขับเคลื่อนนโยบายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ชายแดน ตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา พร้อมหน่วยงานความมั่นคงและฝ่ายปกครองทุกระดับ ได้บูรณาการร่วมกันตรวจเข้มในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่ อ.สังขละบุรี และ อ.ไทรโยค ซึ่งถือเป็นจุดเสี่ยงในการลักลอบขนของผิดกฎหมาย
ล่าสุดกลางดึกวานนี้ (4 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจน้ำเกริ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จับกุมนายพีระพล ขันธีระจิโรจน์ อายุ 28 ปี ขณะขับรถกระบะโตโยต้า สีขาว ทะเบียน กพ 7514 กาญจนบุรี ลักลอบขนบุหรี่เถื่อนตรากรองทิพย์จำนวน 1,030 คอตตอน หรือ 206,000 มวน ซุกซ่อนอยู่ในห้องโดยสารและกระบะท้ายคลุมด้วยผ้าใบเพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่
จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายพีระพลยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างจากบุคคลชื่อ “นายอ้วน” ให้ไปรับรถบริเวณช่องทางธรรมชาติ แล้วนำไปจอดทิ้งไว้หน้ารร.แห่งหนึ่งใน ต.หนองลู โดยจะได้รับค่าจ้าง 2,500 บาท แต่กลับถูกจับกุมเสียก่อน
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “มีไว้ในครอบครองเพื่อขายยาสูบที่มิได้เสียภาษีสรรพสามิต” และนำบุหรี่ของกลางส่งสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่กาญจนบุรี สาขาสังขละบุรี
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า นายพีระพลเป็น บุคคลต่างด้าวที่มีบัตรประชาชน 13 หลักขึ้นต้นด้วยเลข 8 ซึ่งอยู่ในกลุ่มได้รับสถานะโดยถูกต้องตามกฎหมาย โดยฝ่ายปกครองอ.สังขละบุรีจะดำเนินการตรวจสอบสถานะตามประกาศจังหวัดกาญจนบุรีว่าด้วยการเพิกถอนหรือยกเลิกสถานะทางทะเบียนกรณีกระทำผิดเกี่ยวกับความมั่นคง
อีกคดีซ้ำรอยยาเสพติด
ในอีกปฏิบัติการหนึ่ง นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ สภ.ไทรโยค และ ตชด.136 เข้าจับกุมนายสหัสวรรษ หรือ “โซน” อายุ 24 ปี ชาว ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค พร้อมของกลางเฮโรอีน 26.9 กรัม
จากการสืบสวนพบว่า นายโซนเคยต้องโทษคดียาเสพติดมาก่อน และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน แต่ยังคงหวนกลับมาค้ายาให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จนถูกติดตามจับกุมอีกครั้ง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” และควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย