xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจอีสานครึ่งแรกปี 68 ทรุดค้าขายลำบาก เหตุปะทะกัมพูชากระทบการค้า-สถานพยาบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แบงก์ชาติเผยภาพรวมเศรษฐกิจอีสาน 6 เดือนแรกปี 2568 โตต่ำแค่ 0.5-1.5% พบเสียงสะท้อนประชาชนค้าขายลำบาก การใช้จ่ายที่ซบเซา และปัญหาหนี้เรื้อรัง ชี้เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา กระทบภาคการค้า รวมถึงธุรกิจสถานพยาบาลทรุด


ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้สรุปภาพรวมเศรษฐกิจภาคอีสานทั้งปี 2568 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 โดยเศรษฐกิจอีสานคาดว่าจะเติบโตเพียง 0.5% ถึง 1.5% ปรับลดลงจากคาดการณ์ในครั้งก่อน ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำ กระจุกอยู่ในบางภาคเศรษฐกิจ เช่น อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก การลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยว

ทั้งยังกระจายไม่ทั่วถึงคนส่วนใหญ่ โดยล่าสุดในไตรมาส 2 ปี 2568 นี้ เห็นเสียงสะท้อนเพิ่มขึ้นจากประชาชนในพื้นที่ถึงความลำบากในการค้าขาย การใช้จ่ายที่ซบเซา และปัญหาหนี้เรื้อรัง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงต่อเนื่องถึง 32 เดือน โดยเฉพาะในกลุ่มรายได้น้อย

ขณะเดียวกัน รายได้เกษตรกรลดลง ตามราคายางพารา มันสำปะหลัง และอ้อย ที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ภาคเศรษฐกิจบางส่วนยังเติบโตได้ เช่น การส่งออกที่เร่งตัวก่อนถูกเก็บภาษีจากสหรัฐฯ การลงทุนภาครัฐที่เบิกจ่ายได้ดีต่อเนื่อง รวมถึงการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่การเติบโตเหล่านี้ยังไม่กระจายไปถึงประชาชนส่วนใหญ่ เศรษฐกิจจึงเปรียบเสมือน “น้ำตกเป็นชั้นๆ” ที่ยังไม่ไหลลงถึงรากหญ้า

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ และความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดน ทางแบงก์ชาติกำชับให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบตามความเหมาะสมโดยเร่งด่วน ภายใต้แนวทางที่แบงก์ชาติกำหนดไว้

ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


ด้านนายมนัสชัย จึงตระกูล รองผู้อำนวยการ ธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดทั้งแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปจนถึงภาคตะวันออก ทำให้ปิดจุดผ่านแดน ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการค้าขายส่วนใหญ่เป็นผู้ค้ารายย่อยตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา

ส่วนที่ได้รับผลกระทบคือกลุ่มธุรกิจสถานพยาบาล ที่มีชาวกัมพูชาเข้ามารักษาตัวเดือนละกว่า 10,000 คน ซึ่งภาพรวมมีการค้าขายมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนภาคเกษตรชายแดนไทย-กัมพูชา จะเป็นการปลูกข้าวเป็นส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก ส่วนที่มีระเบิดตกค้าง ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปช่วยเก็บกู้ เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้าไปเก็บเกี่ยวผลผลิตได้


รองผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือกล่าวต่อว่า ในส่วนของภาคธุรกิจที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะได้มีนโยบายเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ โดยจะมีมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ยืดระยะการชำระหนี้ รวมทั้งการเพิ่มสภาพคล่องเพิ่มเติม


กำลังโหลดความคิดเห็น