xs
xsm
sm
md
lg

ทภ.2 เผยยังพบการเคลื่อนไหว ฝ่ายเรายังคงวางกำลังตามแนวพื้นที่ปฏิบัติการ เคลียร์ระเบิดตกค้างแล้ว 17 พื้นที่ ยังเหลือ 63 พื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดไม่มีเหตุการณ์สู้รบ แต่ยังคงพบการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายเรายังคงวางกำลังตามแนวพื้นที่ปฏิบัติการตามแผน เร่งทำพื้นที่ให้ปลอดภัย จัดชุด EOD เข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อทำลายวัตถุระเบิดตกค้างแล้ว 17 พื้นที่ คงเหลือ 63 พื้นที่

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2568 (ณ เวลา 14.00 น.)

ตามที่เกิดสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญของสถานการณ์ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2568 เวลา 14.00 น.

ภาพรวมสถานการณ์ ปัจจุบันไม่มีเหตุการณ์ แต่ยังคงพบการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายเรายังคงวางกำลังตามแนวพื้นที่ปฏิบัติการตามแผน

การดูแลผู้อพยพ ส่วนราชการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ยังคงให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกในพื้นที่อพยพทั้ง 495 จุด ใน 4 จังหวัด มียอดรวม 100,270 คน โดยจัดชุดตรวจสุขภาพ และจัดสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นแจกจ่ายแก่ประชาชน รวมถึงการจัดกิจกรรมสันทนาการ

การทำพื้นที่ให้ปลอดภัย จัดชุดทำลายล้างวัตถุระเบิด หรือ EOD เข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อทำลายวัตถุระเบิดที่ยังตกค้าง ปัจจุบันได้ทำลายไปแล้ว 17 พื้นที่ คงเหลือ 63 พื้นที่

จิตอาสาพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในความห่วงใยต่อกำลังพลและประชาชนของพระองค์ท่านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยทรงให้กองทัพบกร่วมกับส่วนราชการเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหาย และดำเนินการฟื้นฟูโดยเร่งด่วน ซึ่งศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดบุรีรัมย์ได้ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 26 และภาคประชาชนได้ร่วมดำเนินการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวของ สิบตรี ธีรยุทธ กระจ่างทอง ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ปะทะ ณ ฐานตาฮอง 2 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีพระราชทานถุงยังชีพ และพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์ โดยให้จังหวัดจัดหาถุงยังชีพ จำนวน 1,263 ชุด และซื้อวัตถุดิบในการปรุงอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัย มีการจัดกำลังจิตอาสา 904, จิตอาสาพระราชทาน และจิตอาสา เข้าอำนวยความสะดวกประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราว และช่วยขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งช่วยในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชนได้รับทราบ พร้อมการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดสุรินทร์, จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี

ปัจจุบันพบข้อมูลทางสื่อออนไลน์ที่กระทบต่อความตื่นตระหนกของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมถึงมิจฉาชีพที่ใช้ในการหาผลประโยชน์จากน้ำใจของพี่น้องประชาชน จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนงดการแชร์ข้อมูลข่าวสารที่อาจส่งผลกระทบ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลที่เชื่อถือได้จากหน่วยงานความมั่นคง และส่วนราชการเท่านั้น และขอขอบคุณน้ำใจจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ร่วมบริจาคสิ่งของอุปโภค-บริโภคแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และกำลังพลทหารที่ยืนหยัดรักษาอธิปไตยตามแนวชายแดน




กำลังโหลดความคิดเห็น