นครสวรรค์ - เผยนาทีอดีตรองผู้การฯ วัยเกษียณชักปืนแกว่ง-ลั่นทั้งไอ้ ส./ไอ้เหี้..ระหว่างมีปากเสียงกับนักร้องหนุ่มวัยเบญจเพสกลางร้านก๋วยเตี๋ยว..หลังโดนเตือนให้ขยับรถที่จอดหน้าร้าน-ไม่ชิดขอบ จนคู่กรณีต้องโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความ ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธข้อกล่าวหา บอกแค่บีบีกัน
วันนี้ (30 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุวุ่นวายดังกล่าวเกิดขึ้นภายในร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งริมถนนพหลโยธิน เขตเทศบาลเมืองตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เมื่ออดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เกษียณอายุราชการแล้ว เกิดมีปากเสียงกับนักร้องหนุ่มวัย 25 ปี ถึงขั้นชักปืนข่มขู่กลางร้าน ต่อมามีการนำคลิปภาพเผยแพร่ว่อนโลกออนไลน์
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ที่ผ่านมา และภายหลังเกิดเหตุนายสรวิชญ์ เกิดสาย อายุ 25 ปี นักร้องประจำวงดนตรีในเครือไหทองคำ ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.นิยุทธ ยศสมบัติ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ตาคลี ว่าขณะนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกับเพื่อนภายในร้าน ได้มีรถยนต์คันหนึ่งมาจอดขวางทางหน้าร้าน ลักษณะไม่ชิดขอบถนน ตนจึงเข้าไปเตือนด้วยความหวังดีว่า "พี่ขยับรถหน่อยครับ กลัวรถจะชนแล้วกระเด็นมาใส่"
แต่ชายคนดังกล่าว ซึ่งภายหลังทราบชื่อคือ “พล.ต.ต.” อดีตรอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ แสดงอาการไม่พอใจ ตอบกลับอย่างรุนแรงว่า "รถกูถ้าชน กูซ่อมเองได้ มึงอย่ากวนตีน" จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอย่างรุนแรง ต่อมา พล.ต.ต. คนดังกล่าวก็เดินออกไปที่รถแล้วกลับมาพร้อมกับอาวุธปืน และใช้ท่าทีข่มขู่คู่กรณี โดยมีคลิปเผยแพร่ช่วงที่เขาเดินถือปืนเข้ามาภายในร้านอย่างชัดเจน ทำให้นายสรวิชญ์ต้องรีบหนีเข้าไปหลบในตู้เย็นหลังร้านเพื่อเอาชีวิตรอด
ด้าน พล.ต.ต.คนดังกล่าวได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนในเวลาต่อมา พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าอาวุธที่ใช้เป็นเพียง "ปืนบีบีกัน" เท่านั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 2 ข้อหา คือ พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความหวาดกลัว ก่อนปล่อยตัวชั่วคราว และนัดสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมตรวจสอบอาวุธปืนก่อนจะมีการส่งฟ้องศาลกันในวันหลัง
ขณะที่นายสรวิชญ์ให้การเพิ่มเติมว่า เขาไม่ได้ตั้งใจมีเรื่อง เพียงเข้าไปเตือนด้วยเจตนาดีเพราะกลัวอุบัติเหตุ แต่กลับถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และถูกข่มขู่ด้วยอาวุธปืน ทั้งยังระบุว่าผู้ก่อเหตุมีอาการคล้ายคนเมา พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเผชิญเหตุการณ์แบบเดียวกันในอนาคต
“ตอนแรกเขามาขอโทษ ก็นึกว่าเรื่องจะจบ แต่กลับเดินไปหยิบปืนมาขู่ ผมก็ไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นยังไงต่อจากนี้ จึงขอสู้คดีให้ถึงที่สุด” นายสรวิชญ์กล่าว
ด้าน น.ส.วีณา ชัยวัฒน์ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่เกิดเหตุ ให้การว่า อดีตรองผู้การฯ เป็นลูกค้าประจำ มักมากินบะหมี่ต้มยำ และเป็นคนพูดเสียงดัง ไม่ค่อยพูดจากับใคร วันเกิดเหตุเขามาสั่งก๋วยเตี๋ยวเช่นเคย ก่อนจะเดินมาบอกว่า "ไม่กินแล้ว" จากนั้นก็มีเสียงโต้เถียงและเหตุชุลมุนขึ้นภายในร้าน ซึ่งตนพยายามห้ามปราม พร้อมแนะนำให้นายสรวิชญ์กลับบ้าน แต่เหตุการณ์กลับบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ในเวลาต่อมา
ขณะนี้ตำรวจ สภ.ตาคลีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและเรียกคู่กรณีทั้งสองมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบอาวุธปืนอย่างละเอียด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
