ลำปาง - อดีตนายก อบต.คนดังแม่เมาะแฉซ้ำ..งบกองทุนรอบโรงไฟฟ้าฯ สนับสนุนโครงการลงหมู่บ้านส่อทุจริตชัด ระบุ 4 โครงการ รวม 2.5 ล้าน แต่ได้ของไม่ครบ-ถูกหักหัวคิวไม่พอ บางโครงการเงินปริศนางอกเพิ่มซ้ำอีกทั้งที่ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ยันขอเดินหน้าฟ้องกราวรูดผู้เกี่ยวข้องยันตำรวจที่เคยสั่งไม่ฟ้องคดี เผยล่าสุด ป.ป.ช.สั่งให้สอบเพิ่มแล้ว เนื่องจากมี จนท.รัฐเอี่ยวด้วย
นายสุนทร ใจแก้ว อดีตนายก อบต.สบป้าด ซึ่งเป็นอดีตนายก อบต.คนดังของอำเภอแม่เมาะอีกคนหนึ่งที่ดำรงตำแหน่งติดต่อกัน 3 สมัย เปิดเผยถึงการนำตัวแทนชาวบ้านฟ้อง ผกก.-พนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ รวม 4 นาย ที่ไม่รับคำร้องที่ตนเองและตัวแทนชาวบ้านเข้าแจ้งความประธานกองทุน คพรต.ตำบลสบป้าด พร้อมคณะกรรมการ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เนื่องจากพบการทุจริตการดำเนินโครงการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุนรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 4 โครงการ รวม 2.5 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการเลี้ยงปลาดุก งบประมาณ 500,000 บาท 2. จัดซื้อโครงการส่งเสริมอาชีพปลูกข้าวโพด งบประมาณ 500,000 บาท 3. จัดซื้อโครงการส่งเสริมอาชีพปลูกข้าวโพดเพื่อการเกษตร งบประมาณ 500,000 บาท 4. จัดซื้อโครงการส่งเสริมอาชีพการเกษตรกรปุ๋ยเพื่อลดต้นทุน งบประมาณ 500,000 บาท และพบมีเงินงอกจากโครงการดังกล่าวอีก 1 ล้านบาทโดยไม่ทราบที่มาที่ไป
นายสุนทรได้ระบุว่า การที่ตนเองพร้อมด้วยแกนนำชาวบ้านได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความและเดินหน้าฟ้องประธาน คพรต.ตำบลสบป้าด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการทำโครงการฯ เพราะพบชัดเจนว่ามีการทุจริต ซึ่งตนมีหลักฐานครบ โดยเฉพาะโครงการเลี้ยงปลา โครงการส่งเสริมอาชีพปลูกข้าวโพด ปลูกผักฯ งบประมาณ 3 โครงการ โครงการละ 500,000 บาท รวม 1,5000,000 บาท
วันส่งมอบวัสดุทั้งพันธุ์ปลา อาหาร ปุ๋ย ชาวบ้านได้ของไม่ครบ ได้ของมาเพียง 5 แสนบาท หายไป 1 ล้านบาท เมื่อชาวบ้านทวงถามก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าราคาสินค้าสูง เพราะใช้ราคากลางจากสำนักงานพาณิชย์ และต้องมีการหักเงินส่วนต่างเข้ากองทุน กทบ. รวมถึงหักภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งทำให้ชาวบ้านไม่ขอรับวัสดุดังกล่าว แต่ขอให้ทาง กทบ.เจ้าของโครงการ ส่งคืนวัสดุทั้งหมดให้กับทางร้านค้า และขอให้มีการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ เพื่อจะได้วัสดุให้ครบตามวงเงินงบประมาณ
แต่ทาง กทบ.สบป้าดกลับแจ้งชาวบ้านว่าหากไม่รับวัสดุก็จะขอคืนโครงการให้กับ คพรต. และ กกพ. โดยไม่มีการประชุมหรือมีมติจากชาวบ้านแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ในอีกโครงการมีป้ายโครงการขึ้นระบุงบประมาณ 500,000 บาท แต่หลังจากโครงการดำเนินไป กลับมีเงินโผล่จากโครงการมาเพิ่ม 1 ล้านบาท โดยที่ชาวบ้านไม่ทราบ เมื่อมีการทวงถามข้อสงสัย ประธาน ครพต.อ้างว่าเป็นการของบเพิ่มเพื่อนำมาใช้กับหมู่บ้านโดยไม่ชี้แจงรายละเอียด
เหตุการณ์ดังกล่าวตนและสมาชิกรวมถึงตัวแทนชาวบ้านพบข้อสงสัยและไม่สบายใจมาก เพราะถือว่าการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว และมีพยานหลักฐานพร้อม จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ แต่ทางตำรวจกลับบ่ายเบี่ยง สรุปสำนวนส่งอัยการระบุว่าบางโครงการหลักฐานอ่อน บางโครงการขาดอายุความแล้ว จึงสั่งไม่ฟ้อง
ดังนั้นตนจึงตัดสินใจร้องไปยังอัยการจังหวัด ซึ่งพิจารณาสำนวนของตำรวจแล้วเห็นว่าโครงการดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องด้วยจึงส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.พิจารณา ล่าสุด ป.ป.ช.มีมติกลับมายังอัยการให้ส่งคืนสำนวนให้ตำรวจแม่เมาะรับเรื่องและสอบเพิ่มอีก 8 ประเด็น ทำให้ขณะนี้กระบวนการสอบสวนเรื่องดังกล่าวเดินหน้าต่อ ขณะเดียวกันตนเองก็ได้ยื่นฟ้อง ผกก.พร้อมพนักงานสอบสวนที่สั่งไม่ฟ้องคดีไปพร้อมกันด้วย
นายสุนทรกล่าวว่า ตนอยากให้คดีที่ยื่นฟ้องนี้เป็นคดีตัวอย่าง เพราะกองทุนรอบโรงไฟฟ้ามีงบประมาณแต่ละปีมากถึงกว่า 365 ล้านบาท ตลอดเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมามีการทุจริตเกิดขึ้นจำนวนมากแต่ก็ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหา ครั้งนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน จึงอยากให้ทำเป็นคดีตัวอย่างจะได้เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านในพื้นที่รวมถึงทั้งจังหวัดลำปาง
