เชียงใหม่ - คนลุ่มน้ำตั้งแต่แม่อาย เชียงใหม่-เชียงราย ผวา..น้ำปนเปื้อนเหมืองทองทุนจีนเขตว้าใต้ ทะลักจนน้ำกกที่เคยใส กลับขุ่นคลั่กแบบผิดปกติวิสัยตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดกรมควบคุมมลพิษส่ง จนท.ล่องเรือพิสูจน์จนถึงรอยต่อชายแดนไทย-เมียนมา พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำตรวจ คาดอีก 1 เดือนรู้ผล
วันนี้ (19 มี.ค.) เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ได้นั่งเรือในแม่น้ำกกจากบ้านแก่งทรายมูล หมู่ 14 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไปยังรอยต่อชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ ตรวจค่าพารามิเตอร์หรือตัวชี้วัดค่าของน้ำ ค่าของสารไซยาไนด์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำเหมืองทอง ฯลฯ โดยจะใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ 1 เดือน หลังจากตั้งแต่ต้นปี 2568 น้ำในแม่น้ำกกที่ไหลมาจากเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เข้าสู่ อ.แม่อาย แล้วเกิดเป็นสีขุ่นและไม่ใสเหมือนเดิมอีก
นางจิรภัทร์ กัญธิยาใจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่มไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่แม่น้ำกกมีสีขุ่นขึ้น ทำให้ชาวบ้านตกใจกันมาก เดิมเชื่อว่าเกิดจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าหลังผ่านมาหลายเดือนน้ำก็ยังขุ่นอีก ทั้งๆ ที่ปีที่ผ่านๆ มาในช่วงเดือนมีนาคมน้ำกกจะใส กระทั่งต่อมาทราบว่ามีการทำเหมืองทองยิ่งทำให้มีความกังวลในเรื่องสารเคมีเพิ่มเติมอีก
“เดิมชาวบ้านใช้น้ำจากแม่น้ำกกเป็นประจำแต่ปัจจุบันคงใช้ไม่ได้เหมือนเดิมอีกแล้ว และเทศกาลสงกรานต์ที่เคยมีคนมาเที่ยวนั่งซุ้มริมน้ำคงจะไม่มากันอีก”
ด้านสำนักข่าวชายขอบซึ่งติดตามเรื่องสิ่งแวดล้อมได้อ้างคำกล่าวของชาวบ้านที่ ต.ท่าตอน ว่าชาวบ้านที่ท่าตอนมีญาติอยู่ในเขต จ.เมืองสาด และเมืองยอน ซึ่งอยู่ติดกับ ต.ท่าตอน ทราบว่าที่บ้านฮุง เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ติดกับ จ.เมืองสาด ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 36 กิโลเมตร มีการอนุญาตให้กลุ่มทุนจีนเข้าไปลงทุนทำเหมืองแร่ต่างๆ โดยเฉพาะเหมืองทองคำกว่า 23 บริษัท ซึ่งได้สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมากเพราะเกรงว่าเหตุการณแม่น้ำกกขุ่นจะเกิดจากการชะล้างดินเพื่อหาแร่จนเกิดตะกอนปนเปื้อนลงสู่แม่น้ำกกด้วย