xs
xsm
sm
md
lg

“แม่” วอนสื่อฝากถึงลูกชาย ประกาศบอกลูกชายอย่าทิ้งบ้านหลังได้สมบัติไปแล้วนำไปจำนอง พร้อมให้แม่ไปอยู่วัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - ย่า หลาน ชาวอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ติดต่อสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงฝากถึงลูกชายและพ่อ ทิ้งบ้านกลัวไม่มีที่อยู่บั้นปลายชีวิต เผยพฤติกรรมสลดใจ อ้อนแม่โอนบ้านให้ แล้วนำไปจำนอง สุดท้ายประกาศจะไปเมืองนอกไม่ส่งบ้านต่อ ลูกสาวบอกพ่ออย่าทิ้งย่า ขอแค่มีบ้านที่เหลือพร้อมดูแลตลอดชีวิต

วันนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนิตยา ศรีสังวาลย์ อายุ 60 ปี ผู้เป็นย่า และ น.ส.กสิกรณ์ ศรีสังวาลย์ อายุ 18 ปี หรือน้องแก้ม อยู่บ้านเลขที่191 หมูที่ 6 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้ร้องขอและประสานขอให้สื่อเป็นกระบอกเสียงบอกส่งถึงลูกชายและผู้เป็นพ่อ ให้ช่วยทำหน้าที่รับผิดชอบส่งเงินรายเดือน ชำระหนี้สินค่าบ้านที่ไปจำนองเอาไว้ หลังจากเมื่อปลายเดือนได้มีการประกาศว่าจะไม่ส่งต่อทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย และเตรียมจะเดินทางไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ ทำให้เกิดความวิตกว่าจะมีบ้านอาศัยในบั้นปลายชีวิต โดยผู้เป็นย่าชี้ว่าถูกลูกชายหลอกให้เซ็นยกบ้านให้ ส่วนคนเป็นหลานยืนยันพฤติกรรมผู้เป็นพ่อว่ามีปากเสียงกับย่าหลังมีการยกบ้านให้แล้ว แต่กลับนำไปเข้าสถาบันการเงิน โดย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้เป็นพ่อได้ประกาศจะทอดทิ้งทั้งตน และผู้เป็นมารดา

นางนิตยา ศรีสังวาลย์ อายุ 60 ปี เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้าบ้านหลังนี้เป็นชื่อของตน แต่ลูกชายได้หายจากบ้านไปหลายปี ไม่เคยติดต่อกลับมา จากนั้นประมาณ 1 ปีกว่า ได้เข้ามาทำทีออดอ้อนขอให้ยกบ้านหลังนี้ให้และสัญญาว่าจะดูแลไปจนตลอดชีวิต ซึ่งตนมีความพิการทางหู ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ จึงเชื่อใจลูกชายและได้เดินทางไปเซ็นมอบบ้านให้ที่สำนักงานที่ดินอำเภอบางเลน

แต่จากนั้นไม่นานลูกชายได้นำโฉนดที่ดินและบ้านพักไปจำนองกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ได้เงินมาราว 500,000 กว่าบาท และได้นำมาต่อเติมปรับปรุงบ้าน 100,000 กว่าบาท จากนั้นได้นำเงินที่เหลือไปซื้อรถกระบะมือสองหนึ่งคัน ในราคาเกือบ 200,000 บาท ซึ่งตนไม่เคยได้ใช้เงินก้อนดังกล่าวเลย มีเพียงที่ลูกชายจะให้ใช้ไว้ครั้งละ 500 บาท หรือ 1,000 บาทเท่านั้น

“ตอนนี้ตนไม่สบายใจมากและรู้สึกเป็นทุกข์เนื่องจากเมื่อไม่นานหลังจากที่เขาได้รับการยกบ้านให้รีบเอาไปเข้าไฟแนนซ์ เมื่อได้เงินมาเอามาใช้ส่วนตัว และจากนั้นได้มีปากเสียงทะเลาะกับตน และเขาได้บอกว่าจากนี้จะไม่ส่งบ้านให้และจะไม่ดูแลแล้ว โดยถ้าไม่มีบ้านอยู่ให้ไปอาศัยวัดอยู่ ตรงนี้ตนกลัวว่าตอนแก่จะไม่มีบ้านอยู่ และหลานสาวของตนซึ่งเป็นลูกสาวของเขาจะไม่มีที่อยู่ด้วย ตนจึงอยากจะขอวอนสื่อให้ช่วยไปบอกเขาว่าอย่าทอดทิ้งเราสองยายหลานเพราะนี่คือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่มีในชีวิตแล้ว” นางนิตยา กล่าว

น.ส.กสิกรณ์ อายุ 18 ปี ผู้เป็นหลานสาว บอกว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งตนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยพ่อได้มาขอให้ย่าโอนบ้านให้ ย่าโอนให้ด้วยความเต็มใจแต่เมื่อประมาณวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา พ่อได้ทะเลาะกับย่าและได้พูดชัดเจนที่ตนและย่าได้ฟังคือ ต่อจากนี้จะไม่ยอมส่งหนี้สินให้ และจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศจะต้องใช้เงินมาก ซึ่งตรงนี้พ่อบอกว่าจะไม่ส่งบ้านงวดแรก ในวันที่ 15 ตุลาคมที่จะถึงนี้ แต่ก่อนประมาณหกถึงเจ็ดงวดก่อน พ่อยังส่งค่างวดให้ทุกครั้ง แต่เดือนข้างหน้าหากพ่อไม่ส่งบ้านตนไม่รู้ว่าจะมีที่อยู่ที่ไหน และมีความเครียด ส่วนย่าเครียดไม่แพ้กัน โดยยอดหนี้สินที่มีอยู่ประมาณเดือนละ 7,000 กว่าบาท ระยะการส่งอยู่ที่ 80 งวด ตอนนี้ทั้งตนและย่าไม่รู้จะพึ่งใครจึงอยากให้สื่อช่วยแก้ไขปัญหาหรือประสานผู้ที่พอจะช่วยเหลือได้ให้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวตน

“โดยส่วนตัวหนูอยากจะบอกพ่อว่าขอให้ส่งค่าบ้านให้ย่า ได้มีที่อยู่ ส่วนหนูจะขอทำหน้าที่เป็นหลาน และดูแลผู้เป็นย่าจากนี้จนตลอดชีวิต และอยากจะมีบ้านอยู่กลัวว่าหากชีวิตไม่มีบ้าน จะกลายเป็นคนจรจัดในสังคม” น.ส.กสิกร กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น