เพชรบุรี - ผู้ว่าฯ เพชรบุรี และเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร จ.เพชรบุรี กล่าวขอโทษในที่ประชุมหลังมีการทุบทำลายปูนปั้นงานฝีมือของช่างทองร่วง ศิลปินแห่งชาติ ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร ด้านทายาทเผยรู้สึกเสียดายแต่ทำอะไรไม่ได้แล้ว
จากกรณีปัญหาที่เกิดจากการทำลายปูนปั้นรูปหนุมานถือตาชั่ง และมีคำบรรยายใต้ภาพว่า “ช่างหัวมัน” ฝีมือนายทองร่วง เอมโอษฐ ช่างปูนปั้นที่มีชื่อเสียงของ จ.เพชรบุรี และเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ศิลปะปูนปั้น) ซึ่งล่วงลับไปแล้ว ที่บริเวณก่อสร้างใกล้รั้วกำแพงด้านในของวัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งมีกระแสข่าวในสื่อต่างๆ ว่าวัดจะทำเป็นร้านกาแฟตรงบริเวณดังกล่าวโดยทุบทำลายปูนปั้นโดยไม่เห็นคุณค่า
ล่าสุด วันนี้ (24 ก.ย.) เวลา 16.30 น. นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานการประชุมเพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี พระวชิรวาที เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ วรวิหาร คณะกรรมการวัด และนางบุญเจือน เอมโอษฐ น.ส.สราญทิพย์ เอมโอษฐ ภรรยาและบุตรสาวนายทองร่วง มาร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย
นายณัฏฐชัย เผยหลังการประชุมว่า ก่อนหน้านี้บริเวณที่จะก่อสร้างเป็นห้องสุขาสำหรับผู้มาทำบุญที่วัดได้ใช้ประโยชน์ เป็นห้องสุขาที่สร้างขึ้นสมัยพระเทพสุวรรณโมลี เป็นเจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี และเป็นเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ต่อมาพระวชิรวาที เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมการวัด เพื่อจัดสร้างอาคารอเนกประสงค์แทนห้องสุขาดังกล่าว อาคารอเนกประสงค์ที่จะสร้างขึ้นเพื่อนำผลงานของนักเรียนที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ อาหาร และจัดให้มีร้านกาแฟเล็กๆ อยู่ในอาคารอเนกประสงค์นี้ด้วย เพื่อเป็นรายได้ของนักเรียน ร.ร.สุวรรณรังสฤษฏ์วิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนการกุศลในพระพุทธศาสนาที่มีพระวชิรวาที เป็นผู้รับใบอนุญาต โดยอาคารนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ส่วนห้องสุขาได้ย้ายไปจัดสร้างหลังวิหารหลวงที่กำหนดสถานที่ไว้แล้ว
จากกระแสข่าวที่มีผู้แสดงความคิดเห็นว่าวัดมหาธาตุเป็นวัดพุทธพาณิชย์ ขอชี้แจงว่าวัดมีรายได้จากผู้มาทำบุญวันละจำนวนมากแล้ว การจัดสร้างอาคารอเนกประสงค์ไม่ได้ทำเพื่อหารายได้เข้าวัด แต่ต้องการสนับสนุนให้นักเรียนมีรายได้และเป็นที่ฝึกงาน ฝึกอาชีพ และประสบการณ์ในการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคต
นายณัฏฐชัย กล่าวอีกว่า “กรณีที่กล่าวหาว่ามีการทำลายปูนปั้นเพื่อทำร้านกาแฟ เป็นการนำเสนอข่าวที่ไม่ตรงต่อความจริง คนไม่มีโอกาสได้รับรู้ข้อเท็จจริงและรักงานศิลปะจะเข้าใจว่าวัดเห็นแก่รายได้โดยรื้อทำลายงานศิลปะที่มีคุณค่า แต่ทางวัดได้ยอมรับแล้วว่ามีความบกพร่องในการควบคุมงาน ไม่มีเจตนาในการทำลายปูนปั้นของช่างทองร่วง และได้ขอโทษและทำความเข้าใจกับทายาทของช่างทองร่วง ต่อที่ประชุมในวันนี้ ปูนปั้นงานศิลปะเป็นภาพเดียวคือภาพช่างหัวมัน มิได้รื้อทำลายปูนปั้นทั้งวัดดังที่มีผู้แสดงความเห็นกัน ซึ่งไม่ตรงความจริง นายทองร่วงมีผลงานปูนปั้นฝากไว้ที่วัดแห่งนี้จำนวนมาก สามารถเข้ามาชมกันได้
โดยในที่ประชุมวันนี้ ได้หารือว่าจะทำให้งานศิลปะที่ถูกทำลายไปให้กลับคืนมาโดยฝีมือของทายาทหรือลูกศิษย์ของนายทองร่วงได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้ภรรยาและบุตรสาวของนายทองร่วงเข้าใจและพร้อมจะให้ความร่วมมือหาทางออกกับวัดในเรื่องนี้ต่อไป
ด้าน น.ส.สราญทิพย์ เอมโอษฐ บุตรสาวนายทองร่วง เปิดเผยว่า ตนเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น รู้สึกเสียดายผลงานศิลปะปูนปั้นที่นายทองร่วงฝากฝีมือไว้ที่วัดแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ตนและมารดาเห็นว่าการจัดสร้างอาคารอเนกประสงค์ ถ้าจะจัดทำเป็นร้านกาแฟก็สามารถทำได้ อาจจะเป็นร้านกาแฟที่สามารถชมงานศิลปะต่างๆ ไปด้วยได้
แต่หลังจากนี้ อาจจะมีการปั้นขึ้นมาใหม่หรืออะไรก็แล้ว แต่ทางทายาทคงไม่ได้ทำ เพราะถือเป็นการทำทับงานพ่อ เรายังทำใจไม่ได้ และไม่อยากทำงานทับลายฝีมือของพ่อ ซึ่งปกติแล้วลูกศิษย์จะไม่ทำงานทับลายเมืองอาจารย์ทองร่วม และที่สำคัญเป็นงานลายเดียวกันปกติเขาจะไม่ทำกัน ลูกศิษย์ทุกคนรักพ่อ และที่ผ่านพ่อจะสอนลูกศิษย์มาโดยตลอด ว่าใครที่งานไว้แล้วจะไม่ให้ไปทำต่อ ถือว่าเป็นการทับฝีมือกัน แต่ก็รับปากจะไปคุยกับทางช่างให้โดยทางแม่คงต้องไปคุยกับทางลูกศิษย์พ่อขอร้องกัน แต่ผลจะเป็นอย่างไรยังตอบไม่ได้
“รู้สึกเสียดายหากรู้ก่อนจะขอให้ตัดเสาแล้วนำไปตั้งที่บ้านเรา เพราะบ้านเราเป็นพิพิธภัณฑ์อยู่แล้ว แต่มาถึงขณะนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มาขอโทษแล้วรู้สึกดีขึ้น ตนและมารดายินดีที่จะร่วมเป็นกรรมการกับวัดเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ในโอกาสต่อไป”
