กรมทางหลวงเซ็นสัญญา PPP “ปตท.-ซีพี”หรือ บ.เดอะ เรส วิลเลจ”สร้างและพัฒนา ที่พักริมทาง (Rest Area) มอเตอร์เวย์ศรีราชา สัญญา 30 ปีรับรายได้ 1,511 ล้านบาท ชูไฮไลต์อาคารคล่อมเชื่อม 2 ฝั่งพร้อมพื้นที่ช้อปปิ้ง ปลายปี67 จ่อประมูล ที่พักริมทาง”บางปะอินและบางใหญ่”
วันที่ 19 กันยายน 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาการให้เอกชนร่วมลงทุนในการพัฒนาและบริหารจัดการโครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชาบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง ช่วงชลบุรี - พัทยา ระหว่าง กรมทางหลวง และ บริษัท เดอะ เรส วิลเลจ จำกัด โดยมี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารกรมทางหลวง ผู้บริหารและผู้แทนบริษัท เดอะ เรส วิลเลจ จำกัด, บริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด เข้าร่วม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า ที่พักริมทาง (Rest Area) มอเตอร์เวย์ศรีราชา เป็นจุดแรกที่กรมทางหลวง เปิดให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) เนื่องจากเอกชนมีความเชี่ยวชาญในด้านพัฒนาในรูปแบบนี้และยังมีการออกแบบพื้นที่สีเขียว มีการปลูกต้นไม้มากกว่าข้อกำหนดหลายร้อย % ซึ่งนอกจากเป็นจุดพักรถ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการประชาชน มีพื้นที่ร้านค้าเชิงพาณิชย์แล้วยังแบ่งพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร สำหรับสินค้าโอทอปเพื่อสนับสนุนชุมชนในพื้นที่โดยไม่คิดค่าเช่า และยังมีมีไฮไลต์เป็นอาคารยกระดับคร่อมอยู่เหนือช่องจราจรกว้าง 12 เมตร เชื่อมมอเตอร์เวย์ 2 ฝั่งและเป็นพื้นที่ร้านค้าต่างๆ ด้วย และมีทางหลวงมีรายได้ปีแรกประมาร 32 ล้านบาท และปรับเพิ่มขึ้นจนครบอายุสัญญา 30 ปี
และหลังจากนี้ กรมทางหลวงจะมีโครงการประมูล พัฒนาที่พักริมทาง (Rest Area) บนมอเตอร์เวย์ M 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา จำนวน 2 สัญญา และ มอเตอร์เวย์ M 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จำนวน 1 สัญญา ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลในปลายปี 67
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า โครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา เป็นโครงการที่พักริมทางขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณ กม. 93+500 ระหว่างทางแยกต่างระดับบางพระ (คีรี) และทางแยกต่างระดับหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีพื้นที่ทั้งหมด 121ไร่ แบ่งเป็นฝั่งขาออกกรุงเทพฯ พื้นที่ประมาณ 62 ไร่ ทิศทางฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ พื้นที่ประมาณ 59 ไร่
ปัจจุบันมีปริมาณจราจรผ่านพื้นที่โครงการมากกว่า 100,000 คันต่อวัน โครงการนี้นับเป็นที่พักริมทางแห่งแรกของประเทศไทยที่ดำเนินการในรูปแบบ PPP โดยเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ นำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาบริหารจัดการ และดูแลรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกของที่พักริมทางอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมทางหลวงจะส่งมอบพื้นที่และเร่งรัดเอกชนให้ออกแบบเพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการภายในปี 2567 คาดว่าจะเปิดให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วน เช่น ลานจอดรถ ห้องสุขา และพื้นที่พักผ่อน ในปี 2568 และเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2569 ต่อไป
สัญญาระหว่าง กรมทางหลวงและบริษัท เดอะ เรส วิลเลจ จำกัด ( ประกอบด้วย บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด โดยสัญญามีระยะเวลาดำเนินงาน 32 ปี แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 การออกแบบและก่อสร้าง มีระยะเวลา 2 ปี โดยเอกชนมีหน้าที่ในการจัดหาแหล่งเงินทุน รวมทั้งออกแบบและก่อสร้างพัฒนาที่พักริมทาง และจัดให้มีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในพื้นที่โครงการตามข้อกำหนด
ระยะที่ 2 การดำเนินงานและบำรุงรักษา มีระยะเวลา 30 ปี เมื่อโครงการเปิดให้บริการ เอกชนมีหน้าที่บริหารจัดการ ดูแลและบำรุงรักษาที่พักริมทาง ตลอดจนอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เดินทาง โดยจะต้องรักษาระดับการให้บริการให้เป็นไปตามเงื่อนไข KPI ที่กำหนด
ประเมินวงเงินลงทุนค่าก่อสร้าง 1,672 ล้านบาท ค่าดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ตลอดอายุ30 ปี 13,570 ล้านบาท เอกชนจ่ายค่าตอบแทนให้รัฐปีแรก 31.6 ล้านบาท โดยปรับขึ้น 10% ทมุก 3 ปี ค่าตอบแทนรวม 30 ปีที่ 1,511 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอยเชิงพาณิชย์ 23,380 ตร.ม.มีพื้นที่สีเขียว 35,200 ตร.ม. และพื้นที่บนอาคารยกระดับคร่อม 1,500 ตร.ม. รองรับรถยนต์ 4 ล้อได้ 767 คัน มี EV Charging STA จำนวน 60 ช่องจอด
ด้านนายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้รับโอกาสจากกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองของประเทศไทยในครั้งนี้ ในนามบริษัท เดอะ เรส วิลเลจ จำกัด มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาศูนย์บริการทางหลวงศรีราชาแห่งนี้ให้เป็นต้นแบบของที่พักริมทางระดับโลก และเป็น Landmark แห่งใหม่ของประเทศไทย มีสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลาย การออกแบบโครงการยึดหลัก Universal Design โดยผสานนวัตกรรมเข้ากับแนวคิดอนุรักษ์พลังงานและส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมสะอาด เพื่อสร้างยั่งยืนให้กับโครงการในระยะยาว อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการ คือ อาคารยกระดับคร่อมเหนือมอเตอร์เวย์ (Crossover) ที่มีพื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตร เชื่อมทั้งสองฝั่งของโครงการ รองรับการใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยออกแบบให้มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ เพื่อสร้างความประทับใจและดึงดูดผู้ใช้บริการให้แวะพักมากยิ่งขึ้น
@ทบทวน RFP ที่พักริมทาง มอเตอร์เวย์ บางปะอิน,บางใหญ่ คาดประมูลปลายปีนี้
สำหรับโครงการที่พักริมทาง (Rest Area) ที่เตรียมเปิดประมูลในลำดับต่อไปคือ ที่พักริมทาง บนมอเตอร์เวย์ M 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา จำนวน 2 สัญญา และ มอเตอร์เวย์ M 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จำนวน 1 สัญญา อยู่ระหว่างทบทวนร่าง RFP ใหม่ซึ่งมีการปรับปรุงเงื่อนไขการก่อสร้าง อาคารยกระดับคร่อมเหนือมอเตอร์เวย์ (Crossover) ใหม่ จากเดิมที่ให้ก่อสร้างใน 2 ปีแรก แต่จากการรับฟังความเห็นเอกชนกังวลปริมาณจราจร เพราะเป็นเส้นทางใหม่ จึงมีปรับเงื่อนไขสร้างอาคารคร่อมด้านบน ตาเกณฑ์ปริมาณจราจร หรือ หากจราจรไม่ถึงเกณฑ์ให้สร้างภายในปีที่ 18 ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอคณะกรรมการร่าง RFP พิจารณาและเสนอสคร.พิจารณากรณีการปรับเงื่อนไขต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปีนี้
