เชียงใหม่ - เลขาธิการ ป.ป.ส.นำแถลงผลงาน นบ.ยส.35 ปราบปรามยาเสพติดในรอบ 10 เดือน ยึดของกลางเพียบทั้งยาบ้ากว่า 246 ล้านเม็ด ไอซ์ 2,648 กิโลกรัม เฮโรอีน 264 กิโลกรัม ปะทะ 41 ครั้ง ดับ 25 ศพ รวบผู้ต้องหา 412 คน พร้อมยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 94 ล้านบาท เผยวางแผนเตรียมพร้อมปฏิบัติงานปี 68 ลุยสกัดกั้นกวาดล้างต่อเนื่อง
วันนี้ (9 ก.ย. 67) ที่ห้องพลอยไพลิน โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ(ผบ.นบ.ยส.35), พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยราชการตำรวจภูธรภาค 5, พล.ต.ต.วรพัฒน์ บุญมา ผบก.ตชด.ภาค 3, พ.ต.อ.จักริน พิริยะจิตตะ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการสกัดกั้น กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, นายสราวุธ ภักดี ผอ.ปปส.ภ.6, นายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 และฝ่ายปกครอง จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และแม่ฮ่องสอน ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภายหลังจากรัฐบาลต้องการให้ปัญหายาเสพติดลดลงให้ได้ภายใน 1 ปี โดยกำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน 11 อำเภอ ชายแดนของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย และได้กำหนดพื้นที่เพิ่มเติมอีก 7 อำเภอชายแดนของจังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา และน่าน รวมเป็น 18 อำเภอใน 6 จังหวัด โดยในวันที่ 9-10 ก.ย. 67 ได้จัดประชุมทบทวนผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในกลไกที่บูรณาการงานร่วมกัน เช่น หน่วยงานทหาร (กองกำลังผาเมือง, กองกำลังนเรศวร) ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรภาค 6 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ฝ่ายปกครองในพื้นที่ รวมถึงสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 และ ป.ป.ส.ภาค 6 เพื่อทบทวนการทำงานที่ผ่านมาและเตรียมวางแผนงานการดำเนินงานในปี 2568 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไป
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมานั้น ดำเนินการสกัดกั้น ปราบปรามขยายผล ป้องกันยาเสพติด อย่างเข้มข้น มีเหตุปะทะ 41 ครั้ง กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 25 ศพ ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ปริมาณของกลางยาบ้า 246,300,685 เม็ด, ไอซ์ 2,648.90 กิโลกรัม, เฮโรอีน 264 กิโลกรัม, ฝิ่น 205 กิโลกรัม และเคตามีน 21 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหาได้ 412 คน รวมทั้งการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ 98 ครั้ง และสืบสวนขยายผล ยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด จำนวนกว่า 94.33 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการจัดระเบียบหมู่บ้านชายแดน สถานประกอบการ สถานบันเทิงในพื้นที่ และได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพแกนนำหมู่บ้าน/ชรบ.ในพื้นที่ชายแดน และส่งเสริมให้ ชรบ.ปฏิบัติการตรวจตราเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้าน
ขณะที่ในปีงบประมาณ 2568 ตั้งเป้าหมายจะดำรงความต่อเนื่องในการสกัดกั้นยาเสพติดอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสนองตอบต่อนโยบายรัฐบาล เพื่อให้ปัญหายาเสพติดลดลงให้มากที่สุด จนไม่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทย และนำความปลอดภัยมาสู่พี่น้องประชาชน ซึ่งด้านการสกัดกั้นยาเสพติด ฝ่ายทหารจะกำหนดกลยุทธ์และเอกภาพการบัญชาการในพื้นที่ โดยจะบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจเพื่อแบ่งมอบพื้นที่และภารกิจให้สอดคล้องกับหน่วยงานป้องกันชายแดน ในส่วนด้านงานปราบปราม จะใช้กลยุทธ์การประสานงานข่าวยาเสพติดชายแดนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อกำหนดสภาพแวดล้อม บีบบังคับ กำจัดเสรีการปฏิบัติของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด จนนำไปสู่การจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายการค้ายาเสพติด เพื่อลดทอนศักยภาพของเครือข่ายการค้ายาเสพติด
ส่วนด้านการป้องกันยาเสพติด เน้นการเสริมสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนชายแดน ให้มีความเข้มแข็ง รวมถึงการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะใช้กลไกความร่วมมือในระดับท้องถิ่นบริเวณชายแดน เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงสถานการณ์ความรุนแรงและปัญหายาเสพติดร่วมกัน และให้ความร่วมมือในการจับกุมผู้กระทำผิดยาเสพติดที่หลบหนีหมายจับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นำกลับมาลงโทษเพื่อตัดวงจรการค้าและการลักลอบลำเลียงยาเสพติดต่อไป