เชียงราย - เผยนาที นรข.เชียงแสนปิดล้อมตรวจยึดยานรกล็อตใหญ่ 33 กระสอบ กว่า 8 ล้านเม็ด..พบบรรทุกเรือออกจากฝั่งลาวข้ามโขงเข้าไทย ใช้คนรอริมฝั่งขนขึ้นกระบะติดคอกร่วม 20 คน นบ.ยส.35 ชี้ยาบ้าทะลักเพิ่มจากปีก่อน 1 เท่าตัว ไอซ์เพิ่มเกือบ 50% จนต้องตรึงกำลังสกัดเข้ม
วันนี้ (30 พ.ค.) พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) พ.อ.กิดากร จันทรา รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง น.อ.ศราวุธ เถื่อนบุญ ผบ.นรข.เขตเชียงราย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แถลงข่าวที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย
หลัง พลเรือตรี นรินทร์ ขาวเจริญ ผู้บัญชาการ นรข.ได้เน้นย้ำให้หน่วยในบังคับบัญชาปฏิบัติตามภารกิจที่กองทัพเรือมอบหมาย คือ การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย คุ้มครองและช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ ตามหลักมนุษยธรรมในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง รวมทั้งสนับสนุนกำลังทางบก ในการรักษาความมั่นคงและป้องกันประเทศนั้น
ต่อมา นาวาโท คมสัน จ้อยลี หัวหน้าสถานีเรือเชียงแสน ได้รับแจ้งจากสายลับกลางดึกคืนวันที่ 29-30 พ.ค. ว่าขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจะใช้เรือกาบขนยาบ้าออกจากฝั่ง สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงเข้ามายังฝั่งประเทศไทยบริเวณบ้านปงของ หมู่ 5 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการข่าวและชุดปฏิบัติการพิเศษวางกำลังเฝ้าระวัง
กระทั่งพบเรือกาบติดเครื่องยนต์ลำหนึ่ง ซึ่งมีคนนั่งมาในเรือ 2 คน ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งมา แล่นออกจากฝั่ง สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงมายังฝั่งไทยตรงบ้านปงของ ซึ่งมีคนรออยู่ประมาณ 20 คน จากนั้นได้ช่วยกันลำเลียงกระสอบฟางที่อยู่ในถุงพลาสติกสีดำขึ้นจากเรือแล้วนำมากองไว้ริมตลิ่งก่อนจะขนขึ้นรถกระบะคันหนึ่งที่จอดห่างจากฝั่งประมาณ 50 เมตร
เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าไปทำการตรวจค้นปรากฏว่ากลุ่มคนดังกล่าวได้ทิ้งรถทิ้งกระสอบแยกย้ายกันวิ่งหนีไปในความมืด ส่วนคนขับเรือได้นำเรือแล่นกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาว เมื่อตรวจสอบกระสอบดังกล่าว เบื้องต้นพบมีจำนวน 33 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จึงได้นำของกลางทั้งหมดมาตรวจสอบโดยละเอียดที่สถานีเรือเชียงแสนพบมีจำนวน 8,300,000 เม็ด จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.อ.นฤทธิ์เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลให้เพิ่มพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในชายแดนภาคเหนืออีก 7 อำเภอ จากเดิมที่มีจำนวน 11 อำเภอ ครอบคลุม จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน และตาก เพื่อขยายการปราบปราม และล่าสุดทาง นรข.เขตเชียงรายก็สามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากดังกล่าว
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 ถึงปลายเดือน พ.ค.นี้ นบ.ยส.35 มีผลปฏิบัติคือ มีเหตุการณ์สำคัญจำวน 83 ครั้ง มีการปะทะกับกลุ่มขบวนการ 33 ครั้ง ตรวจยึดจับกุม 46 ครั้ง และขยายผลยึดทรัพย์ 4 ครั้ง ตรวจยึดยาบ้าได้ 146,866,721 เม็ด ไอซ์ 1,890 กิโลกรัม เฮโรอีน 246 กิโลกรัม ฝิ่นดิบ 188 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหาได้ 1,521 ราย กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 25 ศพ จากสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาพบว่ายึดยาบ้าได้เพิ่มขึ้น 1 เท่า ไอซ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 47.43
