พระนครศรีอยุธยา - เจ้าท่าอยุธยาเตรียมควบคุมการจราจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก เรือลำเลียงสินค้าได้ไม่เกินพวงละ 3 ลำ ป้องกันอุบัติเหตุในช่วงน้ำหลาก เน้นย้ำการเดินทางทางน้ำให้สวมใส่เสื้อชูชีพ
วันนี้ (5 ก.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่ง จำนวน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ อำเภอบางไทร อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน และอำเภอบางปะหัน ซึ่งทั้งหมดส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำสายต่างๆ ล้นตลิ่งเข้าท่วม ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และ แม่น้ำป่าสัก รวมถึงอุบัติเหตุทางน้ำที่มักเจอในช่วงฤดูน้ำหลาก คือ เรือบรรทุกสินค้าที่ สัญจรในแม่น้ำ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับนายพีรธร นาคสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา พร้อมเปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์ปัจจุบันฤดูน้ำหลากปีนี้ ในช่วงแรกเราได้ติดตามสถานการณ์น้ำทุกวัน โดยให้เด็กประจำท่าเรือต่างๆ ทั้งแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา ว่าวันนี้มีน้ำขึ้นเท่าไหร่ ร่วมถึงได้รับการกำชับจากอธิบดีกรมเจ้าท่า ให้เราตั้งศูนย์ เป็นศูนย์สำหรับความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เรามีเรือ 3 ลำ เป็นเรือสปีดโบ๊ต 2 ลำ เรือท้องแบน 1 ลำ เจ็ตสกี 1 ลำ รถยนต์ 3 คัน คนอีก 18 คน พร้อมรับมือสถานการณ์
ส่วนในเรื่องการจัดการสัญจรทางน้ำ เราได้ออกประกาศไปแล้ว 2 ฉบับ โดยฉบับแรก ตอนที่น้ำอยู่ระดับ 1,400 ลบ.ม./วินาที กำชับให้เรือลากจูงในแม่น้ำเจ้าพระยาโต่งท้ายในบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ เช่น โค้งอู่ต่อเรือ และโค้งวัดพนัญเชิงวรวิหาร ให้ผู้ประกอบการที่ทำงานสวมใส่เสื้อชูชีพทุกครั้ง และตอนนี้ระดับน้ำขึ้นมาอยู่ที่ 1,498 ลบ.ม./วินาที เราให้เดินเรือในช่วงกลางวัน ช่วงขาขึ้น เนื่องจากขาขึ้นเป็นเรือหนักวิ่งสวนน้ำ เราปรับให้เหลือ 3 พวง ของล่องเป็นเรือเบา ให้วิ่งหลีกกัน ในเรื่องของการควบคุมการจราจร
“เรามีการคุมเข้ม มีการติดตามสถานการณ์น้ำทุกวันตามท่าเรือต่างๆ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำท่าอยู่ เราเป็นห่วงเด็กนักเรียนช่วงเช้า และช่วงเลิกเรียน เราจะมีเจ้าหน้าที่ไปประจำท่าเรือทุกแห่ง เนื่องจากตอนนี้กระแสน้ำเริ่มแรง ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด”
ขณะนี้ทุกบริษัทต้องการเอาสินค้าขึ้นให้เร็ว ในช่วงไม่กี่วันนี้ ถ้าน้ำมาจนถึง 1,800 ลบ.ม./วินาที เราจะให้ตัดพวงเหลือเพียง 3 พวง และจัดการจราจรน่าจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากได้คุยกับทางสมาคมเดินเรือแล้วในเรื่องการจราจร จัดว่าเวลาไหนใครจะเข้า เวลาไหนใครจะออก เพื่อไม่ให้ติดขัด เนื่องจากกระแสน้ำที่แรงทำให้การทรงตัวของเรือไม่คอยดี จึงต้องมีการจัดการจราจรเพิ่มขึ้น รวมถึงฝากความเป็นห่วงในเรื่องการใช้ยานพหานะทางน้ำตอนนี้ ควรสวมใส่ชูชีพทุกครั้งเนื่องจากกระแสน้ำที่มามันอาจจะขึ้นลงเร็วมาก แต่ถ้ามีอะไรเจ้าท่าเปิดศูนย์สามารถติดต่อเข้ามาได้ตลอดเวลา