พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ กรุงเก่าพร้อมนายกเหล่ากาชาดลงพื้นที่เยี่ยมกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียงที่ประสบอุทกภัยใน 3 อำเภอ พร้อมทั้งมอบน้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้น้ำกัดเท้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน วันนี้ (30 ส.ค.) นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ และอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง พร้อมทั้งมอบน้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้น้ำกัดเท้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยมี นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่
จากกรณีที่เขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนกว่า 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่น อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายแห่ง และพบว่ามีชุมชนหลายชุมชนเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำติดกับคลองและแม่น้ำน้อย ถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะลงพื้นที่ทันทีออกเยี่ยมเยียนช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและผู้ป่วยติดเตียงก่อนเป็นอันดับแรก โดยนำทีมแพทย์เข้าไปประเมินและติดตามอาการป่วย และพร้อมสั่งการช่วยเหลืออพยพออกจากบ้านทันทีหากระดับน้ำสูงขึ้นจนไม่สามารถพักอาศัยในบ้านได้
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า พื้นที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอ ได้เริ่มมีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนหลายตำบล โดยทางจังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามและให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งแต่ละพื้นที่มีการจัดเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นเข้าให้การช่วยเหลือมาโดยตลอดตั้งแต่แรก แต่จะเป็นห่วงในส่วนของกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ หากว่ากลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ต้องการเคลื่อนย้ายออกมาพักพิงในสถานที่ที่ทางอำเภอ ท้องถิ่นจัดรองรับไว้ให้ จะมีทีมแพทย์จากสาธารณสุขจังหวัด ประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ทุกอำเภอ เตรียมความพร้อมออกมาดูแลประชาชน ทั้งยารักษาโรค ยาสามัญประจำบ้าน
รวมไปถึงยาทาแก้น้ำกัดเท้า รวมถึงจัดทีมแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปดูแลผู้ป่วยที่ออกมาไม่ได้ จะไปดูแลถึงบ้าน และในพื้นที่น้ำท่วมทุกอำเภอได้มีการกำชับในเรื่องของการสื่อสารแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบ ออกไปดูแลพี่น้องประชาชน และต้องให้เบอร์โทร.ติดต่อกับพี่น้องประชาชนทุกบ้าน เพื่อที่จะประสานขอความช่วยเหลือได้ทันทีในกรณีจะอพยพ เคลื่อนย้ายออกจากบ้านเรือน กรณีน้ำขึ้นสูงจนไม่สามารถพักอาศัยได้