พิษณุโลก - ศาลปกครองพิพากษาแล้ว..สั่งเพิกถอนใบอนุญาตเอกชนขนขยะฝังกลบใกล้ “วัดบ่อทองคำ” ให้นายกเทศมนตรีและเทศบาลตำบลหัวรอบังคับใช้ พ.ร.บ.สาธารณสุข 2535 ย้อนตั้งแต่วันเซ็นให้ไฟเขียวปี 61
บ่ายวันนี้ (14 ส.ค.) ศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลกอ่านคำพิพากษา คดีดำ ส.5/2562 คดีแดง ส.7/2567 ระหว่างผู้ฟ้อง คือ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและพวกรวม 21 คน กับผู้ถูกฟ้องคดี นายกเทศมนตรีตำบลหัวรอ (ที่ 1) กับพวกรวม 2 คน และบริษัทไทยมีดี ผู้ร้องสอด เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานปกครองหรือเจ้าหน้าที่รัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด
สั่งให้เพิกถอนคำสั่งการกระทำทั้งหมดหรือบางส่วน พิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอย เลขที่ ๖๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ 27 กันยายน 2561 ที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ออกให้แก่ผู้ร้องสอด โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ออกใบอนุญาต และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อำนาจให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ หมวด ๕ มาตรา ๒๕ ถึงมาตรา ๒๘/๑ ควบคุมดูแลผู้ร้องสอดให้ปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัดและมิให้กระทำการใดๆ อันก่อให้เกิดเหตุรำคาญแก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 คน ภายในกำหนด 30 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ฟ้องคดีที่ 1 ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้ฟ้องคดีที่ 2 ถึงที่ 21 กล่าวว่า สืบเนื่องจากปี 62 ชาวตำบลหัวรอ ได้ร้องเรียนปัญหาบ่อขยะใกล้วัดบ่อทองคำ ส่งกลิ่นเหม็น น้ำเสีย สมาคมฯ จึงได้ยื่นฟ้องนายกเทศมนตรีตำบลหัวรอ สู้คดีเรื่อยมา กระทั่งศาลปกครองพิษณุโลกมีคำพิพากษาชัดเจนคือ สั่งเพิกถอนใบอนุญาต ที่อนุญาตเอกชนนำขยะมาฝังกลบบริเวณพื้นที่ใกล้วัดบ่อทองคำ และให้นายกเทศมนตรีและเทศบาลให้ดำเนินไปตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข 2535 ถึง 28/1
ซึ่งนับจากนี้ไปสมาคมฯ จะต้องเฝ้าตรวจสอบว่าผู้ถูกฟ้องคดีและผู้ร้องสอดยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ ส่วนการบังคับคดีนั้น ทางสมาคมฯ จะยื่นคำขอไปยังศาลปกครองพิษณุโลกหรือศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้มีการบังคับคดี ก่อนที่จะมีคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดได้ เพื่อให้คำพิพากษาของศาลปกครองพิษณุโลกสามารถนำไปปฏิบัติและบังคับใช้ได้เลย โดยไม่ต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
